สิ่งแปลกปลอมเข้าหู คอ จมูก หลอดลม เป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นและซุกซนเรียนรู้ร่างกายของตนเอง เช่น นำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูก เอาไม้แหย่จมูก ใส่ในช่องหู ใส่ปาก ซึ่งสิ่งแปลกปลอมอาจพลัดเข้าไปแบบไม่รู้ตัว ได้แก่ เข้าไปในหลอดลม หลอดอาหาร จมูก หรือช่องหู อาจเกิดการบาดเจ็บเนื้อเยื่ออวัยวะที่สิ่งแปลกปลอมนั้นซุกซ่อนอยู่ หรือสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่จนเกิดการอักเสบติดเชื้อ สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลม และปอดติดเชื้อ หายใจลำบาก เป็นต้น สิ่งแปลกปลอม อาทิเมล็ดธัญพืช เศษอาหาร สำลี ลูกปัด สีเทียนชิ้นส่วนของเล่น เป็นต้น
อาการแสดง
มีวิธีสังเกตง่ายๆ ตั้งแต่ลูกน้อยร้องไห้งอแง คลำตำแหน่งที่เจ็บ ทำท่าอึดอัด หรือนิ่งผิดปกติในเด็กโตอาจสังเกตง่าย อาจบอกคุณพ่อคุณแม่ได้ว่าเจ็บ มีอะไรติดอยู่ หรือจับตำแหน่งนั้นบ่อยๆ ควรสังเกตไม่ควรละเลย เด็กผู้ชายบางคนซุกซนมากอาจกลัวความผิดไม่กล้าบอก ผู้ปกครองต้องตั้งสติใจเย็นๆ อย่าเพิ่งดุ หรือตีลูก ควรซักถามปลอบลูกว่ากำลังจะช่วยหนูขอให้บอกว่าเอาสิ่งแปลกปลอมอะไรใส่เข้าไป จำนวนกี่ชิ้น สี รูปร่าง หากสามารถบอกได้จะเป็นประโยชน์กับการรักษาเป็นอย่างมากผู้ปกครองควรสังเกต ชิ้นส่วนของเล่นที่หายไปอาหารที่ทานค้างอยู่ หรือถามจากพี่เลี้ยงว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
1.สิ่งแปลกปลอมติดในหู
ลูกมักจะจับหูบ่อยๆ ถูบริเวณใบหู หูมีเลือดไหล น้ำเหลืองไหล หากค้างไว้หลายวันอาจ มีไข้มีน้ำกลิ่นเหม็น หรือเป็นหนองไหลออกจากช่องหูส่องกล้องตรวจหูมักพบสิ่งแปลกปลอมที่ค้างอยู่ในช่องหู
2.สิ่งแปลกปลอมติดในจมูก
ลูกมักจะมีอาการคัดจมูก หายใจไม่คล่องใช้รูจมูกข้างเดียว พยายามแคะจมูก เอามือดันจมูกบ่อยๆ หรืออาจไม่มีอาการใดๆ แต่ในเวลาต่อมาอาจมีไข้ น้ำมูกไหล หนองไหลสีเหลือง เขียว มีน้ำมูกปนเลือด มีกลิ่นเหม็นคล้ายไซนัสอักเสบ (ประมาณ2-3 วัน) เนื่องจากภายในรูจมูกเป็นอวัยวะซับซ้อน มีซอกหลืบ หากสิ่งแปลกปลอมเล็กมากเข้าไปหลบในซอกผนังกั้นจมูกจะทำให้มองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม แม้แพทย์จะส่องดูภายในรูจมูก อาจจะมองไม่เห็นได้ แต่หากมีอาการที่เด่นชัด เช่น เลือดออก น้ำมูกไหล มีกลิ่นเหม็นควรต้องใช้ความพยายามในค้นหา หรือส่งตัวพบแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก เพื่อใช้กล้องชิ้นอ่อนโค้งงอส่องเข้าไปในซอกหลืบของผนังกั้นจมูก
3.สิ่งแปลกปลอมติดในหลอดอาหาร และหลอดลม
สิ่งแปลกปลอมติดหลอดอาหารลูกน้อยมักจะร้องไห้ กระสับกระส่าย น้ำลายไหล เพราะกลืนลำบาก หายใจลำบาก ทำท่าขย้อน ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที หากเข้าหลอดลมเด็กจะกระแอมไอ เพราะระคายคอ สะอึก บางรายหายใจลำบาก มีเด็กหลายรายที่กินสิ่งแปลกปลอมติดในหลอดลมทำให้เกิดไข้ ปอดติดเชื้อหาสาเหตุไม่ได้ ฟิล์มเอกซเรย์ปอดไม่เห็น แต่ปอดอักเสบเกิดซ้ำบ่อยจนต้องส่องกล้องจึงพบชิ้นส่วนของเล่นเล็กๆ ติดในปอด
การรักษา ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ชนิด ระยะเวลาของสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ รวมถึงอาการแสดง ความรุนแรงของโรค
1.หากเป็นเด็กโต สงสัยมีสิ่งแปลกปลอมในรูจมูก ให้ลองปิดจมูกอีกข้างแล้วให้สั่งออกมาแรงๆ หากอยู่ตื้นชิ้นส่วนอาจออกมาได้เอง หากไม่ออกหรือเป็นเด็กเล็กควรพามาพบแพทย์ แพทย์จะทำการคีบหรือใช้อุปกรณ์เอาสิ่งแปลกปลอมออกมา
2.กรณีที่เข้าในช่องหู แพทย์จะใช้อุปกรณ์ดูดน้ำเหลือง หนอง หรือเลือดออกเพื่อให้เห็นขอบเขตและทำการคีบสิ่งแปลกปลอม รวมถึงประเมินอาการบาดเจ็บของช่องหูและให้การรักษาต่อไป
3.กรณีที่เข้าหลอดลม หรือหลอดอาหาร ควรให้น้องงดน้ำงดอาหาร รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และเอาสิ่งแปลกปลอมออก โดยปกติมักใช้วิธีดมยาสลบเพื่อให้เด็กอยู่นิ่งและสามารถนำสิ่งแปลกปลอมออกมาได้
4.ให้ยาปฏิชีวนะหากมีการอักเสบ ยาที่ใช้ เช่น Penicillin V, Axoxicillin, Erythromycin,Roxithromycin, หรือ Co-trimoxazoleนาน 5-7 วัน
คำแนะนำ
1.หลังเอาสิ่งแปลกปลอมออก ทานยาหยอดยาตามที่แพทย์สั่ง จะต้องสังเกตอาการลูกน้อยหากมีอาการแย่ลง ไม่ดีขึ้นหลังทานยาควรรีบพามาพบแพทย์ เช่น ไข้สูง ชักเกร็ง เลือดออก มีหนองไหลต่อเนื่อง หายใจลำบาก
2.การป้องกันควรเก็บสิ่งของเล็กๆ เช่น ชิ้นส่วนของเล่น แบตเตอรี่แบบเม็ดกระดุม เมล็ดธัญพืช เมล็ดผลไม้ เศษยางลบ กระดุม ลูกปัดไม้แคะหู หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ให้พ้นมือเด็ก และให้คำแนะนำแก่คนที่ดูแลเด็ก ครูพี่เลี้ยง
3.หากสงสัย ไม่มั่นใจใดๆ ควรรีบพามาพบแพทย์ เพราะหากเข้าหลอดลมจะเป็นภาวะฉุกเฉิน หรือกรณีของที่ติดเป็นสารเคมีหากทิ้งไว้นานออกเป็นพิษ ทำให้เกิดอาการรุนแรงได้
บทความโดย
ผศ.พญ.จรินรัตน์ สิริรัฐวรรณ
ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี