โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมรณรงค์เนื่องในวันการได้ยินโลก World Hearing Day 2025 จัดกิจกรรมบริการวิชาการสุขภาพ Changing Mindsets : Empower Yourself Make ear and hearing care a reality for all เปลี่ยนทัศนคติ ร่วมสร้างพลังให้ตนเอง เพื่อให้การดูแลหูและการได้ยินเป็นจริงสำหรับทุกคน
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ส่งเสริมการดูแลสุขภาพหู เนื่องในวันการได้ยินโลก World Hearing Day 2025 ภายใต้ธีม Changing Mindsets : Empower Yourself Make ear and hearing care a reality for all “ เปลี่ยนทัศนคติ ร่วมสร้างพลังให้ตนเองเพื่อให้การดูแลหูและการได้ยินเป็นจริงสำหรับทุกคน ” โดยทีมแพทย์เฉพาะทางโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์และนักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย ร่วมเสวนาให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพหูและการได้ยิน ในหัวข้อ เพราะการได้ยินมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในทุกช่วงวัย “รักษ์หู....ใส่ใจการได้ยิน” นำโดย พญ.พิลาสลักษณ์ นำชัยชนะกิจ หัวหน้างานโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พญ.วิชชุดา เทียมพยุหา แพทย์เฉพาะทางด้านโสตประสาทการได้ยินและการทรงตัว พร้อมด้วยคุณพิมพิมล สีแสงหน่อม นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย ร่วมเวทีเสวนาและเติมพลังบวกพร้อมแง่คิดดี ๆ กับและแขกรับเชิญพิเศษ "ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล" ผู้ดูแลหัวใจของสังคมแห่ง Club Friday กับช่วงเสวนา Changing Mindsets เปิดใจรับฟัง “เข้าใจ....ต่างวัย” นอกจากนี้ ยังมีบูธกิจกรรมจากทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มาให้บริการ อาทิ บริการให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งศีรษะและลำคอ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย นพ.สิรวิชญ์ ศิริรัตน์ พญ.ชญานิน เรือนแป้น และ พญ.ธณิอร ศุภนิตย์ บริการนัดหมายสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะเข้ารับการตรวจรักษา ชมนิทรรศการ “น้องหู” ชวนทำความรู้จักกับกายวิภาคหู สรีรวิทยาของหู และบูธกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัลภายในงาน โดยมี รศ.พญ.ชนิสา โชติพานิช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ดำเนินรายการโดยคุณได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ณ ชั้น 1 อาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
รศ.พญ.ชนิสาโชติพานิช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นสถาบันการศึกษาวิจัยและสถาบันการแพทย์ มีพันธกิจในด้านบริการวิชาการและวิชาชีพด้านสุขภาพแก่สังคม โดยมีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นส่วนงานหลักในการให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ความรู้และการดูแลเชิงป้องกัน รวมถึงกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพหูและการได้ยิน ตลอดจนสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียม ตามพระปณิธานของศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และองค์ประธานผู้ทรงจัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ในวันที่ 3 มีนาคมของทุกปีเป็นวันการได้ยินโลก เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันความพิการทางหูและการสูญเสียการได้ยิน ตลอดจนส่งเสริมการดูแลหูและการได้ยินทั่วโลก โดยธีมในปี 2025 มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลหูและการได้ยิน โดยมุ่งหวังให้ผู้คนร่วมเสริมสร้างพลังให้ตนเองและผู้อื่นมีสุขภาพหูที่ดี ภายใต้ธีม Changing Mindsets : Empower Yourself Make ear and hearing care a reality for all "การเปลี่ยนทัศนคติ : เสริมสร้างพลังให้ตนเองเพื่อให้การดูแลหูและการได้ยินเป็นจริงสำหรับทุกคน!" โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพหูและการได้ยิน และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อปกป้องการได้ยินจากเสียงดังและป้องกันการสูญเสียการได้ยิน พร้อมทั้งหมั่นตรวจสอบการได้ยินเป็นประจำ ”
พญ.วิชชุดา เทียมพยุหา แพทย์เฉพาะทางโสตประสาทการได้ยินและการทรงตัว กล่าวถึง ภาพรวมของสุขภาพหู และสาเหตุความผิดปกติทางการได้ยิน พร้อมข้อแนะนำการดูแลสุขภาพหูอย่างถูกวิธีว่า “ ความผิดปกติทางการได้ยินเกิดจากสาเหตุ อาทิ สิ่งแปลกปลอมอุดตันในรูหู หูน้ำหนวก แก้วหูทะลุ โรคหูดับเฉียบพลัน โรคมีเนียร์ โรคหูตึงเมื่ออายุมากขึ้น ทั้งนี้ หากรู้สึกได้ว่าการได้ยินลดลง หูอื้อ แน่นในหูตลอดเวลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ อาการเหล่านี้ เป็นสาเหตุบ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหูตึง โดยหากมีอาการรู้สึกได้ยินลดลง ควบคู่กับการติดเชื้อในหู เช่น หูน้ำหนวก มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการได้ยินได้รับอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่หูหรือศีรษะ มีโรคประจำตัว เช่น วัณโรค เอชไอวี ซิฟิลิส โรคความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน มีอาการปวดหู มีหนองหรือเลือดไหลออกจากหู รู้สึกได้ยินลดลงแบบเฉียบพลัน หรือมีอาการเวียนศีรษะแบบเฉียบพลันเป็นๆ หายๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที การดูแลสุขภาพหูอย่างถูกวิธี ไม่ควรแคะหูเนื่องจากมีความเสี่ยงอาจทำให้หูอื้อหรือการอักเสบติดเชื้อ เกิดแผลถลอก ส่งผลให้ช่องหูเกิดการตีบแคบและการได้ยินลดลงได้ สำหรับการป้องกันการเกิดโรคประสาทหูเสื่อม กรณีผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีเสียงดัง ควรใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น earplugs หรือ earmuffs ระมัดระวังการใช้ยาบางชนิดซึ่งเป็นพิษต่อหู เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycoside ยาต้านอักเสบในกลุ่มNSAIDs งดรับประทานเนื้อหมูดิบ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียในเนื้อหมูดิบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และทำให้เกิดหูชั้นในอักเสบและหูหนวกตามมา ”
พิมพิมล สีแสงหน่อม นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย กล่าวถึง สถานการณ์โรคหูตึงในปัจจุบันและสิทธิ์การเบิกจ่ายเครื่องช่วยฟัง ว่า “ ผู้ที่มีอาการหูตึงสามารถเบิกจ่ายเครื่องช่วยฟัง ตามสิทธิ์การรักษาได้ โดยแยกตามสิทธิ์ของตน คือ สิทธิ์ประกันสังคม สามารถเบิกค่าเครื่องช่วยฟังแบบแขวนหลังหูได้ ข้างละ 12,000 บาท หรือแบบใส่ในช่องหูได้ข้างละ 12,500 บาท สิทธิ์ข้าราชการเบิกค่าเครื่องช่วยฟังได้ ข้างละ 13,500 บาท รวมสองข้าง 27,000 บาท ขั้นตอนการขอรับสิทธิ์ คือ เข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากรพ.ของรัฐ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าประสาทหูเสื่อมและจำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยฟัง สามารถซื้อได้โดยตรงจากโรงพยาบาลที่มีเครื่องจำหน่าย สำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ สิทธิ์และขั้นตอนการเบิกจ่ายขึ้นอยู่กับระเบียบของแต่ละหน่วยงาน ส่วนสิทธิ์บัตรทอง ต้องเป็นผู้สูญเสียการได้ยินทั้ง 2 ข้าง และมีการได้ยินที่ยังคงเหลืออยู่ ในหูข้างที่ได้ยินตั้งแต่ 40 เดซิเบลขึ้นไป หลังสิ้นสุดการรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด ”
ด้าน พญ.พิลาสลักษณ์ นำชัยชนะกิจ หัวหน้างานโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และแขกรับเชิญพิเศษ ดีเจพี่อ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล แห่ง Club Friday ได้ร่วมเสวนา Changing Mindsets เปิดใจรับฟัง “เข้าใจ.... ต่างวัย” บนเวที โดยร่วมแชร์ประสบการจากการตรวจรักษาคนไข้สูงวัยและปัญหาการได้ยิน รวมถึงแนวทางการปรับมุมมองของคนต่างวัยในครอบครัวที่พบปัญหาการได้ยินในกรณีผู้ป่วยสูงวัย ทั้งนี้ หากสงสัยว่ามีอาการหูได้ยินน้อยลง ได้ยินไม่ชัด ควรรีบปรึกษาแพทย์ และเช็คอาการว่าเข้าเกณฑ์ที่ควรใส่เครื่องช่วยฟังหรือไม่ เพราะหากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้ได้ยินชัดเจนขึ้นแล้ว ยังทำให้ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์หรือภาวะความจำเสื่อมได้ อนึ่ง “เพราะการได้ยินมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในทุกช่วงวัย” การได้ยินที่ถูกต้องชัดเจนทำให้ครอบครัวมีการสื่อสารกันที่ดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุในบ้าน เป็นวัยที่ต้องการความรักและเอาใจใส่ การได้ยินที่ชัดเจนทำให้พูดคุยกันมากขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้นด้วย
คลินิกโสต ศอ นาสิก ลาริงซ์วิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทางหู คอและจมูก ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การรักษาด้วยยา รวมถึงการผ่าตัด โดยทีมโสต ศอ นาสิก แพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการให้บริการที่ครอบคลุม ตรวจรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไปทางหู คอ จมูก โรคจมูกภูมิแพ้และผ่าตัดส่องกล้องไซนัส โรคภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบ ครอบคลุมถึงการผ่าตัดผ่านกล้องในโพรงจมูก โรคมะเร็งบริเวณกล่องเสียง ศีรษะและลำคอ ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกและมะเร็งของบริเวณช่องปาก กล่องเสียง ไทรอยด์และต่อมน้ำลาย ตรวจรักษาระบบการได้ยินและการทรงตัว ความผิดปกติของการได้ยิน การฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยินและการใส่เครื่องช่วยฟัง รวมถึงตรวจรักษาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือทำนัดหมาย ได้ที่ 02 576 6815 , 0 2576 6851
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี