พิชัย จิราธิวัฒน์ และ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
ด้วยความเชื่อมั่นว่า “การเติบโตของธุรกิจ ต้องเดินไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล” กลุ่มเซ็นทรัลจึงมุ่งขับเคลื่อน “เซ็นทรัล ทำ-ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ” โครงการด้านความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัลที่ดำเนินมากว่า 8 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และพัฒนาสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ตาม 6 แนวทาง Community-พัฒนาศักยภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน, Inclusion-การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม, Talent-พัฒนาศักยภาพที่เป็นเลิศของบุคลากร, Circularity-ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน, Climate-การฟื้นฟูสภาพอากาศ และ Nature-การอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา “เซ็นทรัล ทำ” ได้สร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในหลายมิติอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงานและสนับสนุนอาชีพให้แก่คนพิการกว่า 1,100 คน สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 1,700 ล้านบาท ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชนมากกว่า 150,000 ราย สนับสนุนและพัฒนาโรงเรียน 192 แห่ง เพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่ากว่า 19,385 ไร่ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารกว่า 19,254 ตัน ลดปริมาณขยะที่เข้าสู่หลุมฝังกลบกว่า 43,663 ตัน ติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1,430 สถานที่ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา 215 แห่ง และผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากถึง 207,176 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ (Sustainable Development Goals-SDGs) ขององค์การสหประชาชาติอย่างแท้จริง
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าโครงการนี้คือโครงการด้านความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม ตลอดเวลากว่า 8 ปี ของการดำเนินโครงการ เราได้ร่วมมือกับชุมชนเพื่อพัฒนาและต่อยอดจนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทุกก้าวของ “เซ็นทรัล ทำ” คือความภาคภูมิใจในการลงมือทำและร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดี หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือได้ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า และสะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า การเติบโตของธุรกิจต้องเดินไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น ชุมชน คู่ค้า ลูกค้า หรือพนักงานซึ่งนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ความคืบหน้าใน ปี 2568 ของ 4 จังหวัดต้นแบบ จังหวัดน่านวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลบัวใหญ่ อ.นาน้อยในปี 2567 สร้างรายได้ให้ชุมชน 10 ล้านบาท และสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ สมาชิกวิสาหกิจ 179 ครัวเรือน สนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลบัวใหญ่ เพื่อรองรับโครงการ “เสน่ห์น่านใต้” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และส่งเสริมการแปรรูปฟักทอง โกโก้ มะม่วงหิมพานต์ เช่น ข้าวเกรียบฟักทองและเลี้ยงไก่ไข่เชิงพาณิชย์ พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับผู้เข้าอบรมดูงาน เยี่ยมชมชุมชน และนักท่องเที่ยวในปี 2567 กว่า 7,000 คน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาความสำเร็จของเกษตรกรบ้านหมู่ใหญ่ใน หรือ กลุ่ม “วิสาหกิจชุมชนเมล่อนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา” ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตเมล่อนภายใต้ชื่อ “Smile Melon”เปิดช่องทางการขายในตลาดไปยังประเทศสิงคโปร์ จำนวนกว่า 6.2 ตัน สร้างรายได้กว่า 530,400 บาท และยังคงมียอดการสั่งต่อเนื่องมาถึงปี 2568 รวมยอดที่ส่งออกไปสิงคโปร์ ทั้งสิ้น 25.2 ตันรายได้รวม 2 ล้านบาท ในปี 2567 ที่ผ่านมามี ผู้เข้าอบรม/ดูงานกว่า1,200 คน ปัจจุบันฟาร์มเมล่อนได้ยกระดับเป็นชุมชนท่องเที่ยววิถีชุมชน มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละประมาณ 2,000 คน สร้างรายได้ให้ชุมชนไปแล้วถึง 17 ล้านบาท เป็นการเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน จังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ในปี 2567 สร้างรายได้ให้ชุมชนแม่ทาไปแล้ว 14 ล้านบาท สร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชนแม่ทา 130 ครัวเรือน ปัจจุบันชุมชนแม่ทาพัฒนาโฮมสเตย์และศูนย์เรียนรู้ เตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู่การท่องเที่ยวชุมชนเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) จังหวัดชัยภูมิ วิสาหกิจชุมชนปลูกพืชเศรษฐกิจบ้านเทพพนา อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิในปี 2567 ที่ผ่านมาสร้างรายได้แก่ สมาชิกวิสาหกิจชุมชน 40 ล้านบาทและขยายผลเครือข่ายผู้ปลูกอโวคาโดได้ถึง 1,000 ราย นอกจากนี้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ได้พัฒนาต่อยอดด้านการท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรอินทรีย์ ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยการสร้างศูนย์การเรียนรู้ 2 อาคาร สามารถรองรับผู้เข้าอบรมและนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 14,000 คน เซ็นทรัล ทำ เชื่อมั่นว่าการลงมือทำร่วมกันด้วยใจ คือรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ไม่เพียงแต่สร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ยังร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนการเกษตรยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดโอกาสให้ชุมชนได้พัฒนาทักษะ สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี