ในแต่ละปีมีรายงานจากหน่วยงานชื่อ Animal Poison Control Center หรือ APCC แห่งสหรัฐฯ ระบุว่ามีสัตว์ป่วยได้รับสารพิษต่างๆ โดยรวบรวมจากสายด่วนหลายพันสายต่อปีระบุถึงสิ่งของและสารที่อาจเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง โดยสารพิษ และสารที่อาจเป็นพิษมีมากกว่า 350,000 ชนิด และมีการรายงาน 10 อันดับแรกของสารดังกล่าวทุกปี เพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทราบว่าสิ่งของในชีวิตประจำวันตัวใดบ้างที่จำเป็นต้องเก็บให้มิดชิด และต้องให้อยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน
1.ยาสามัญประจำบ้าน เช่น พาราเซตามอล, ยาแก้หวัด,วิตามิน, อาหารเสริมและยาบำรุงต่างๆ ยังคงเป็นปัญหาอันดับหนึ่งมาหลายปี ด้วยสัดส่วน 16.8% ยาและวิตามินเหล่านี้มักพบในบ้านและถูกเก็บอยู่ในที่ๆ คนและสัตว์เลี้ยงเข้าถึงได้ง่าย เช่น เป้สะพายหลัง และกระเป๋าถือ โดยเจ้าของอาจทำวิตามินและอาหารเสริมหล่นหรือวางขวดยาแก้ปวดไว้ในที่ที่สัตว์เลี้ยงสามารถเข้าถึงได้ อาหารเสริมบางชนิดอาจไม่มีผลร้ายแรงต่อสัตว์เลี้ยง แต่ขณะเดียวกันยาบางชนิดเช่น พาราเซตามอลมีอันตรายต่อชีวิตต่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมว
2.อาหารและเครื่องดื่มของคน มีสัดส่วน 16.2% ประกอบด้วย เครื่องดื่ม, โปรตีนแท่ง, ยาอมหรือหมากฝรั่งที่ผสมไซลิทอล, องุ่น, ลูกเกด, หัวหอม และกระเทียม เป็นส่วนใหญ่ เจ้าของต้องระมัดระวังการเก็บอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจอยู่รอบๆ หรืออยู่ในถังขยะที่เปิดอยู่ เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงที่กำลังหิวโหยเข้าถึงได้
3.ยารักษาโรคและยาควบคุม โดยยารักษาโรคหัวใจ ยาลดความดันและยาสำหรับโรคซึมเศร้าเป็นยาที่พบได้บ่อยที่สุด เจ้าของทุกท่านควรเก็บยาทั้งหมดอยู่ในที่ปิดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายจากเจ้าตัวน้อยที่ชอบสอดรู้สอดเห็นและชอบขุดหาสมบัติเป็นที่สุด
4.ช็อกโกแลต คิดเป็น 13% โดยส่วนใหญ่พบในสุนัขเนื่องจากแมวไม่มีต่อมรับรสหวานและมักจะไม่กินมากพอที่จะทำให้เกิดอาการทางคลินิก อันได้แก่ หัวใจเต้นเร็ว อาเจียน และกระวนกระวาย เป็นต้น
5.ผลิตภัณฑ์ทางสัตวแพทย์ คิดเป็น 8.3% ของรายงานทั้งหมด ผลิตภัณฑ์และยาหลายชนิดที่ใช้ทางสัตวแพทย์ถูกพัฒนาให้อยู่ในอยู่ในรูปแบบเคี้ยวมีการเติ่มกลิ่นและรสชาติเพื่อให้ง่ายต่อการป้อนของเจ้าของ ยาที่อยู่ในรูปแบบนี้สำหรับสัตว์เลี้ยงบางตัวแล้วอร่อยมาก ซึ่งหมายความว่าเมื่อได้ลองแล้ว อาจจะพยายามหาทางเพื่อให้ได้กินอีก เจ้าตัวน้อยอาจจำที่เก็บซึ่งเจ้าของหยิบมาป้อนเป็นประจำได้ ดังนั้นดีที่สุดคือเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ในที่ที่สูงเกินกว่าสัตว์เลี้ยงจะเอื้อมถึงได้
6.พืชและเชื้อรา มีสัดส่วน 8.1% ทั้งพืชในร่มและพืชกลางแจ้งสามารถเป็นอันตรายต่อเพื่อนสี่ขาได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบรายการพืชที่เป็นพิษและไม่เป็นพิษก่อนที่จะนำพืชใหม่เข้ามาในบ้านหรือสวนของคุณ
7.ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้าน คิดเป็น 7.1% โดยมีซองกันชื้นและแบตเตอรี่ได้รับการรายงานว่าถูกกัดแทะและกลืนกินมากที่สุด
8.ยาเบื่อหนูและกาวดักหนู มีสัดส่วน 6.5% ยาเบื่อหนูและอาหารที่วางล่อหนูอยู่บนถาดกาวสามารถดึงดูดสุนัขและแมวได้มากพอๆ กับที่มันดึงดูดหนู และหากสัตว์เลี้ยงของคุณกินยากำจัดหนูเข้าไป อาจทำให้เกิดเลือดออกไม่หยุด, ไตวาย, ชัก หรือตายได้
9.ยาฆ่าแมลง มีสัดส่วน 3.5% สเปรย์กำจัดแมลงและผลิตภัณฑ์ในสวนอื่นๆ อาจดึงดูดสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน หรือสัตว์เลี้ยงของคุณอาจได้รับการสัมผัสทางอ้อมหลังจากคุณใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในสวน การอ่านฉลากเกี่ยวกับการใช้ที่ถูกต้องและการเก็บให้มิดชิดหลังการใช้งานสามารถลดความเสี่ยงจากการสัมผัสได้ หรือลองใช้ทางเลือกอื่นๆ ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงทดแทนยาฆ่าแมลง
10.ยาเสพติด คิดเป็น 2.3% ของรายงานทั้งหมด และแนวโน้มที่สัตว์เลี้ยงได้รับกัญชายังคงเพิ่มขึ้น โดยอาจพบอาการทางคลินิกได้ตั้งแต่อาการซึม มึนงง ไปจนถึงความดันต่ำ และตาย
เพราะฉะนั้น โปรดเก็บสิ่งต่างๆ ที่ระบุให้มิดชิดและยากกับการที่สัตว์เลี้ยงจะเข้าถึงได้ในทุกกรณี
สพ.ญ.ชิตสุดา อุ่นประเสริฐ
สัตวแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี