(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว : การเตรียมสภาพสัตว์ก่อนทำการผ่าตัด (ตอนที่ 1))
- โรคที่ต้องทำการแก้ไขโดยการผ่าตัด
โรคที่จะเข้ารับการผ่าตัดนั้น ก็จะมีความสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นภาวะฉุกเฉินหรือไม่ ตัวอย่างของกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ ภาวะเสียเลือดเฉียบพลัน เช่น ม้ามแตก ตับได้รับความเสียหาย ฉีกขาดหรือแตก หลอดเลือดสำคัญแตกหรือขาด มีความจำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดฉุกเฉิน หรือแม้แต่โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น กะบังลมเกิดการฉีดขาด เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ก็จะต้องทำการผ่าตัดแก้ไขอย่างฉุกเฉินเร่งด่วน โดยก่อนการผ่าตัดนั้น อาจให้สัตว์อยู่ในตู้ออกซิเจนเพื่อช่วยในเรื่องการหายใจที่สัตว์นั้นไม่สามารถแลกเปลี่ยนแก๊สได้เหมือนภาวะปกติ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงภาวะมดลูกอักเสบเป็นหนอง ทางเดินอาหารฉีกขาดทางเดินอาหารอุดตัน ท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะฉีกขาดหรืออุดตันด้วย ภาวะต่างๆ เหล่านี้ เป็นความจำเป็นที่จะต้องทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อลดภาวการณ์ติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาให้มีโอกาสเกิดน้อยที่สุด รวมไปถึงภาวะของเสียในเลือดสูง ที่อาจจะส่งผลทำให้อวัยวะล้มเหลวตามมาได้
ส่วนโรคที่ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ก็ได้แก่ เนื้องอก มะเร็ง กระดูก (ในส่วนที่สามารถรอได้) หัก โรคกลุ่มเหล่านี้ มักจะทำการเตรียมตัวสัตว์ก่อน ในส่วนของมะเร็งก้อนเนื้อบางกลุ่มก็อาจจะทำการให้ยาคีโมก่อน เพื่อทำให้ขนาดก้อนเล็กลงซึ่งจะช่วยในการทำการผ่าตัดให้ทำงานได้สะดวกขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการวางยาสลบ เพิ่มความปลอดภัยให้ตัวสัตว์มากขึ้น
3. การตรวจร่างกายสัตว์เบื้องต้นก่อนผ่าตัด
การตรวจร่างกายนี้ จะรวมไปถึงการตรวจทางปฏิบัติการของเลือดด้วย เนื่องจากจะช่วยประเมินความพร้อมในการวางยาสลบ สิ่งที่จะต้องตรวจในเลือด ได้แก่ ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ทั้งเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดหากสัตว์มีภาวะโลหิตจางหรือเกล็ดเลือดต่ำ ค่าแอลบูมินในเลือดต่ำ อาจต้องได้รับการถ่ายเลือดก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ หากพบว่าสัตว์มีภาวะแห้งน้ำ (dehydration) หรือขาดสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ก็ต้องทำการแก้ไขให้สัตว์กลับมาอยู่ในสภาวะปกติให้มากที่สุดก่อนการผ่าตัด
นอกจากนี้ จะทำการตรวจค่าทางเคมีของเลือด เพื่อดูการทำงานของตับและไตร่วมด้วย ในกรณีค่าเหล่านี้สูง ก็ต้องมีการปรับสภาพให้พร้อมเป็นปกติก่อน หรืออย่างน้อยต้องปรับให้ดีเพียงพอที่จะรับการผ่าตัดได้
4. การตรวจวินิจฉัยด้านอื่นๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคก่อนการผ่าตัด
การตรวจวินิจฉัยอื่นก่อนการทำหัตถการต่างๆ มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงก่อนการผ่าและช่วยในการวินิจฉัยโรคอย่างละเอียดมากขึ้น เช่น ในการหาจุดที่มีปัญหาการอุดตันให้ละเอียดยิ่งขึ้นนั้น อาจจะทำการยืนยันด้วยการทำ CT scan หรือ MRI จะทำให้เราพบรอยโรคเพิ่มเติมในกรณีการวินิจฉัยเบื้องต้นตอนแรกนั้น อาจจะไม่ครอบคลุมเพียงพอได้
ปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงในการเตรียมสภาพสัตว์นี้วัตถุประสงค์หลักที่สำคัญก็คือ เพื่อความปลอดภัยของตัวสัตว์ ความเหมาะสม และความแม่นยำในการผ่าตัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวสัตว์เอง ทั้งนี้เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรทำความเข้าใจร่วมกันกับสัตวแพทย์ เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงเจตนา วัตถุประสงค์ ความจำเป็นในการผ่าตัด และการรักษา เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ทุกท่านต้องการ คือการหายเป็นปกติ (หรือใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด) ของสัตว์เลี้ยงที่เรารักนั่นเอง
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี