ภาพน้ำท่วมหนักที่แม่สาย เชียงราย ที่เพิ่งเกิดเมื่อเร็วๆ นี้รวมถึงข่าวน้ำท่วมน่าน เมื่อไม่นานมานี้ เป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้ผู้พบเห็นอย่างมาก ทำให้เกิดความเดือดร้อนสาหัสกับทั้งคน และปศุสัตว์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงอีกมากมาย แต่ก็ยังนับว่าสังคมไทยของเรายังมีความน่ารักประการหนึ่งคือ เมื่อพี่น้องของเราเดือดร้อน ก็จะมีคนร่วมชาติช่วยกันส่งความช่วยเหลือไปโดยทันที แล้วช่วยทั้งคนและสัตว์
ในช่วงที่ฝนตกหนัก แล้วเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ตามที่พบข่าวในแถบภาคเหนือ โดยเฉพาะเมื่อฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร ในเวลาอันรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ หากระบบระบายน้ำไม่ดี ครั้นเมื่อเกิดน้ำท่วม ทั้งคนและสัตว์ก็เดือดร้อนไม่น้อยไปกว่ากัน บางครั้งสัตว์เดือดร้อนมากกว่าคน เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที โดยจะพบว่าสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์จรจัดไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดอาหาร และเสี่ยงกับการเป็นโรคต่างๆ ตามมา
เราต้องเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมใหญ่และดินถล่มในบริเวณเชิงเขา เมื่อมีฝนตกมากๆ ติดต่อกันหลายวัน ดังนี้
1.ติดตามสภาพดินฟ้าอากาศ ฟังคำพยากรณ์อากาศ และคำเตือนจากทางการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบปริมาณน้ำฝน พายุมรสุมที่จะเข้ามาเพื่อจะได้เตรียมตัวป้องกัน และอพยพได้ทันท่วงที
2.หาที่อยู่ปลอดภัย เมื่อเกิดอุทกภัย เช่น อยู่ในที่สูง เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไฟฉาย วิทยุทรานซิสเตอร์แบบใช้ถ่านไฟฉาย อาหาร น้ำดื่ม แหล่งขับถ่าย และเส้นทางสัญจรที่ต้องใช้ในยามฉุกเฉิน
3.ในกรณีมีสัตว์เลี้ยง ต้องเตรียมอาหารไว้ให้เขาด้วย และต้องมีที่เก็บรักษาอาหาร และ สิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ยา แล้วต้องหาถุงขยะไว้สำหรับเก็บมูลสัตว์ไว้ด้วย
4.เตรียมเบอร์โทรศัพท์สำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือช่องทางติดต่อออนไลน์ เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันการ
5.เตรียมข้อมูลของสถานพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียง หรือสำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่
ปัญหาที่อาจพบได้กับสัตว์เลี้ยงเมื่อเกิด
1.อาจพบสัตว์ต่างๆ รวมถึงสัตว์มีพิษที่มากับน้ำหรือหนีน้ำแล้วไปอยู่ในที่ที่เราต้องเข้าไปอยู่ด้วย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง มด แมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มงูพิษที่เป็นอันตรายกับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง งูชนิดต่างๆ ในไทยจำแนกได้ตามลักษณะภูมิประเทศ เช่น ภาคเหนือ พบว่างูส่วนใหญ่ ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูเขียวหางไหม้ งูแต่ละชนิดมีพิษต่างกัน งูเห่าและงูจงอางมีพิษต่อระบบประสาท เมื่อสัตว์เลี้ยงโดนกัดจะเกิดภาวะอ่อนแรง หายใจลำบาก และหมดสติ จึงมีโอกาสตายได้ส่วนงูเขียวหางไหม้นั้น เมื่อมันกัดสัตว์เลี้ยง จะเกิดการบวมอักเสบ และปวดมากในตำแหน่งที่โดนกัด สำหรับตะขาบ แมงป่อง เมื่อสัตว์เลี้ยงถูกกัดจะเกิดอาการปวดอักเสบและบวม
หากสัตว์เลี้ยงถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย ให้สังเกตอาการ ตั้งแต่ระดับความรู้สึกตัว การตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีหรือไม่ สีเยื่อเมือก (สีเหงือก สีลิ้น เป็นสีชมพูปกติหรือไม่) พบภาวะอ่อนแรง หายใจลำบากหรือไม่ ตำแหน่งที่โดนกัด ต่อยมีอาการบวมอักเสบมากหรือไม่ หรือหากจดจำสัตว์มีพิษที่กัดได้ ก็จะเป็นประโยชน์มากกับการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง กรณีพบว่าถูกงูพิษกัด แนะนำให้รีบนำสัตว์ไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะมีผลต่อการรักษาอย่างมาก เนื่องจากต้องให้ เซรุ่มแก้พิษงู หรือให้ยาลดอาการปวด และผลข้างเคียงทันที
2.โรคที่พบได้บ่อยในช่วงน้ำท่วมที่มีน้ำท่วมขัง คือ โรคฉี่หนู (Leptospirosis) เป็นเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ leptospira โรคฉี่หนูพบเชื้อในน้ำหรือในบริเวณที่หนูขับถ่าย แล้วสัตว์เลี้ยงสัมผัสหรือกินมูลหนูทำให้ติดเชื้อโรคฉี่หนู และโรคนี้ยังเป็นโรคจากสัตว์สู่คน (zoonosis) พบโรคนี้ในสุนัขมากกว่าแมว อาการที่พบ ได้แก่ ซึม กินอาหารน้อยลง มีไข้ อ่อนแรง ปัสสาวะมีสีเข้ม พบภาวะดีซ่าน ตัวเหลือง หายใจลำบาก
การตรวจวินิจฉัยต้องเจาะเลือดตรวจในห้องปฏิบัติการ ประเมินค่าเอนไซม์ตับ การทำงานของไต การตรวจปริมาณแอนติบอดีในเลือดซึ่งเป็นโปรตีนที่ระบบภูมิคุ้มกันสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ (serologytest) โรคฉี่หนูถูกรักษาให้หายขาดได้ แต่ในบางรายที่หายจากโรคฉี่หนูแล้วอาจพัฒนาไปสู่โรคไต สัตวเลี้ยงจึงอาจมีภาวะโรคไต เนื่องจากเชื้อLeptospira จะทำเกิดรอยโรคที่ไต จากการอักเสบของไตแบบเฉียบพลัน (acute nephritis)
ส่วนคนก็ติดโรคฉี่หนูจากสัตว์เลี้ยงได้เมื่อสัมผัสสิ่งคัดหลั่งหรือปัสสาวะของสุนัขที่มีระยะการป่วยและแพร่เชื้อได้ ดังนั้น คนเลี้ยงสัตว์ต้องใส่ถุงมือเพื่อป้องกันการสัมผัสปัสสาวะหรือสิ่งคัดหลั่งจากสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคฉี่หนู
การป้องกันโรคฉี่หนูอีกทางหนึ่งคือทำวัคซีนให้สัตว์เลี้ยง โดยสุนัขมีวัคซีนรวมที่ช่วยป้องโรคฉี่หนูได้ ถึงแม้ว่าจะมี Serovar ที่แตกต่างกันกับวัคซีน ก็สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
3.ปัญหาโรคผิวหนังจากความชื้น ทำให้ผิวหนังอับชื้นติดเชื้อง่าย โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาโรคผิวหนังอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคมากขึ้น แต่ปัญหาโรคผิวหนังไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิต แต่จะทำให้คุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงลดลง โดยเฉพาะอาการคัน และเกิดแผลเมื่อสัตว์เกามากๆ และแรงๆ จึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดไม่ให้เกิดความอับชื้น
ก่อนลากันวันนี้ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องคนไทยที่กำลังประสบเหตุอุทกภัย ขอให้ทุกคนปลอดภัย และหากมีสัตว์เลี้ยง ก็ขอให้ช่วยกันดูแลพวกเขาด้วย เพราะเขาไม่มีทางรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้เหมือนกับมนุษย์
น.สพ.นนทษิต ชุติญาณวัฒน์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี