กลับจากไปขับรถชมเกาะกง ประเทศเขมร เราก็กลับเข้าที่พัก ณ ศูนยราชการุณย์ ตึกที่ผมนอนมี 3 ห้อง อยู่ริมทะเล ผมนอนกับเทพ อ้อนอนกับแม่(พี่หมอกิ่ง) อีกห้องเป็นของคนอื่นคนอื่นๆ ในก๊วนก็แยกกันนอน แต่ห้องไม่ได้หันไปทางทะเล ทราบแต่ว่าห้องติ้ง นา ศราญจิต สว่างดี ดูสบายใช้ได้เลย
ห้องที่อ้อกับพี่กิ่งอยู่แย่หน่อย เป็นห้องค่อนข้างทึบ หลังห้องติดภูเขา เปิดหน้าต่างก็ติดภูเขาเลย ส่วนผนังห้องที่หันมาทางทะเลไม่มีหน้าต่าง!? ห้องเลยทึบ มืดมาก ผมก็ได้เรียนเจ้าหน้าที่ไปว่า ลองพิจารณาทุบผนังทำหน้าต่างให้สว่างหน่อยจะได้หรือไม่ ห้องหันมาทางทะเล แต่ไม่มีหน้าต่าง จึงมองไม่เห็นทะเล และมองไม่เห็นอะไรเลยเสียดาย ยิ่งคนหนึ่งมาจากญี่ปุ่นด้วย ผมจะแลกห้องผมให้เขาเขาก็ไม่ยอม และช่วงนั้นห้องเต็มหมด ไม่สามารถเปลี่ยนห้องได้
ผมในฐานะเจ้าหน้าที่สภากาชาด ช่วง 1 วันนี้ ก็เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ แขกที่มาพัก ร้านอาหารที่มีอยู่ 2 ร้าน และพอว่างก็ลงทะเล รวมทั้งไปเดินรอบๆ สถานที่ด้วย เท่าที่ได้คุยกับผู้ที่มาเที่ยวทุกๆ คนชอบที่นี่มาก เพราะร่มเย็นดี มีชายหาดยาว สวย ปลอดภัย เพราะมีทหารเรืออยู่ถัดไปจากเรา พูดง่ายๆ อยู่ร่วมกัน มีร้านอาหาร 2 ร้าน ถ้าขี้เกียจออกไปไหน ก็หาอะไรกินที่นี่ได้ อยากกินอะไร จองสั่งก่อนได้ เช่น อยากกินปู หอย กุ้ง ก็สั่งล่วงหน้าได้อย่างเช่นก่อนผมจะมา เจ้าหน้าที่กรุณาถามว่าอยากกินปูม้าไหม ราคาเท่านี้ๆ แล้วแต่ขนาด ผมก็สั่งไป 4 กก. เป็นราคาเพียง 1,400 บาทเท่านั้น หรือ 350 บาทต่อ กก. (ปูขนาดแพงกว่านี้ก็มี)แต่ขนาดนี้เนื้อก็แน่นมาก อร่อยมาก 11 คนกินเกือบไม่หมด ปู 2 ตัวสุดท้ายต้องหาอาสาสมัคร แต่เราสั่งอาหารอย่างอื่นด้วย
ห้องนอนผมตลกมาก คือ พอเปิดไฟเข้าห้องน้ำ ไฟในห้องนอนจะเปิดด้วย กลางคืนถ้าไปห้องน้ำต้องเอามือถือไปด้วย จะได้ไม่ต้องเปิดไฟ หรือถ้าไม่เกรงใจคู่หูก็เปิดไฟให้ไฟเข้าตาคนนอนเลย!? เตียงนอนผมแข็งเป็นบ้า รวมทั้งหมอน ผมนอนไม่หลับเลย จนเพลียหลับไปเอง แต่แปลกที่ตื่นมาก็ไม่เพลียมากมายอะไร ตื่นมาก็ไม่สาย ไปเดินเดินไปร้านอาหารชื่อตี๋โภชนา ยังไม่เปิด ไปครั้งที่ 2 เกือบๆ 8 โมงเจ้าของชื่อตี๋ ตื่นมาพอดี แต่กว่าจะกินกาแฟถ้วยหนึ่งได้นานมากผมก็อุดหนุนเขาด้วยการสั่งไข่ดาว กาแฟ ขนมปังปิ้ง ราคาออกมา 60 บาทเขามีปาท่องโก๋ แต่ผมไม่หม่ำปลาชนิดนี้! ไม่ชอบของมันๆ ทอดๆ (บางชนิด)ผมก็แลกเปลี่ยนความคิดกัน ได้ข้อมูลจากตี๋และภรรยาและลูกๆบอกเขาให้ขยัน ทำอาหารให้อร่อย สะอาด หลากหลาย ราคาไม่แพง และพยายามเปิดให้เร็วกว่านี้ เพราะที่ห้องพักไม่มีที่ต้มน้ำชงชา กาแฟ หรือทำมาม่ากิน บางคนอยากกินกาแฟ ต้องรอหลัง 08.00 น. แต่เขาก็บอกว่าสั่งได้ แต่สั่งอย่างไรละในเมื่อ 08.00 น. กว่ายังไม่ตื่น หรือเปิดร้านเลย
ผมเลยเสนอไปยังเจ้าหน้าที่กาชาดหลายเรื่อง เช่น หนึ่ง ม่านหน้าต่าง ควรมี 2 ระดับ ระดับปิดมืดไม่มีแสงเข้า อันที่ 2 คือระดับปิดไม่ให้คนเห็น แต่ทำให้ห้องไม่มืด สอง ปลั๊กไฟ ควรมีหลายๆ จุด โดยเฉพาะที่หัวนอน สาม ควรมีหม้อต้มน้ำ ซึ่งอันละไม่กี่ร้อยบาทเอง และมีกาแฟ ชา ให้ เขาจะได้ต้มชา กาแฟทานเองยามดึก เช้า สาย บ่าย เย็น หรืออาจเอามาม่าซองมาต้มกินเองก็ได้ บางคนอยากกินกาแฟ ไม่อยากต้องไปถึงร้านอาหารเพื่อกินกาแฟ สี่ ห้องน้ำควรมีที่แขวนเสื้อ หรือผ้าเช็ดตัวโดยที่ไม่มีทางโดนน้ำฝักบัว
แต่ที่ดี คือ ที่นี่กลางคืนมีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด 2 คน มีทหารเรืออยู่ใกล้ๆ ทราบว่าคนข้างนอกเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าต้องการมาเที่ยวความจริงจากที่ผมนอนที่นี่คืนหนึ่ง ถึงแม้มีคนมาเที่ยวดึกบ้างจากข้างนอกก็ไม่มีเสียงดังเกินควร แต่ผมก็ยังคิดว่า น่าที่จะมีห้วงเวลาที่คนข้างนอกไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้า เช่น หลัง 22.00-05.00 น. อะไรประมาณนั้น
คืนนั้นสั่งปูม้า 4 กก. และอาหารหลากหลายจากร้านอาหารอีกร้านที่ชื่อ “อ้อนรัก” ความจริงเราไม่ได้เลือกร้านอะไร เจ้าหน้าที่เขาเลือกให้เสร็จ เพียงแต่นอกจากปูเราสั่งอาหารเพิ่ม เจ้าหน้าที่กรุณาให้เรากินอาหารเย็นที่ศาลาริมทะเล ซึ่งเราไปกินที่ร้านก็ได้ ปกติผมมาก็ไปกินที่ร้านที่ศาลาก็สบายดี อยู่ติดทะเล แต่การบริการไม่ค่อยดีเพราะค่อนข้างไกลปืนเที่ยง เด็กเสิร์ฟกว่าจะมารอนานมาก รอข้าว รอกับ รอน้ำ รอน้ำแข็ง รอที่เปิดไวน์ เด็กเปิดไม่เป็นอีก ไอ้ผมก็โง่บรม กล่าวคือ ไม่ดูว่าไวน์มีฝาเป็นจุก หรือเป็นเกลียว มีไวน์ 2 ขวด รอที่เปิดแทบตาย จนไปดูขวด เห็นขวดหนึ่งเป็นเกลียว!? เกือบลงแดงตาย! ขวดที่ 2 เป็นจุกจึงต้องใช้ที่เปิด ร้านก็ไม่มีที่เปิด ไม่น่าเชื่อ!? ทีหลังผมต้องพกไปด้วยเวลาไปไหน ผมจึงต้องแสดงการเปิดไวน์เอง ด้วยเครื่องเปิดที่ไม่ใช่ชนิดที่ผมใช้ประจำ แต่โชคดีที่เปิดได้ สรุปไวน์ 2 ขวดเรียบวุธ ถึงแม้เป็นสุภาพสตรี 6 ชายเพียง 1 สุภาพสตรีอีก 1 ท่านดื่ม chivas regal
เช้าบางคนเดิน บางคนลงทะเล เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวเช้าที่ร้านตี๋โภชนา จะได้ใช้บริการทั้ง 2 ร้านอาหาร แล้วเราก็เดินทางกลับ
ศูนย์ราชการุณย์กำลังมีการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น ผมจึงได้ขอให้ทุกท่านที่ผมได้เข้าไปพูดคุย รวมทั้งตัวผม ให้ข้อแนะนำต่างๆ นานา เพื่อที่พวกเราจะได้นำไปพิจารณาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
กลางวันเราแวะกินเย็นตาโฟใส่กั้ง หรือปู ที่จันทบุรี จานละ 200 บาท ผมกินก็เฉยๆ สู้เย็นตาโฟวัดแขกที่ผมกิน สั่ง เป็นประจำไม่ได้ จริงๆ คิดดูแล้วเราก็ไม่น่ากินปู กินกั้งเลยวันนั้น เพราะคืนก่อนเพิ่งกินปูม้าสดๆ อร่อยมากๆ ไปตั้ง 4 กก. วันนั้นเป็นวันเกิดของติ้ง ผมก็ถูกให้เป็นคนกล่าวอวยพร (ตามเคย) และติ้งก็กรุณาเลี้ยงอาหารมื้อนี้
ให้เราด้วย ความจริงก๊วนน่าจะเลี้ยงคนคนหนึ่งที่เกิด มากกว่าคนที่เกิดต้องมาเลี้ยง 10 คน (10 คนเลี้ยงจะเฉลี่ยคนละไม่กี่ตังค์)
เสร็จแล้วเราก็แวะสวนผลไม้ของพี่น้องผมที่จันทบุรี ปกติผมจะเดินดูสวนแต่กลัวก๊วนจะรอ ผมเลยรีบนั่งรถดูสวนอย่างรวดเร็ว ส่วนก๊วนก็ชิมผลไม้ต่างๆ นานา เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด สละ ฯลฯ ก่อนที่จะซื้อหรือสั่งผลไม้ให้ส่งไปยังที่บ้านอีกมากมาย
ขากลับรถเราเต็มมาก แทบหาที่นั่งไม่ได้ ด้วยผลไม้ต่างๆ นานา ชนิด กว่าจะถึงบ้านผมก็รู้สึกว่า 19.00 น. แล้ว วันรุ่งขึ้นผมต้องไปฮอกไกโด (Hokkaido) กับอีกก๊วน คือ ก๊วน ปธพ.รุ่น 2
โชคดีที่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย นับได้ว่าเป็น 3 คืน 4 วันที่สนุกมากอีกครั้งหนึ่งกับก๊วนนี้
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี