ระยะนี้มีคนมาปรึกษาเรื่องชีวิตของเขาไม่มีความสุขบ่อยมากขึ้น

วันนี้ผมขอเสนอแนวคิดเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้ชีวิตมีสุขดังนี้

1.Life is Short, Death is Long ชีวิตนี้สั้นเหลือเกิน แต่ความตายสิยาวนานมาก เมื่อไรจะได้เกิดอีกก็ไม่รู้ จงใช้เวลาสั้นๆ ในช่วงมีชีวิตอยู่นี้ให้เกิดประโยชน์และเป็นสุขเถิด อย่าไปมัวอมทุกข์ อมเศร้าอยู่เลย กระโดดออกมาทำให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยและกระฉับกระเฉง Alert & Active ดีกว่า

2.ไม่มีอะไรจะขาดทุนอีกแล้วในชีวิต เพราะทุนของชีวิตคือ ตัวเรา...และลมหายใจ...เท่านั้น ที่เหลือเป็นกำไรทั้งหมด

ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะมีอะไรอยู่เวลานี้ เป็นกำไรทั้งนั้น เช่น มีเสื้อผ้าเก่าๆ รถเก่าๆ ซอมซ่อ แขนขาดไปข้างหนึ่งก็ยังเหลืออีกข้างหนึ่ง เป็นหนี้เป็นสิน เรียนหนังสือไม่เก่ง ฯลฯ ทุกอย่างที่คุณมีอยู่นั้นถือเป็นกำไรทั้งสิ้น เพราะต้นทุนชีวิตของคุณคือ ตัวคุณเองและลมหายใจ...ไงเล่า

เมื่อไรที่หมดสภาพความเป็นตัวของคุณ ก็หมดลมหายใจไปด้วย เท่ากับหมดทุนไปแล้ว ก็หมดสิ้นกัน จบกันไป ไม่มีอะไรจะขาดทุนต่อไป ที่มีชีวิตอยู่จึงมีแต่เป็นกำไรทั้งนั้น

ถ้าเวลาเริ่มมีทุกข์เพราะคิดมาก เครียด ก็จงกลับไปหาต้นทุนชีวิตดูสิ กลับไปอยู่กับตัวเองและลมหายใจของตัวเอง ลองหายใจเข้า-ออก ยาวๆ ช้าๆ สักพัก คุณก็จะเกิดสติเกิดความสงบและรู้ว่าไม่มีอะไรจะขาดทุนเลยในชีวิตของคุณ มีแต่กำไรทั้งนั้น เพราะต้นทุนชีวิตคือตัวคุณเองและลมหายใจเท่านั้น

3.เสบียงติดตัวเล็กน้อยที่คุณควรมีตลอดเวลาก็คือ การทำใจไม่ให้ขุ่นมัวและการนึกถึงความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้น (อย่านึกถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่ เพราะหาได้ยาก)

เรียกว่าให้มักน้อยเอาไว้ นึกถึงเหตุการณ์เล็กๆ ที่ทำให้คุณเกิดความสุขที่ผ่านมาแล้วเอาไว้ แล้วคุณจะรู้สึกว่าชีวิตของคุณยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ด้วยความสุขเล็กๆ นี่เอง

4.คาถาประจำวันคือ รัก และ เมตตา จงท่องและปฏิบัติให้ได้ทุกวัน

รัก และ เมตตาตัวเอง รัก และ เมตตาคนอื่นมากขึ้น

เมื่อเรามีความรักและเมตตามากขึ้น จะเกิดความกรุณา อยากช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์มากขึ้น สนใจความทุกข์ของตัวเองน้อยลง ลดอีโก้ของตัวเองลง จะเกิดความสุขแบบฉ่ำเย็นตลอดไป

คุณจะจากโลกนี้ไปอย่างสบายๆ ในเวลาอันไม่ยาวนานนักหรอก โดยคุณไม่รู้สึกทุกข์และอยู่แบบทนทรมาน

เพราะชีวิตคุณจะเป็นอิสระจากสิ่งยึดติดอุปทานที่ไม่ดีทั้งหลาย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต กลายเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ยืดหยุ่นได้ และมีเป้าหมายที่สร้างสรรค์ต่างหาก