ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่นักแสดงรุ่นใหญ่ที่เคยมีผลงานละครทางช่อง 7 มากมาย แม้ว่าพักหลังๆ “กู้” วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง และ “หน่อย” สุรัตนา ข้องตระกูล จะห่างหายจากจอทีวีไปนาน แต่ทั้งคู่ไม่เคยห่างหายจากกัน ยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่คอยดูแลกายและใจกันอยู่เสมอ ล่าสุดควงคู่มาเปิดใจถึงมิตรภาพที่คบกันมายาวนาน นับตั้งแต่สมัยเป็นนักแสดงแรกรุ่น จนถึงตอนนี้อายุเข้าสู่วัยเกษียณกันแล้ว ก็เพราะมีนิสัยที่คล้ายกัน จึงเป็นคู่บัดดี้ที่พากันกิน พากันเที่ยว แถมยังพากันสวยอีกด้วย
“จริงๆ งานแสดงก็มีคนติดต่อมา แต่อุตสาหกรรมละครหรือภาพยนตร์เปลี่ยนไป แล้วอยู่ดีๆ ขอลดค่าตัวเยอะมาก ไอ้เราจะเล่นละครให้ไม่เต็มร้อยตามค่าตัว ก็ไม่ได้ เพราะเวลาเล่นก็วิญญาณเข้าสิงเนอะ เราก็เต็มที่ ถามว่าอยากเล่นไหม ดูเพื่อนๆ เราอยู่ในจอก็อยากเล่น คิดถึงเพื่อนเวลากินอาหารกองถ่ายก็สนุกเม้าส์มอยส์ เรื่องสุดท้ายน่าจะเป็นเรื่อง ตุ๊กตา ทางช่อง7 เวอร์ชั่นล่าสุดที่ลูกพี่ตุ๋ย(อรุณ ภาวิไล)เป็นนางเอก ก็อยากเล่นอีก แต่ค่าขนมต้องเหมือนเดิมนะ มันลดเยอะไม่ไหว แต่เอาตรงๆ ค่าขนมเราสองคนก็ไม่ได้เยอะนะ ถ้าขอลดอีก เดี๋ยวจะเล่นให้ฟรีแล้วค่ะ(หัวเราะ)” กู้-วาสิฎฐี เริ่มสนทนา ขณะที่ หน่อย-สุรัตนา กล่าวเสริมว่า “ของหน่อยก็มีบ้างประปราย แต่ก็น้อยลงค่ะ”
จากนั้นทั้งคู่พูดในทำนองเดียวกันว่า ถ้าได้กลับไปเล่นละครอีก สามารถเล่นได้ทุกบทบาท ตั้งแต่ยาจกยันคุณหญิงคุณนาย คนดีตัวร้ายเคยเล่นมาหมดแล้ว พอถามว่าได้คุยกับผู้จัดละครบ้างหรือไม่ ทั้งคู่ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า ส่วนใหญ่จะติดต่องานกับธุรกิจกองถ่ายมากกว่า ไม่ค่อยได้คุยตรงกับผู้จัดฯ เพราะเป็นคนไม่เข้าหาผู้ใหญ่เหมือนกัน หากเป็นคนเข้าหาผู้ใหญ่เป็นก็อาจจะมีละครเล่นมากกว่านี้ก็ได้ กระทั่งถูกแซวว่า ไม่มีละครเล่นแต่ก็อยู่ดีกินดีกว่าดารารุ่นเก่าหลายคน ที่ไม่มีงานแสดอาจจะมีชีวิตลำบาก กู้-วาสิฏฐี รีบบอกว่า
“กู้ทำธุรกิจกับที่บ้าน ก็มีอะไรทำบ้าง พอประทังชีวิตไปวันๆ(หัวเราะ) หน่อยก็ทำธุรกิจกับน้อง พอให้ไม่เหงา แต่จริงๆ ด้วยความที่เราสองคนใช้ชีวิตแบบพอเพียงมากกว่า เอาตรงๆ นะ ทุกวันนี้ก็ยังนั่งรถเมล์ บางคนอาจจะมองว่ายัยนี่ตกอับแน่ๆ แต่เราชอบแบบนี้ นั่งรถเมล์แล้วต่อรถไฟฟ้า เวลาเดินก็ถือว่าได้ออกกำลังกายยามชรา อย่าไปคิดมาก ชีวิตเรามีขึ้นมีลง ใช่ว่าเราจะเป็นนางฟ้าตลอด (หน่อยกล่าวเสริมว่า : เนี่ย คือเรามีวิธีคิดแบบนี้เราก็เลยมีความสุข) ใช่ วันนี้เรากินเหลาแพง พรุ่งนี้เราอาจจะไปกินข้าวแกงกันสองคน กินฟาสฟู๊ดสองคนมีความสุขเม้าส์มอยส์กัน เราก็ทำแบบนี้ตลอดชีวิตเราสองคน (คนไม่ค่อยรู้?) อ๋อ คนคิดว่ากินดีอยู่ดี ต้องปาร์ตี้ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นเงินไม่เหลือค่ะ เราต้องเผื่อไว้ใช้ยามแก่ เราต้องบริหารเงินให้เหลืออยู่ เพราะถ้าเราลำบาก เราก็ไม่รู้จะไปหยิบยืมใคร เพราะฉะนั้นก็ต้องรู้จักใช้ชีวิตให้เป็น เอาจริงๆ เพื่อนจะรู้ว่าเมื่อก่อนเป็นคุณนายมาก ไม่เคยลำบาก ชีวิตสบายมาตลอด แต่วันหนี่งเราต้องปลงให้ได้ เพราะจุดๆ หนึ่งของชีวิตทุกคนไม่ได้สวยหรูตลอด เราใช้ชีวิตได้สบายๆ หน่อยเค้าก็เหมือนกัน”
กระทั่งต่างคนได้พูดถึงความสัมพันธ์ที่คบกันมายาวนาน โดย กู้-วาสิฏฐี บอกว่า “อันนี้พูดจากใจเลย คือหน่อยเป็นคนนิสัยดีมาก เค้าเป็นคนไม่เคยนินทาใครเลย บางทีมีเรื่องอึดอัดอะไรก็ไม่พูด แต่ผิดกับกู้ กู้ลุยแล้วชนเลย คือเป็นคนไม่เก็บ ลุยแล้วจบ แต่เค้าก็จะนิ่งๆ คือดีเกินที่จะอยู่ตรงนี้นะ แต่เราก็อยู่นานพอๆ กัน 30 ปีแล้วมั้ง” ด้าน หน่อย-สุรัตนา บอกว่า “เรามีอะไรเหมือนกัน เช่นใช้ชีวิตติดดิน อยากนั่งรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์คล้ายๆ กัน คุยกันได้ทุกเรื่อง คือเค้ารับเราได้ที่เราเป็นเรา รับได้ที่เค้าเป็นอย่างนี้นะ แล้วก็จริงใจไม่มีแบบต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง (คนไม่ค่อยเห็นมุมดาราเก่าๆ ที่รักกันนานขนาดนี้?) ใช่ แต่ส่วนใหญ่ก็ไปมีครอบครัวไง เค้าก็ดูแลลูกสามีเค้า ก็ห่างจากเพื่อน (เราคือโสดทั้งคู่?) อ่า ใช่ ตอนนี้โสดค่ะ”
พอพูดถึงเรื่องโสด หน่อย-สุรัตนา เปิดใจต่อว่า อายุป่านนี้แล้ว ขออยู่อย่างนี้สบายใจกว่า ชอบอยู่คนเดียวเป็นอิสระดี ขณะที่ กู้-วาสิฏฐี ก็ไม่อยากมีเหมือนกัน แถมพูดติดมุกฮาว่า ตอนนี้อายุเท่าเสี่ยแล้วจะให้เสี่ยเลี้ยงคงไม่ไหว จะให้คบเด็กก็กลัวมาเป็นชาวเกาะ กลัวเด็ดหลอกเพราะห่วงเงินตัวเองมาก ฉะนั้นทุกวันนี้ ไม่มีแฟนก็ไม่เหงาเลย จะโทรหากัน ช่วยดูแลกันและกันทั้งกายทั้งใจ มีอะไรก็นึกถึงกันตลอด อย่างล่าสุดเพิ่งทำศัลยกรรมหน้ามา ก็ชวนเพื่อนมาทำสวยด้วยกกัน
“เราเป็นคนตรงๆ ถ้าตรงไหนที่ไม่สวย ควรจะทำแล้ว เหี่ยวแล้ว ก็แนะนำกันเลย กู้ทำ กู้ก็เอาเพื่อนมาด้วย รักเพื่อน เพื่อนต้องสวยด้วยกัน ผู้หญิงเราอย่าหยุดสวย แล้วถ้าอยากสวยให้พึ่งหมอเลย สวยธรรมชาติไม่มี มีแต่ธรรมชาติลงโทษ(หัวเราะ) ตอนเนี๊ยะ เราต้องสวยด้วยมือหมอ ใครถามก็บอกเลย แต่ตอนแรกก็ไม่ชอบศัลยกรรม จะแอนตี้นะ แต่พอตอนหลังเริ่มรับตัวเองไม่ได้ คือส่องกระจกแล้ว โหย เหี่ยวมาก ร่องแก้มเยอะ ฟิลเลอร์ก็แล้ว ร้อยไหมก็แล้ว ไปไหนคนก็เรียกป้ายาย เลยหาข้อมูล ดูรีวิวเยอะ จนมาเจอคลีนิก วายเคเจ(YKJ Medical Center) คนดังๆ มาทำกันเยอะ พอเราได้มาทำแล้ว ไม่คิดว่าเราจะสวยได้ขนาดนี้ พอใจมากถึงมากที่สุด คือมีความสุขก่อนตายอ่ะ(หัวเราะ) ยังพูดกับที่บ้านเลย เวลาฉันตาย ฉันจะได้นอนสวยๆ จมูกโด่งๆ นี่บอกลูกไว้ว่าถ้าฉันตาย ให้ใส่ชุดเจ้าหญิงกรุยกราย ฉันจะนอนตายแบบสวยๆ คือสวยยันศพน่ะ”
ทางด้าน หน่อย-สุรัตนา บอกว่าตั้งแต่หน้าเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยนมามีความสุขมากขึ้น มีแต่คนชมว่าสวยและดูเด็กลงไปมาก “รู้สึกเลยว่าชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ ในเฟซบุ๊คหน่อยอ่ะ ผู้ชายเข้ามาทักเยอะมาก ไม่รู้ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือเปล่า แต่ก็เข้ามาชมเยอะ แล้วตอนไปทำบัตรขึ้นรถไฟฟ้า คือทำตอนอายุ 60 แล้วจะได้ครึ่งราคา ก็เอาบัตรยื่นให้เขา เขามองบัตรแล้วหันไปซุบซิบกัน ประมาณว่า 60 จริงเหรอ(หัวเราะ) เราก็ยืนยิ้มมีความสุข สุดท้ายเขาก็ทำบัตรให้ (รับเบี้ยคนชราแล้วใช่มั้ย?) รับแล้วค่ะ(ยิ้ม) กู้รับปีหน้า”
ขณะที่ สาวกู้ นั่งข้างๆ ออกปากชมเพื่อนว่าฮอตเพราะสวยมากขึ้นจริงๆ แล้วโผกอด สาวหน่อย ก่อนจะบอกว่า “หน่อยเขาสวยจนแบบภูมิใจ(กอด) ทุกวันนี้เรามีความสุขกันมาก ตื่นมาส่องกระจกก็มีความสุขแล้ว เห็นหน้าสวยก็มีความสุข ไม่เหี่ยวแล้ว(ยิ้ม) แล้วก็มีเรื่องตลกคือ วันก่อนนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู เรากำลังจะนั่งตรงที่นั่งสำหรับคนชรา ก็มีผู้หญิงคนนึง จะแย่งเรานั่ง เราก็มองหน้า เออ เค้าคงลำบากกว่าเรา เลยจะลุกให้เขานั่ง ลุกให้ดีๆ แต่นางพูดว่ายังไงรู้ไหม พี่อายุ 55 แล้วนะคะ อุ๊ย ฉันยอมไม่ได้ ฉันควักบัตรประชาชนขึ้นมาเลยค่ะ แล้วบอกเค้าว่า พี่ 59 แล้วค่ะน้อง(หัวเราะ) คือเอาจริงๆ ไม่อยากจะขิงใส่ แต่นางขิงเราก่อน(หัวเราะ) ตอนแรกว่าจะโกรธ ตอนหลังไม่โกรธ นี่แสดงว่าเราหน้าเด็กนะ ก็ถามเขาว่าพี่จะนั่งไหมคะ ก็เรียกเขาพี่แหละ(หัวเราะ)”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี