เราได้เคยคุยกันถึงเรื่อง การดูแลช่องปากของสุนัข ความจำเป็นในการขูดหินปูน รวมถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนรับการขูดหินปูนและการดูแลช่องปากสุนัขด้วยตัวเองกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องการแปรงฟันและการใช้อาหารและของเล่นเพื่อช่วยในการขัดฟันกันครับ
@เมื่อไหร่ที่เราควรเริ่มหัดให้สุนัขยอมรับการแปรงฟัน?
เราควรเริ่มหัดให้สุนัขยอมรับการแปรงฟันตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขเลยครับ โดยอาจใช้ผ้าเปียกเช็ดฟันและเหงือก เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับการถูกสัมผัสเหงือกและช่องปากก่อนส่วนการหัดแปรงฟันนั้น อาจเริ่มทำเมื่อลูกสุนัขมีฟันแท้ขึ้นครบหมดแล้ว (โดยปกติลูกสุนัขจะมีฟันแท้ขึ้นครบที่อายุประมาณ 6 เดือน) เพราะหากแปรงฟันในช่วงที่ผลัดฟันจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดแก่ลูกสุนัขได้ จะทำให้ลูกสุนัขเกลียดการแปรงฟันไปเลยได้
ในสุนัขที่โตเต็มที่แล้วก็สามารถเริ่มหัดให้ยอมรับการแปรงฟันได้โดยการหัดต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ ต้องให้รางวัล กล่าวชม และต้องอาศัยความอดทนและความใจเย็นมากกว่าการหัดเมื่อสุนัขยังเป็นลูกสุนัขด้วย
@ ในการแปรงฟันให้สุนัข เราต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง?
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแปรงฟันให้แก่สุนัขประกอบด้วย “ยาสีฟันและแปรงสีฟัน” เท่านั้นเอง
1. ยาสีฟัน
ยาสีฟันที่ใช้ควรเป็นยาสีฟันที่ผลิตขึ้นมาสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากมีกลิ่นและรสชาติที่สุนัขชื่นชอบ จะมีส่วนช่วยทำให้สุนัขยอมรับการแปรงฟันได้ง่ายขึ้นด้วย
ยาสีฟันสำหรับสุนัขบางชนิดผสมเอนไซม์ และสารตั้งต้นบางอย่างที่มีความสามารถในการจับตัวกับน้ำลายแล้วเกิดเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไรภายในช่องปากสุนัขจะทำให้การแปรงฟันได้ผลมากขึ้นแม้ใช้เวลาไม่มาก
2.แปรงสีฟัน
แปรงสีฟันที่ใช้นั้น ก็ควรแปรงสีฟันที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับสุนัขเช่นกันซึ่งมีขนอ่อนนุ่มแปรงมีทั้งแบบที่มีด้ามจับยาว และแบบสวมนิ้ว สามารถเลือกใช้ได้ตามถนัดของเจ้าของครับ
@ วิธีการให้สุนัขยอมรับการแปรงฟันมีขั้นตอนอย่างไร?
การฝึกให้สุนัขยอมรับการแปรงฟัน มีขั้นตอนดังนี้
1. ฝึกให้สุนัขชินกับการมีสิ่งของอยู่ในปากก่อน โดยขั้นแรกเลยเราอาจใช้นิ้วจุ่มน้ำซุปเนื้อสัตว์แล้วยื่นให้สุนัขเลียก่อน แล้วนำนิ้วไปถูบริเวณเหงือกและฟันของสุนัขเบาๆพร้อมกับกล่าวชมและให้รางวัล ทำเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้คุ้นครับ
2.ใช้ผ้ากอซพันที่ปลายนิ้ว แล้วจุ่มน้ำซุปเนื้อสัตว์ จากนั้นถูผ้ากอซรอบฟันพร้อมกับกล่าวชมและให้รางวัล ทำเช่นนี้ต่อเนื่องกันอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์
3. ฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกับรสชาติของยาสีฟันให้แก่สุนัข โดยป้ายยาสีฟันลงบนนิ้วให้สุนัขเลีย จากนั้นป้ายยาสีฟันและไปแตะลงบนเหงือกและฟันของสุนัขพร้อมทั้งกล่าวชม และให้รางวัล ทำเช่นนี้ต่อเนื่องอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์
4.เริ่มใช้แปรงสีฟันจริง แปรงฟันให้แก่สุนัข โดยเริ่มจากซี่ที่เข้าถึงง่ายก่อน เช่น ฟันตัดฟันเขี้ยว โดยแปรงโดยให้ขนแปรงทำมุม 45 องศา กับรอยต่อระหว่างเหงือกและฟันทั้งฟันบนและล่าง พร้อมทั้งกล่าวชมสุนัขเป็นระยะอีกเช่นกัน เมื่อสุนัขยอมรับการแปรงฟันแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนซี่ฟันที่จะแปรงในแต่ละครั้ง จนแปรงฟันได้ทั้งปากครับ
เรียนย้ำว่า ในแต่ละขั้นตอนนั้น เจ้าของต้อง “อดทน ใจเย็น กล่าวชมเชย และให้รางวัลแก่สุนัข” ทุกครั้ง เพื่อให้สุนัขยอมรับ และไม่ต่อต้านการแปรงฟัน เจ้าของอาจจะต้องเหนื่อยมากหน่อยครับ กว่าที่สุนัขจะยอมรับการแปรงฟัน
@ อาหารที่มีความสามารถในการขัดฟัน มีประโยชน์หรือไม่ และสามารถให้สุนัขกินได้ทุกช่วงชีวิตของสุนัขหรือไม่
อาหารที่มีความสามารถในการขัดฟันนั้น เป็นอาหารที่มีขนาดใหญ่และมีเส้นใย (fiber) สูง เมื่อสุนัขเคี้ยวอาหาร เส้นใยเหล่านี้จะช่วยขัดฟันสุนัข ทำให้คราบฟันหลุดออกขณะเคี้ยวอาหาร แต่อาหารดังกล่าวมีเส้นใยสูงจึงมีพลังงานต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับสุนัขเด็ก หรือสุนัขตั้งท้อง รวมถึงสุนัขให้นม และสุนัขที่มีกิจกรรมใช้พลังงานสูงๆอาหารดังกล่าวนี้จะลดการสะสมของคราบฟันได้เฉพาะบริเวณของฟันที่มีการบดเคี้ยวเท่านั้น ซี่ที่ไม่ได้ใช้เคี้ยว หรือหากสุนัขไม่เคี้ยวอาหารก็จะไม่ได้ผลครับ
@ การให้อาหารว่างที่มีคุณสมบัติขัดฟัน มีข้อควรระวังหรือไม่?
อาหารว่างที่มีคุณสมบัติช่วยขัดฟันนั้น มักเป็นอาหารที่มีความน่ากินสูงรสชาติอร่อยให้พลังงานสูง ดังนั้นหากให้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้สุนัขอ้วนได้ และต้องระวังสำหรับสุนัขที่มีปัญหาเรื่องโรคไตด้วยครับ
@ จะเลือกของเล่นที่ใช้ขัดฟันอย่างไร จึงจะเหมาะสม
การที่สุนัขกัดแทะของเล่นนั้น เป็นการลดการสะสมของคราบฟันได้ทางหนึ่ง แต่ของเล่นที่ให้แก่สุนัขนั้นไม่ควรแข็งเกินไป เนื่องจากหากของเล่นแข็งมากอาจทำให้ฟันของสุนัขแตกหรือหักได้
แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าแข็งไปหรือเปล่า ง่ายๆ เลยครับ ให้ลองเอาของเล่นตีที่หน้าแข้งของเราเอง เพื่อตรวจสอบดู หากเป็นของเล่นที่แข็งแล้วจะทำให้หน้าแข้งของเราเจ็บ ก็จะทราบได้ว่า ไม่เหมาะที่จะให้น้องหมาแทะเล่นครับ
เรียนทุกท่านว่า โรคในช่องปากสุนัข อันได้แก่ เหงือกอักเสบโรคปริทนต์ฝีรากฟันสามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอโดยเจ้าของหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “เจ้าของจะเล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่สุนัข และเริ่มต้นมาดูแลสุขภาพของปากสุนัขของเรากันนะครับ เพื่อที่จะให้เพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเราอย่างมีความสุขไปตราบนานเท่านานครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ผู้อำนวยการสำนักงานสภามหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี