ประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้วเล่าเรื่องเมืองปีนัง หรือเกาะหมากให้คุณได้ฟัง แล้วบอกว่าจะพาไปเที่ยวในช่วงปลายเดือนเมษายนปีนี้ ทำให้ผู้อ่านกลุ่มหนึ่งส่งข่าวมาแล้วบอกว่าสนใจอยากร่วมทริปด้วย
วันนี้จึงมาเล่าเรื่องปีนังแบบประมาณว่าฉายหนังซ้ำอีกรอบ เพราะครั้งที่แล้วพูดถึงปีนังแบบรวบรัด วันนี้มาขยายความต่อว่า ปีนังเคยเป็นดินแดนของสยามมาก่อน เพราะในยุคเก่าก่อนนั้นปีนังอยู่ในการปกครองของเมืองไทรบุรี หรือปัจจุบันคือรัฐเคดะห์ ย้ำว่าไทรบุรีเคยเป็นดินแดนของสยาม แต่อังกฤษขอเช่าที่นี้จากสุลต่านรัฐเคดะห์ ซึ่งสุลต่านแห่งเคดะห์ก็ให้เช่า เพราะต้องการหลุดพ้นจากอำนาจของสยามในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยอังกฤษขอเช่าในนามบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ถามว่าเช่าไปเพื่ออะไร ตอบว่าเช่าเพื่อตั้งสถานีการค้า ครั้งเมื่ออังกฤษเข้าครอบครองมาเลเซียหรือมลายูได้ทั้งหมด ก็หมายความว่ารัฐเคดะห์และปีนังได้ตกไปอยู่ในการครอบครองของอังกฤษ จนเมื่อมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว ไทรบุรีก็จึงตกเป็นของมาเลเซียไปโดยปริยาย
เมื่อพูดถึงปีนังก็ทำให้ต้องสาวประวัติศาสตร์ลงไปแล้วทำให้พบว่า ในอดีตนั้นมีจีนฮกเกี้ยน ชื่อคอซู้เจียง ได้อพยพมาตั้งรกรากที่เกาะหมาก โดยแรกเข้ามานั้นได้ทำอาชีพชาวสวนผัก ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จากนั้นก็ได้อพยพเข้ามาทำกินในเขตแดนสยามที่เมืองตะกั่วป่า พังงา แล้วเปลี่ยนไปทำอาชีพค้าขายแร่ดีบุกของสยามกับปีนัง และขยายกิจการไปทำเหมือนแร่ดีบุกในที่สุด สำหรับคอซู้เจียงคือต้นตระกูล ณ ระนอง
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป ในครั้งหนึ่งระหว่างเสด็จกลับจากยุโรป ทรงแวะพักที่บ้านระนอง ณ เมืองปีนัง ของคอซู้เจียง ในปี 2440 ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว และพื้นที่ของบ้านในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นหอศิลปะและโรงละคร เดวัน ศรีปีนัง ถนนสุลต่านอาหมัด ซาฮ์ แต่เดิมคือถนนนอร์ธแทม
ถนนเส้นนี้ในครั้งอดีตคือที่ตั้งของคฤหาสน์ของคนมีฐานะดีในปีนัง เช่น คฤหาสน์ตระกูล ณ ระนอง ที่ชื่อบ้านจักรพงษ์ และอัษฎางค์ สำหรับบ้านจักรพงษ์เคยใช้เป็นสถานที่รับเสด็จ เมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2450ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวถูกรื้อลงแล้ว ส่วนที่ตั้งของบ้านก็ได้ถูกขายแล้วนำไปสร้างอพาร์ทเมนท์
ส่วนบ้านอัษฎางค์เคยใช้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ในปี 2467 และ
รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ในปี 2472
ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวถูกรื้อถอนไปแล้ว
วันนี้เขียนเล่าประวัติศาสตร์เมืองปีนังที่เกี่ยวพันกับสยามและพระราชวงศ์ฺชั้นสูงของไทย เพื่อให้คุณผู้อ่านเห็นชัดว่าปีนังกับสยามหรือไทยมีความเกี่ยวข้องผูกพันกันมายาวนานในครั้งอดีต แม้ปัจจุบันปีนังจะไม่ได้อยู่ในความปกครองของไทยก็ตาม แต่อดีตยังคงตราตรึงอยู่ตลอดไป
ส่วนภาพประกอบเรื่องในวันนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เล่าให้ฟัง แต่นำภาพที่เป็นภาพปัจจุบันมาฝาก เพราะ Mr.Flower เพิ่งไปปีนังล่าสุดเมื่อปลายเดือน
กุมภาพันธ์นี้ และตั้งใจพาสมาชิกกลุ่มเล็กๆ14-15 คนไปเที่ยวปีนังด้วยกัน หากคุณสนใจร่วมทริป โปรดติดต่อ 091-7233615 คาดว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวปีนังประมาณ หลังสงกรานต์ปีนี้ แล้วพักที่ปีนัง 2 คืน หากสนใจกรุณารีบติดต่อ เพราะรับสมาชิกจำนวนจำกัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี