ปัจจุบันกระแสการฉีดสารหรือยาเข้าสู่ผิวหนังเพื่อช่วยในการรักษารวมทั้งการเสริมความงามเป็นสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมกันมาก ซึ่งสารแต่ละตัวมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปดังนั้นประชาชนจึงควรทำความเข้าใจเพื่อเลือกสารให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของแต่ละราย โดยในบทความนี้จะขอแบ่งชนิดของสารฉีดตามวัตถุประสงค์และกลไกการทำงาน
1. สารฉีดเพื่อลดริ้วรอยจากการขยับของกล้ามเนื้อ ในที่นี้หมายถึงสารที่ฉีดเพื่อลดรอยย่นของใบหน้า เช่น รอยย่นของหน้าผากจากการเลิกหน้าผาก รอยที่หางตาที่เกิดจากการยิ้มมากๆ รอยขมวดคิ้ว ในกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้สารที่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เนื่องจากสภาพปัญหาเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบีบตัวมากเกินไป สารกลุ่มนี้ที่นิยมใช้ได้แก่สารโบทูลินุ่ม ท๊อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าฉีดโบ นอกจากนี้ยังมีการนำสารกลุ่มนี้มาใช้ในทางการแพทย์เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณอื่นๆ อีกด้วย เช่น กล้ามเนื้อกรามเพื่อแก้ปัญหาการกัดฟันบ่อย ซึ่งทำให้ได้ผลพลอยคือกล้ามเนื้อกรามขนาดลดลง ทำให้ใบหน้าดูเล็กลง หรือคลายกล้ามเนื้อน่อง กรณีที่กล้ามเนื้อน่องมีการหดเกร็ง เป็นต้น
2. สารฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตรผิว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเนื้อผิวหนังฝ่อตัวลง เช่นไขมันในกล้ามเนื้อฝ่อลง ชั้นหนังแท้ฝ่อตัวลง เป็นต้น สารกลุ่มนี้อาจเรียกรวมว่าสารฟิลเลอร์ที่นิยมใช้และพบว่าปลอดภัย ได้แก่ สารกลุ่มเอชเอ (HA) หรือย่อมาจากไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งความสามารถในการเพิ่มปริมาตรของผิวจะขึ้นกับกระบวนการผลิตรวมทั้งความเข้มข้นของสารเอชเอ นอกจากนี้ยังมีการนำสารกลุ่มนี้มาฉีดเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในผิว ซึ่งเหมาะสำหรับกรณีที่ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นหรือที่เรียกว่าผิวหนังขาดน้ำ แต่กระบวนการผลิตและความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์อาจมีความแตกต่างกับการฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตรชั้นผิว
3. สารฉีดเพื่อเพิ่มคอลลาเจนในผิว สารกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสารคอลลาเจนให้ผิวหนัง ตัวอย่างสารในกลุ่มนี้ ได้แก่ โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide)โพลีคาโพรแลคโตน (Polycaprolactone) โพลีแอลแลคติกแอซิด (Poly-L Lactic aicd) โพลีดีแอลแลคติกแอซิด (Poly-D-L Lactic acid) แคลเซียมไฮดรอกซี่อะพาไทท์ (Calcium hydroxyapatite) สารกลุ่มนี้มีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันไป เช่น โพลีนิวคลีโอไทด์และแคลเซียมไฮดรอกซี่อะพาไทท์จะออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นเซลล์ที่สร้างสารคอลลาเจนในผิวหนัง ในขณะที่โพลีคาโพรแลคโตน โพลีแอลแลคติกแอซิดและโพลีดีแอลแลคติกแอซิด จะออกฤทธิ์โดยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบภายในผิวหนังและมีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อรวมทั้งการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผู้ที่เหมาะกับการฉีดสารกลุ่มนี้ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อน ไม่เต่งตึง รวมทั้งริ้วรอยที่เกิดจากผิวหนังหย่อนตัว
4. สารฉีดเพื่อลดไขมัน หรือที่นิยมเรียกว่าเมโสแฟท สารกลุ่มนี้ที่นิยมใช้เช่น ฟอสฟาติดิลโคลีน (Phosphatidyl choline) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสารกลุ่มนี้ยังไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทยเพื่อการฉีด แต่ผ่านการรับรองสำหรับการทาภายนอกเท่านั้น ดังนั้น ผู้รับการฉีดอาจต้องศึกษาข้อมูลก่อนรับการรักษาอย่างละเอียด
5. สารกลุ่มเอ็กโซโซม (Exosome) เป็นกระบวนการนำสารออกฤทธิ์เก็บกักไว้ในถุงหุ้มสาร โดยสารออกฤทธิ์มีวัตถุประสงค์เพื่อซ่อมแซมผิวหนังเพื่อให้การทำงานของเซลล์ผิวหนังดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สารกลุ่มเอ็กโซโซมในปัจจุบันยังไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทยเพื่อการฉีด แต่ผ่านการรับรองสำหรับการทาภายนอกเท่านั้นเนื่องจากต้องการข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว
จะเห็นได้ว่าสารฉีดผิวมีวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาและฟื้นฟูผิวหนังแตกต่างกันไป ในบางรายอาจต้องได้รับการฉีด หลายสารหากมีสภาพปัญหาหลายชนิด ดังนั้น ผู้รับการฉีดจึงควรมีความเข้าใจเบื้องต้นก่อนรับการรักษา เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ตรงจุดและคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วาสนภ วชิรมน
สาขาวิชาโรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี