หลายคนบอกว่าเลี้ยงหมากับแมวด้วยกันไม่ได้ ต้องบอกว่า เข้าใจผิด เพราะจริงๆ แล้วทั้งหมากับแมวอยู่ด้วยกันได้ หากเราฝึกและเลี้ยงเขาเป็น หากเราเลี้ยงแมวอยู่ก่อน
แล้ววันหนึ่งเราต้องนำหมาเข้าบ้าน วันแรกที่เราพาหมาเข้าบ้าน เราต้องกั้นคอกให้หมา หรือต้องจำกัดพื้นที่ให้หมา เพราะหากปล่อยให้หมาเข้าไปใกล้แมวในทันที ทั้งๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยกัน แมวก็จะรู้สึกว่าถูกคุกคาม
การจำกัดบริเวณให้หมาอยู่ในระยะแรก แล้วค่อยๆ ทำให้ทั้งหมาและแมวค่อยๆ คุ้นเคยกันทีละน้อย จะทำให้เขาเป็นมิตรกันได้ง่ายขึ้น แมวจะเห็นหมาอยู่ในบริเวณของหมา แล้วหมาก็จะเห็นแมวเป็นประจำ เมื่อเขาคุ้นกันแล้ว เขาก็จะค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน จะคุ้นเคยกลิ่นของกันและกันได้ เมื่อเห็นว่าเขาคุ้นเคยกันพอประมาณก็ค่อยๆ ให้แมวเข้าไปใกล้ๆ เขตของหมา โดยอาจนำจานอาหารแมวไปวางใกล้ๆ คอกหรือกรงของหมา ส่วนหมาก็ยังคงอยู่ในกรงต่อไป ทำแบบนี้สักระยะ แล้วจะพบว่าทั้งสองคุ้นเคยกันมากขึ้น และจะเข้ากันได้ในที่สุด
ต่อมาก็ค่อยๆ ให้เขาพบเจอกันโดยไม่ต้องมีคอกหรือกรงกั้น แต่ต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิด ห้ามปล่อยให้เข้าประชิดตัวกันเป็นอันขาด ลองดูปฏิกิริยาของเขาว่าตอบสนองกันอย่างไร ค่อยๆ สอนให้เขาคุ้นเคยกัน ทักทายกัน เมื่อเขาคุ้นกลิ่นของกันและกันมากขึ้น เขาก็จะเป็นมิตรกันมากขึ้น
จะเป็นการดีมากหากเราเลี้ยงหมากับแมวไว้ด้วยกันตั้งแต่เขาทั้งสองยังเป็นลูกหมาลูกแมว เพราะการเลี้ยงเขาด้วยกันตั้งแต่เขายังเป็นเด็กน้อย เขาจะไม่รู้สึกว่าเขาแตกต่างกัน และเขาจะเข้ากันได้ง่ายขึ้น แต่หากต้องนำมาเลี้ยงตอนที่เขาโตแล้ว ก็ต้องใช้ความพยายาม ต้องฝึกเขา และต้องควบคุมเขาจนกว่าเขาจะไม่เป็นศัตรูกันและกัน
การเลี้ยงสัตว์ทั้งสองชนิดด้วยกัน ต้องทำให้เขาจำกลิ่นของกันและกันได้เสียก่อน และต้องให้เขามีบริเวณของส่วนตัวในระยะแรก เพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่มีใครรบกวนหรือคุกคามกันและกัน เมื่อเขาเริ่มคุ้นกันแล้ว ก็ต้องพยายามนำเขาเข้ามาใกล้กันทีละน้อย แล้วคอยดูปฏิกิริยาของเขาว่าเป็นอย่างไร หมาจะทำร้ายแมวหรือไม่ หรือแมวจะทำร้ายหมาหรือไม่ โดยต้องค่อยๆ สอนให้เขารู้ว่าสามารถอยู่ด้วยกันได้สิ่งสำคัญคือต้องให้ทั้งสองคุ้นกลิ่นกันให้ได้ก่อน เช่น นำผ้ารองนอนของแมวไปให้หมาดม หรือนำของเล่นหมาไปให้แมวดม แล้วค่อยๆ ให้เขาเล่นกัน และให้ต่างฝ่ายต่างเข้าไปในเขตของแต่ละฝ่าย แม้เขาจะเริ่มสนิทกันมากขึ้น ก็ต้องไม่ปล่อยให้เขาอยู่กันตามลำพัง ไม่ปล่อยให้เขากินอาหารร่วมกัน เพราะอาหารแมวมีโปรตีนสูงกว่าอาหารหมามาก
ขอย้ำว่า ในช่วงแรกของการนำเขาเข้าไปอยู่ใกล้ๆ กันต้องไม่ปล่อยให้เขาอยู่กันโดยลำพัง แต่เราต้องดูแลเข้าใกล้ชิด และต้องเล่นกับเขาทั้งคู่ไปพร้อมๆ กัน ถึงแม้ว่าทั้งหมาและแมวจะเข้ากันได้แล้ว ก็ต้องแยกที่นอนของเขา โดยเขาต้องมีพื้นที่ส่วนตัว เช่น คอนโดฯ สำหรับแมว และบ้านของน้องหมา เพื่อเขาจะได้นอนกันอย่างสบาย
หากพบว่าเขาขู่กัน ก็ต้องพยายามสอนให้เขารู้ว่าต้องอยู่ด้วยกันฉันมิตร ต้องค่อยๆ ปลอบให้เขาไม่กลัวกันและกันต้องทำให้รู้ว่าการอยู่ด้วยกันอย่างสงบเป็นเรื่องดีของทั้งสองฝ่าย และต้องปรามเขาเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มขู่อีกฝ่ายหนึ่ง และต้องชมเขาเมื่อเขาเล่นด้วยกันได้ดี โดยการลูบหัว กอด หรือให้ขนมเป็นรางวัล
ข้อสำคัญคืออย่าตีแมวหรือหมาต่อหน้าอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะจะทำให้ฝ่ายที่เห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งถูกตีด้อยกว่าตนเอง แล้วอาจจะทำให้เขาแสดงอาการข่มหรือทำร้ายกัน
แล้วกลายเป็นศัตรูกันในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี