ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวอังกฤษอีกครั้งหนึ่งในช่วง 23/9/-1/10/2023 หลังจากที่ไม่ได้ไปมา 3-4 ปี เนื่องจากโควิด ปกติจะไปอังกฤษทุกปี อเมริกาทุกปี เมื่อต้นปีนี้ในเดือนพฤษภาคมผมเตรียมจะไปประชุมวิชาการของ DDW (Digestive Disease Week) เรื่องระบบทางเดินอาหารกับหน่วย GICU ของจุฬาฯ ก็ดันติดโควิดก่อนไป เลยอดไป เสียเงินไปเปล่าๆ
ผมชอบไปอังกฤษมาก อาจเป็นเพราะผมเคยอยู่ 17 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1954-1971 (2497-2514) ตั้งแต่อายุ 11 จนถึง 28 ปีชอบไปในชนบทของอังกฤษมากกว่าไปอยู่เมืองใหญ่ๆ ชนบทที่มี village หรือหมู่บ้านเล็กๆ ถนนเล็กๆ ที่ห้อมล้อมด้วยทุ่งนา มี hedge ที่เป็นรั้วต้นไม้ระดับครึ่งตัว ขับรถไปบางช่วง บางวัน มีกระต่าย กวาง หรือไก่ป่ามาเดิน หรือบินข้างๆ ทาง ชอบเข้าไปกินอาหารใน pub-public house-ซึ่งเป็นที่ขายอาหารและที่ชาวอังกฤษชอบ คือ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวอังกฤษจะดื่มเบียร์ โดยเฉพาะเบียร์ชนิด bitter ซึ่งรินมาจากถัง ที่อังกฤษมีผู้ผลิตเบียร์ประมาณ 2,000 กว่าราย ผมไปที่ไหนจะลองดื่ม local bitter หรือเบียร์ bitter ของท้องถิ่น คำว่า bitter แปลว่า ขม แต่จริงๆ แล้วไม่ขมเลย อร่อยสุดใจ ในการสั่งเบียร์เรามักจะสั่งเป็น pint หรือ half pint หนึ่ง pint (อังกฤษ) มี 568 ซีซี ผมชอบสั่งครึ่ง pint จะได้ลองหลายๆ ยี่ห้อ และถ้าไม่ชอบก็ยังดื่มหมดได้
ไปคราวนี้เพราะหลานสาวปู่ แพท (ลูกสาวของลูกชาย ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้องของลูกชาย) สอบเข้าเรียนวิชา geography ได้ที่ Clare College, Cambridge ซึ่งครอบครัวเราดีใจมาก ผม ภรรยา โชคดีมากที่ลูกๆ หลานๆ เป็นคนดี และเก่งพอสมควร หลานชายปู่ 2 คนแรกจบแล้ว คนโตจบ Durham (มหาวิทยาลัยที่มี College
มีการเรียนการสอนเหมือน Oxford, Cambridge หรือ Oxbridgeเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อันดับที่ 3 ของอังกฤษ) ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ขณะนี้เรียน ป.โทอยู่ที่ UCL, ลอนดอน มาจบตรี onlineที่ประเทศไทย เพราะเป็นช่วงโควิด กลับไปไม่ได้ เลยอยู่ไทย และสมัครเข้าเป็นทหาร(6 เดือน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ผมเองคิดว่าทุกๆ คนควรผ่านการเป็นทหาร จะทำให้รู้จักมีระเบียบวินัย) และลองไปทำงานสะสมประสบการณ์ หลานชายปู่คนที่ 2 เพิ่งจบ ป.ตรี ควบโทใช้เวลา 4 ปี จาก Sheffield ทางด้าน material science เพิ่งกลับมาทำงานที่ไทย ส่วนลูกสาวผมมีลูกสาว 3 คน คนโตเรียนแพทย์ปี 5 ที่ลาดกระบัง คนที่ 2 เรียนแพทย์ปี 2 ที่พระมงกุฎ คนที่ 3อายุ 17 ปี คงจะไปเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้าที่อเมริกา
ผมเองเรียนไม่เก่ง(จริงๆ ไม่ได้ถ่อมตน) รวมทั้งโอกาสสมัยโน้นไม่ค่อยมีเท่าลูกชายและหลานๆ ที่ไปเรียนที่ Malvern, Winchester ตามลำดับ แต่ตัวผมเองไปอยู่โรงเรียนประจำที่ไม่ดังเล่นแต่กีฬา เดี๋ยวนี้โรงเรียนเจ๊งไปแล้ว แต่ผมขยัน สู้ตาย กัดไม่ปล่อย วางแผนด้วยตนเอง เพราะพ่อขอร้องให้เรียนแพทย์ จนเข้าเรียนแพทย์ที่ Leeds ได้ จบได้แบบล้มลุกคลุกคลานจริงๆ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นบุญโขแล้วสำหรับผม ซึ่งก็โชคดีอีกที่อังกฤษ เรียนแพทย์ที่ไหนก็เหมือนกัน ได้มาตรฐานทั่วประเทศ
เนื่องจากเรือบินไม่มีที่นั่งพอ ลูกสะใภ้และหลานสาว จึงเดินทางไปก่อนผมและลูกชาย 2 วัน เขา 2 คนบินไปลง Heathrow แล้วนั่งรถโค้ชไปCambridge เลย รถโค้ชเป็นการเดินทางที่ถูกที่สุดในอังกฤษ ถูกกว่ารถไฟมาก โดยมีหลานชายคนโตพีท(Pete) จาก UCL ลอนดอนไปด้วย ส่วนผมกับลูกชาย แมน บินการบินไทยออกเวลา 12.30 น. ของวันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2566 ก่อนหน้าที่จะบินไปอังกฤษ ผมได้เดินทางไปกับคณะของ อ.รังสรรค์ อ.นนทลี อ.รภัส ไปบรรยาย สาธิตการส่องกล้องในนามมูลนิธิราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยที่ผมเป็นประธาน (20-22/9/2566) ไปที่ รพ.สุราษฎ์ธานี หลังสวนและระนอง กลับมา 22พอ 23 ก็บินอีก แค่นี้ยังไม่พอ กลับมาถึงไทย 2 ตุลาคม วันที่ 3 ผมยังต้องพาคณะนักศึกษา HIDA รุ่นที่ 3 ไปดูงานของศูนย์ส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุของรพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาเดิมจะค้างด้วย แต่ตัดสินใจกลับวันนั้นเพราะงานเยอะ และเพราะพอวันที่ 5 ก็ต้องบินไปประชุมที่คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ที่ผมเป็นกรรมการอำนวยการอีกด้วย โชคดีที่ผมสอนเรื่อง Jet lagจึงไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้
เราบินจาก กทม.ไปถึง Heathrow ใช้เวลา 11-12 ชม. ผมชอบบินการบินไทยเพราะเป็นของคนไทย เวลาขึ้นเครื่อง TG ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน รู้สึกคล้ายๆ ว่าอยู่ในเมืองไทยแล้วหรือยังอยู่ เจ้าหน้าที่การบินไทยทั้งหญิงชาย น่ารัก มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส
ลูกชายนั่งติดผม เราก็ถองแชมเปญไปคนละ 2 แก้ว ไวน์แดงอีก 1 แก้ว ผมไม่ค่อยนอน แต่ลูกชายพยายามนอน และนอนได้ดีพอสมควรในช่วงครึ่งหลังของการบิน เพราะพอไปถึงอังกฤษ 19.15 น. ของวันที่ 23 หรือตี 1.15 ของวันที่ 24 ของประเทศไทย (อังกฤษช้ากว่าไทย 6 ชม.) เราต้องไปรับรถที่เราเช่าไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อขับไป Cambridge เลย ผมเป็นห่วงลูกชายว่าจะไหวเหรอ แต่เขาตอบว่าไหว โชคดีมากที่เครื่องบินลง Terminal 2 พอออกจาก ตม. ศุลกากร ถึงที่เช่ารถเลย ใกล้มาก สะดวกมาก แมนเช่ารถBMW รุ่น 520 diesel รถขับดีมาก นุ่ม เร่งเครื่องได้ดี นิ่ม
เรื่องตรวจคนเข้าเมือง ผมมีปัญหาตลอดกับการพิมพ์ลายนิ้วมือ คราวนี้มาถึงอังกฤษก็เช่นกัน เจ้าหน้าที่อ่านไม่ได้สักที ตั้งนาน แต่คุยกันว่ามาส่งหลานเข้า Cambridge ในที่สุดเขาก็ให้ผมผ่านทั้งๆ ที่ลายนิ้วมือไม่ขึ้น!? โชคดีที่มีหลานเข้า Cambridge คราวนี้ คราวหน้าจะทำอย่างไรดี อ้อ!? มาเยี่ยมหลานที่ Cambridge!? 555
มีต่อครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี