หากพูดถึงประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก หลายคนก็ต้องนึกถึงฟินแลนด์ เพราะได้รับการจัดอันดับให้ได้ที่ 1 ในเรื่องนี้ติดกันหลายปีแล้ว และการจัดอันดับในปีนี้ ฟินแลนด์ก็ยังคงได้ที่ 1 อยู่ ทำให้ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกติดต่อกัน8 ปี ในรายงานความสุขโลก (World Happiness Report) ประจำปี 2025 โดยมีคะแนนนำหน้าคู่แข่งอย่างเดนมาร์ก (อันดับ 2) ไอซ์แลนด์ (อันดับ 3) และสวีเดน (อันดับ 4) ซึ่งทั้งหมดยังคงรักษาลำดับเดิมจากปีที่แล้ว ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นอร์เวย์ตามมาในอันดับที่ 7 ทั้งหมดล้วนเป็นประเทศที่มาจากแถบนอร์ดิก หรือยุโรปเหนือทั้งสิ้น
รายงานนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Gallup, Oxford Wellbeing Research Centre, UN Sustainable Development Solutions Network และคณะบรรณาธิการ เผยแพร่เพื่อเฉลิมฉลองวันสหประชาชาติว่าด้วยความสุขสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มี.ค.ของทุกปี
ความสำเร็จของกลุ่มประเทศนอร์ดิกนี้ ได้รับการยกย่องจากระบบสวัสดิการที่แข็งแกร่งและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงสาธารณสุขที่มีคุณภาพสูง การศึกษาฟรี และการสนับสนุนทางสังคมที่ทั่วถึง รวมถึงระดับความเหลื่อมล้ำด้านความเป็นอยู่ที่ต่ำมาก อีกทั้งพร้อมไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม
จอห์น เฮลลิเวลล์ บรรณาธิการผู้ก่อตั้งรายงานและศาสตราจารย์กิตติคุณด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย กล่าวเสริมว่า ความไว้วางใจและพฤติกรรมของประชาชนมีบทบาทสำคัญไม่แพ้ระบบสวัสดิการ เขายกตัวอย่างว่า การมีรัฐสวัสดิการ ไม่ได้ช่วยตามหาและคืนกระเป๋าสตางค์ที่หายไปให้เจ้าของ แต่ความเอื้อเฟื้อและใส่ใจต่อกันในสังคมต่างหาก ที่ช่วยให้กระเป๋าสตางค์กลับคืนสู่เจ้าของ
เฮลลิเวลล์ยังชี้ว่าความสามัคคีที่เกิดจากประวัติศาสตร์ เช่น สงครามฤดูหนาว (Winter War) ปี1939-1940 ระหว่างฟินแลนด์และสหภาพโซเวียต ซึ่งถึงแม้ฟินแลนด์จะไม่ชนะ แต่กลับสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวและความไว้วางใจในหมู่ประชาชนที่ยังคงส่งผลดีมาถึงปัจจุบัน รวมถึงทัศนคติที่ไม่หมกมุ่นกับวัตถุนิยมและการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากกว่าสิ่งของ ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ฟินแลนด์ครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง
รายงานความสุขโลกฉบับนี้จัดทำจากข้อมูล Gallup World Poll ซึ่งสำรวจความเห็นจากผู้คนในกว่า 140 ประเทศ โดยวัดความสุขจากคะแนนการประเมินชีวิตโดยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2022-2024) และวิเคราะห์ผ่าน 6 ตัวแปรหลัก ได้แก่ GDP ต่อหัว,การสนับสนุนทางสังคม, อายุขัยที่มีสุขภาพดี, เสรีภาพในการเลือกชีวิต, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, และการรับรู้ถึงการทุจริตในสังคม
นอกเหนือจากความสำเร็จของกลุ่มนอร์ดิกแล้ว รายงานปี 2025 ยังเผยความก้าวหน้าที่น่าสนใจของ 2 ประเทศจากภูมิภาคละตินอเมริกา คอสตาริกาคว้าอันดับ 6 และเม็กซิโกก้าวสู่อันดับ 10 ซึ่งทั้งคู่ติด 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายงาน รอน-เลวีย์ อธิบายว่า ความสำเร็จนี้เกิดจาก “เครือข่ายสังคมที่แข็งแกร่ง” รวมถึงการมองโลกในแง่ดีต่อทิศทางของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในผู้นำและสถาบันต่างๆ ของทั้ง 2 ประเทศ
ในส่วนของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ด้านความสุข โดยรั้งอันดับที่ 24 ในการจัดอันดับปีนี้นับเป็นอันดับต่ำสุดเท่าที่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์ของรายงานฉบับนี้ หลังจากหลุดจาก 20 อันดับแรกเมื่อปีที่แล้ว
อิลานา รอน-เลวีย์ กรรมการผู้จัดการของ Gallup ชี้ว่า การลดลงของความสุขในสหรัฐฯ มีสาเหตุสำคัญมาจากคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี รู้สึกแย่ลงเกี่ยวกับชีวิตของตนเองอย่างมาก พวกเขารายงานว่า รู้สึกได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัวน้อยลง มีเสรีภาพในการตัดสินใจชีวิตจำกัด และมองอนาคตด้านมาตรฐานการครองชีพในแง่ลบมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ความไว้วางใจในสังคมและสถาบันต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกลายเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง การประท้วงต่อต้านระบบ และการลงคะแนนเลือกตั้งที่สะท้อนความไม่พอใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
ปัญหาความสุขที่ลดลงไม่ได้จำกัดอยู่แค่สหรัฐฯ เท่านั้น ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษอื่นๆ ก็เผชิญสถานการณ์คล้ายกัน สหราชอาณาจักรอยู่อันดับ 23โดยมีคะแนนการประเมินชีวิตเฉลี่ยต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่รุมเร้า
ขณะที่แคนาดา ซึ่งเคยอยู่ในกลุ่มผู้นำด้านความสุข อยู่อันดับ 18 ในปีนี้ แม้จะยังติด 20 อันดับแรก แต่ก็เผชิญกับแนวโน้มความสุขที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมารายงานฉบับนี้ระบุว่า ความซับซ้อนของตัวแปรที่ส่งผลต่อความสุข เช่น GDP ต่อหัว การสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้ถึงการทุจริต ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างประเทศที่เจริญแล้วและกำลังพัฒนา
สำหรับประเทศไทย รายงานระบุว่าอยู่อันดับที่ 49 จากทั้งหมด 143 ประเทศ อยู่ในระดับปานกลาง เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ (อันดับ 34) และเวียดนาม (อันดับ 46) ตามข้อมูลที่ปรากฏในโพสต์บน X ความสุขของไทยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆเช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนที่แน่นแฟ้น แต่ยังถูกจำกัดด้วยความท้าทาย เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ในอีกด้านหนึ่ง รายงานยังเปิดเผย 10 ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้ง ความยากจน และความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่างรุนแรง ดังนี้
เลโซโท (อันดับที่ 138)
คอโมโรส (อันดับที่ 139)
เยเมน (อันดับที่ 140)
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (อันดับที่ 141)
บอตสวานา (อันดับที่ 142)
ซิมบับเว (อันดับที่ 143)
มาลาวี (อันดับที่ 144)
เลบานอน (อันดับที่ 145)
เซียร์ราลีโอน (อันดับที่ 146)
อัฟกานิสถาน (อันดับที่ 147)
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี