วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2567 อีก 3 วันก็จะเป็นปีใหม่แล้วแต่ละท่านคิดหรือเปล่าว่าในปี พ.ศ. 2567 ท่านทำอะไรที่ดีบ้าง และไม่ดีบ้าง ดีใจและเสียใจบ้างไหมในสิ่งที่ท่านได้ทำ หรือไม่ได้ทำ
สำหรับปี พ.ศ. 2568 ผมอยากทำอะไร มีเป้าหมายอะไร ปีนี้ผมมี 2 เป้าจริงๆ คือ หนึ่ง ผมอยากลดน้ำหนัก (รู้สึกจะตั้งเป้านี้ไว้ทุกปี!?) โดยเฉพาะอย่างยิ่งลดพุง ผมไปซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักแบบ smart weighing machine มา ที่ชั่งน้ำหนักได้ วัดไขมัน น้ำกล้ามเนื้อได้ พบว่าเครื่องชั่งน้ำหนักเก่าของผมเบาไปเกือบ 5 กก.!?(อย่างไรก็ตามน้ำหนักที่ชั่งกับเครื่องเก่าก็เคยสูงกว่า 80 กว่า กก. และลดลงไปถึง 75-77 กก. แต่กับเครื่องใหม่มีน้ำหนักถึง 80 กก.!?(แสดงว่าผมเคยมีน้ำหนักถึง 85 กว่า กก.) ที่ดีคือมวลกล้ามเนื้อผมอยู่ในเกณฑ์ปกติ (ที่ทราบเพราะเปรียบเทียบกับที่เคยชั่งเร็วๆ นี้ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์) แต่ไขมันในร่างกายและในท้องสูงกว่าปกติ (มาก - รู้อยู่แล้ว) น้ำในร่างกายผมมีเพียง 50% ของน้ำหนักตัว ซึ่งน้อยไป อัตราส่วนของน้ำในร่างกายจะสูงที่สุดตอนเป็นเด็ก แต่พอสูงอายุแล้วจะลดลง
ฉะนั้นผมจะต้องลดน้ำหนักที่เป็นไขมันลง โดยเฉพาะที่หน้าท้อง ต้องลดพลังงานในการกิน ผมแทบไม่ได้กินแป้งอยู่แล้ว กินหนักไปทางพืช ผัก ปลา ผลไม้ก็ต้องระวัง น้ำหวาน ขนมหวาน ไม่ชอบอยู่แล้ว ผมออกกำลังกายแบบแอโรบิกและพยายามออกกำลังเพื่อเสริมกล้ามเนื้อทั่วร่างกายด้วย โดยเฉพาะที่หน้าท้อง ถ้าน้ำหนักตัวผมจะเข้าเป้าให้ BMI อยู่ที่ 23 ก็คงต้องมีน้ำหนักตัวเพียง 72 กก. (สูง 1.78 เมตร ถ้ามีน้ำหนักตัว 72 กก. BMI จะเข้าเป้าที่ 23 และหวังว่าพุงจะไม่เกิน 90 ซม. หรือ 35.4 นิ้ว)
แต่จะพยายามค่อยๆ ทำ จะค่อยๆ ลดน้ำหนักตัว ไม่ให้ลดลงเกินสัปดาห์ละ ½ กก. แต่ลดทุกสัปดาห์ ปกติควรลดน้ำหนักไม่เกิน 1 กก.ต่อสัปดาห์ ผมจะต้องพยายามค่อยๆ ลดน้ำหนัก ลดพุง จน BMI เหลือ 23 เท่านั้น และ (ไม่ใช่หรือ) พุงไม่เกิน 90 ซม. (35 นิ้ว)
นั่นคือเป้าหมายทางกาย
ฟังดูแล้ว ถ้าผมมีน้ำหนักตัวเพียง 72 กก. ผมอาจจะผอมมากเกินไป ขณะนี้น้ำหนักตัวทุกเช้าของผมอยู่ที่ 79 กก. ผมก็ดูไม่อ้วนทั่วร่างกาย ยกเว้นที่พุงเท่านั้นที่ยังใหญ่อยู่ วัดเอวได้ประมาณ 100 ซม.หรือ 39 นิ้ว แต่เวลาผมซื้อกางเกงปรากฏว่า 34 นิ้วผมใส่ได้สบายเลย เคยใส่ 36 นิ้วแต่เดี๋ยวนี้หลวมไปแล้ว แต่เวลาช่างตัดเสื้อวัดรอบเอวมักบอกว่าพุงผมมีขนาด 38-39 นิ้วเสมอ!? แต่เนื่องจากผมใส่กางเกงที่มีขนาด 34 นิ้วรอบเอวได้ ผมเลยนึกว่าพุงผมอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ดูเฉยๆ ก็รู้ว่าพุงผมใหญ่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผมจะเอาพุงเป็นหลัก ไม่ใช่ BMI ซึ่งอาจปกติเพราะกล้ามเนื้อหายไป แต่มีไขมันมาเพิ่มแทนที่ ขอให้พุงมีขนาดไม่เกิน 90 ซม. ถ้าพุงมีขนาดนี้จริงๆ น้ำหนักตัวผม BMI ผมจะเป็นขนาดไหนผมจะไม่สนใจ แต่คิดว่าถ้าพุงผมดี BMI, น้ำหนักตัวผมจะอยู่ในระดับมาตรฐานแน่ ฉะนั้น ปัจจุบันนี้การที่ใครเอา BMI เป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่างเดียว ผมว่าไม่ดีพอ ต้องเอาทั้ง BMI และพุง ทั้ง 2 อย่าง ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ถ้าจะดูอย่างเดียวให้ดูขนาดของพุง
ฉะนั้นผมจะต้องกินน้อยลง สรุปคือ กินอาหารไม่เกิน 1 จานถ้าเกินสิ่งที่เกินต้องเป็นพืช ผัก เท่านั้น ปัจจุบันผมก็แทบไม่กินข้าว(สวย)อยู่แล้ว แป้งอื่นๆ เช่น ขนมปัง มันฝรั่ง ก็แทบไม่ได้กินน้ำหวานไม่กินเลย ของหวานที่บ้านมีแต่เฉาก๊วย น้ำตาลไม่กินเลย (ยกเว้นที่อยู่ในก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ทำมาให้แล้ว)
ที่ผมต้องลด คือ ผลไม้ ผมยังกินผลไม้เยอะอยู่ ผลไม้ที่หวานจัดก็ทำให้อ้วนได้ น้ำผลไม้ผมก็ไม่ดื่ม ทุเรียนผมไม่กิน ที่กินบ่อยๆ คือ ส้ม แอปเปิ้ล สับปะรด เงาะ ลำไย (2 อย่างหลังนี้ทำให้อ้วนได้ถ้ากินมากไป) ฯลฯ บางทีก่อนนอนก็กินช็อกโกแลตที่ข้างในมีแอลกอฮอล์ ถ้าไม่กินก็ไม่รู้สึกอยากกิน แต่ถ้ากิน 1 ชิ้น (รูปร่างเป็นขวด) ก็อยากกินมากกว่านั้น กลายเป็น 2-3 ขวด!
เป้าหมายทางใจ คือ อยากจะปล่อยวางทางใจให้มากกว่าในอดีต คืออยากให้ใจเย็นลง ไม่หวังว่าจะให้คนอื่นๆ ทำอะไรไวเท่าเรา หรือทำอะไรทันทีที่บอกเขา ผมอาจจะนั่งสมาธิ ฝึกหายใจลึกๆ มากขึ้นพอใครพูดอะไร จะพยายามคิดหรือหายใจลึกๆ ก่อนที่จะตอบ หรือไม่ตอบเลยช่วงนั้น บางทีคนไม่ได้ถาม พอผมได้ยินผมก็เสนอความเห็นไปแล้ว เรียกว่าเสือกหรือแส่ก็ได้
คนเราเรียนรู้ พัฒนาได้จนตาย ผมคิดว่าผมเองก็เรียนรู้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ทุกปี เพราะทุกวัน เห็น อ่านอะไรที่ไม่รู้ ก็จะเปิดหาอ่านอย่างละเอียดทุกเรื่อง
ปัญหาของผม คือ ผมไวไปในทุกเรื่อง ใจร้อน จะเป็นคนแรกที่ไปถึงตามนัดเสมอ ไม่ชอบไปสาย ถึงแม้จะนัดกับลูกศิษย์หรือใครก็ตาม ใครให้ช่วยทำอะไรมักทำเต็มที่ ทำเร็ว ทันที บางทีทำให้หงุดหงิด เพราะสงสัยว่าทำไมคนอื่นเขาตอบ ทำช้า ผมต้องปล่อยวางบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใจต้องเย็นลงบ้าง แต่นิสัย ทั้งกาย ใจ ผมเป็นอย่างนั้น เช่น บางทีรับของจากคนอื่นและของหล่นจากมือ (หลายครั้ง)แต่ผมยังสามารถตามไปรับได้ก่อนตกถึงพื้น
ผมต้องยอมรับว่าคนเราไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะอายุเท่าใด ทั้งกายและใจ บางคนช้าทั้งกายและใจ ต้องอย่าไปหวังอะไรมากต้องใจเย็นๆ เพราะถ้าเราหวังมาก เราจะหงุดหงิด ปีนี้ผมจะต้องปล่อยวางให้มากขึ้น ใจเย็นให้มากขึ้น
ก็หวังว่าจะทำได้ทั้ง 2 เป้า ถ้าไม่ถึงเป้าก็ต้องดีกว่าเก่าขอให้ทุกท่านมีเป้าหมายของตนเองในปี พ.ศ.2568 นะครับ
ใครที่ไม่ออกกำลังกายก็ควรตั้งเป้าไว้
ใครที่กินอาหารมากไป หรืออ้วน ก็ต้องตั้งเป้าลดน้ำหนัก วางเป้าแบบพอสมควร ให้เป็นไปได้ เช่น วางแผนลดน้ำหนักตัวให้ลดลงสัปดาห์ละ
เพียง ½ กก. หรือเดือนละ 1 กก. ซึ่งไม่มาก แต่ปีหนึ่งก็ 12 กก.!?
ขอให้ท่านตั้งเป้าและประสบความสำเร็จในการไปให้ถึงเป้า เพื่อตัวท่านเองนะครับ
สวัสดีปีใหม่ทุกๆ ท่านครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี