-ในแต่ละวัน ผิวของเราต้องเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะที่เป็นตัวการสำคัญของปัญหาผิว เช่น ริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และโรคผิวหนังต่างๆ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่แสงแดดรุนแรงและอุณหภูมิสูงขึ้น ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ผิวถูกทำร้ายได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราดูแลผิวอย่างถูกวิธีก็สามารถลดผลกระทบและปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจาก แพทย์หญิงดวงกมล ทัศนพงศากุล แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่า แสงแดดและมลภาวะเป็นปัจจัยที่อาจทำร้ายผิว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่แสงแดดแรงขึ้น การปกป้องผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผิวของเราประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำ โปรตีน คอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูโรนิก แอซิด ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น และยืดหยุ่น อย่างไรก็ตามแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA, UVB และแสงที่มองเห็นได้ มีพลังงานสูง สามารถทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้แสงแดดยังทำให้ไฮยาลูโรนิค แอซิดในผิวเสื่อมสภาพ ลดการกักเก็บความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
การได้รับแสงแดดมากเกินไปโดยไม่มีการป้องกัน อาจนำไปสู่ปัญหาผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ ความเสื่อมของคอลลาเจนในชั้นผิว และเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจนร่างกายมีการขับ “เหงื่อ” เพื่อระบายความร้อนออกมา เหงื่ออาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังในช่วงหน้าร้อน ซึ่งมีโรคที่พบได้บ่อย คือ
1. ผด เกิดจากความผิดปกติของท่อเหงื่อ เมื่อมีเหงื่อเพิ่มขึ้น หนังขี้ไคลที่บวมอาจทำให้เกิดการอุดตันของท่อเหงื่อ ทำให้เกิดผด ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นแดงเล็กกระจายสม่ำเสมอ หรือบางครั้งจะเป็นเม็ดใส ๆ
2. ผื่นผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา เช่น เกลื้อน และกลาก
-เกลื้อน มีลักษณะเป็นผื่นวงกลมหลาย ๆ วง มีขุยละเอียด สีต่างกัน เช่น สีจางหรือสีขาว แดง น้ำตาล หรือดำ มักเกิดขึ้นบริเวณลำตัว เช่น หลัง หน้าอก ท้อง ไหล่ และคอ มักไม่มีอาการคัน พบมากในผู้เล่นกีฬาที่มีเหงื่อออกมาก อยู่ในที่ร้อนมาก ๆ สวมเสื้อผ้ารัดแน่นหรือเสื้อผ้าที่อับชื้น เนื่องจากการเกิดความอับชื้น ทำให้เกิดการติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น
-กลาก ผื่นมีลักษณะเป็นวง มีขอบเขตชัดเจน เป็นขุย เริ่มต้นด้วยอาการคันแล้วตามด้วยผื่นแดง ต่อมาจะลามเป็นวงออกไปเรื่อย ๆ และมักจะคันมาก ส่วนใหญ่มักพบในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น รักแร้ ใต้ราวนม ขาหนีบ ฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า หนังศีรษะ
3. ผื่นผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากบนผิวหนังมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ ซึ่งแบคทีเรียจะมีการเปลี่ยนแปลงสารที่อยู่ในเหงื่อ ทำให้มีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น รักแร้และในร่มผ้า
4. ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ในช่วงฤดูร้อนผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะมีโอกาสเกิดมากขึ้น เพราะมีเหงื่อเป็นตัวกระตุ้น สังเกตได้ว่าบริเวณที่เหงื่อออกเยอะ ก็จะมีผื่นเยอะเช่นกัน เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา ซอกคอ
5. ผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน ผื่นแดงมีสะเก็ดเป็นมัน ขอบเขตชัดเจน ผื่นชนิดนี้มักอยู่บริเวณร่องข้างจมูก หว่างคิ้ว หน้าหู หลังหู หนังศีรษะ มีโอกาสเกิดได้มากขึ้นเมื่อได้รับแสงแดดจัด หรือโดนความร้อนมาก ๆ
6. ผิวไหม้แดด มักเกิดขึ้นเมื่อโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้ผิวไหม้แดดและลอก ผิวจะดำคล้ำขึ้นและทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ผลกระทบจากแสงแดดและภัยจากมลภาวะ รวมถึงโรคจากผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคือง ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สิวอักเสบ ริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผิวหนังและโรคผิวหนัง ควรปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันดังนี้คือ ล้างหน้าอย่างอ่อนโยนทุกเช้าและก่อนนอน, ใช้โทนเนอร์ที่ช่วยปรับสมดุลผิว, บำรุงผิวด้วยครีมหรือเซรั่มที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ทั้งเช้าและก่อนนอน, ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป, รับประทานอาหารที่มีวิตามิน E, C, B และสารต้านอนุมูลอิสระ, ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว, หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือชื้นมาก, รักษาความสะอาดของผิวหนังและทำให้แห้งอยู่เสมอ
นอกจากการดูแลตนเองในเบื้องต้นแล้ว ปัจจุบันยังมีหัตถการที่ช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพผิวหน้าหลังเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะสิ่งแวดล้อม เช่น การผลักวิตามินด้วยการใช้คลื่นเสียง หรือกระแสไฟฟ้า การใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูง (Intense Pulsed Light) ในการรักษากระ รอยดำ รอยแดง และสีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการใช้เลเซอร์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เพราะผิวคือด่านแรกในการปกป้องร่างกาย การดูแลและป้องกันผิวอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน จะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคผิวหนังและป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ให้พร้อมเผยผิวสุขภาพดีได้อย่างมั่นใจในทุกฤดูกาล
เทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา และร่วมกิจกรรมตามประเพณีกับครอบครัว ส่งผลให้การบริจาคโลหิตลดลอยลงแต่ความต้องการใช้โลหิตในการรักษาพยาบาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์กลับสูงขึ้น และมากกว่าช่วงปกติถึงร้อยละ 30 เนื่องจากมีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นจำนวนมาก สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนประจำปี 2567 พบว่า อุบัติเหตุสะสมที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 11 - 14 เมษายน 2567 จำนวน 2,044 ครั้ง บาดเจ็บ 2,060 ราย และเสียชีวิต 287 ราย เป็นที่มาของความต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วนและจำนวนมาก โรงพยาบาลต่างๆ จึงต้องเตรียมแผนการสำรองโลหิต เพื่อให้สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ชวนคนไทยร่วมทำบุญบริจาคโลหิตต้อนรับปีใหม่ไทย ในโครงการ "แล้งนี้ ไม่แล้งน้ำใจ ด้วยการให้โลหิต" ระหว่างวันที่ 8 - 16 เมษายน 2568 เตรียมความพร้อมสำรองโลหิตรับมือหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ บริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาดโลหิตประจำที่ (Fixed Station) ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 8 แห่งในกรุงเทพมหานคร รับเสื้อยืด "Give Blood Save Life" เป็นที่ระลึกแทนคำขอบคุณ บริจาคโลหิตในโครงการ ฯ ได้ที่ : ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์, หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ในกรุงเทพฯ ได้แก่ สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค) เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ สาขาบางแค สาขาบางกะปี สาขางามวงศ์วาน และสาขาท่าพระ ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียมและบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง), ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ทั่วประเทศ ได้แก่ ลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 8 แห่งในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และ คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล มหานวมินทราธิราช
ผศ. (พิเศษ) ดร. อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี