ได้มีการก่อตั้งมูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ขึ้นมาในปีพ.ศ. 2525 ในสมัยที่ท่าน รศ.นพ.ยาใจ ณ สงขลา เป็นคณบดี (2524–2528) เนื่องจากว่าในสมัยนั้น (และยังสมัยนี้) ท่าน อ.ยาใจและคณะผู้บริหารเห็นว่างบประมาณแผ่นดินมีน้อย ไม่เพียงพอสำหรับการบริหารงานของผู้บริหารหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ คณะ และ รพ. จึงได้จัดตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมา
วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ นี้ คือ 1.ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาการอบรม การค้นคว้าวิจัยและการสวัสดิการของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.ส่งเสริมและสนับสนุนการให้การรักษาพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย 3.ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อการกุศล และองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อสาธารณประโยชน์ 4.ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
หน้าที่หลักของมูลนิธิฯ ผมขอสรุปว่า คือผลิตแพทย์ที่เป็นคนดี ที่เก่ง รอบรู้ และมีสุขภาพที่ดี (จะได้อยู่รับใช้สังคม ประเทศนานๆ) ส่วนตัวผมมีความคิดว่าแพทย์ทุกคน (ถ้าเป็นประชาชนทั้งประเทศด้วยยิ่งดี) ต้องมีความดีเหนือสิ่งอื่นใด ความจริงสำหรับแพทย์ผม(ดัดจริต)ไม่สนใจเรื่องความเก่งด้วยซ้ำไป ทำไม?! เพราะว่าถ้าแพทย์เป็นคนดีจริงเขาจะเก่งเอง!!? ทำไม?
เพราะว่าคนที่เรียนแพทย์สมองส่วนใหญ่ดีมากอยู่แล้ว จะเรียนอะไร ทำอะไรก็ได้ ถ้ารัก ถ้าชอบ ถ้าเอาจริง ฉะนั้นถ้าคนที่สมองดี และเป็นคนดี มาเป็นแพทย์ เขาจะเก่งโดยปริยาย เพราะเมื่อเขาเป็นคนดี จะรักเป็นห่วงเป็นใยต่อผู้ป่วย เขาไม่อยากให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมาน ไม่อยากให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เขาจึงจะต้องทำเต็มที่ให้ผู้ป่วย เช่น อ่านหนังสือ เข้าประชุม มีความรู้ที่ทันสมัย ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ สงสาร มีความเมตตา กรุณา มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พูดจาดีกับผู้ป่วย ญาติ ฯลฯ ฉะนั้นคนที่มาเรียนแพทย์ถ้าเป็นคนดี จะเก่งเอง
และคนเราจะเก่งได้ต้องมีโอกาสเรียน เรียนเป็น จับประเด็น สรุปเป็นและต้องเก่ง 7 อย่าง คือ เก่งคิด คน งานเงิน เวลา ขาย ฟัง และต้องเรียนรู้ ตลอดชีวิต
สรุป หน้าที่ของมูลนิธิฯ คือ สร้างคน สร้างคนดีให้เป็นแพทย์ที่ดีส่งเขาไปเรียนเมืองนอก ทางสาขา โรคที่เขาสนใจ กลับมาจะได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญ ในสิ่งที่เขาทำหรือเรียน ใครที่เป็นอาจารย์ที่จุฬาฯส่วนตัวผมอยากให้ไปนอกที่ ที่ดีที่สุดในโลก ในเรื่องที่เขาสนใจถ้าเป็นไปได้ ทำ Ph.D. และทำจนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดทางเรื่องนั้นๆ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลา 3-4 ปี ปีหนึ่งก็คงต้องใช้เงินเป็นล้านบาท
ฉะนั้น งบประมาณ เงินทุน จึงมีความหมายมากสำหรับแพทย์ สำหรับการซื้ออุปกรณ์ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้ เราควรให้ทุนแพทย์อย่างเพียงพอ เพราะหมอเด็กๆ เหล่านี้ไม่ใช่ทุกคนมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี และเงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นก็ยังไม่มาก คนไหนไปอยู่เมืองไหนที่มีค่าครองชีพแพงก็ต้องเพิ่มให้เขา บางมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศขอให้ส่งเงินเดือนของแพทย์ล่วงหน้าไปให้มหาวิทยาลัยเก็บไว้ก่อนเลย 1 ปี เพราะเขากลัวว่าถ้าส่งเป็นเดือนๆ แล้วอยู่ๆ ทางไทยไม่ส่ง แพทย์จะต้องออก เขาจะเสียคนทำงานไป มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว (หน่วยระบบทางเดินอาหารของผมเอง) ทำให้หน่วยงานต้องขวนขวายหาเงินช่วยลูกน้อง ทั้งๆ เป็นหน้าที่ของคณะ หรือ รพ. หรือสถาบันนั้นๆ นายที่ดีต้องลงมาดูลูกน้อง ไม่ต้องรอให้ลูกน้องร้องขอ นาย อาจารย์ ต้องกระตุ้น สนับสนุนลูกน้อง ลูกศิษย์ ทุกประการ
ปกติมูลนิธิฯ ต่างๆ สามารถให้ผู้บริจาคนำยอดการบริจาคไปคำนวณการลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่าเท่านั้น ไม่เหมือนกับ รพ. คณะแพทยศาสตร์ รร. วัด ที่หักได้ 2 เท่า แต่ปีนี้โชคดีที่ทางกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติให้มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ และบางมูลนิธิฯอื่นๆ สามารถหักภาษีได้ 2 เท่า ตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568-31 ธันวาคม 2570 และหวังว่าจะให้ 2 เท่าตลอดไป เพราะจริงๆ แล้วเราช่วยรัฐบาล ช่วยชาติทางอ้อม
ผมจึงขอกราบเรียนเชิญศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ ทุกท่าน ท่านผู้อ่านทุกท่าน ท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกๆ ท่าน โปรดกรุณาพิจารณาบริจาคให้มูลนิธิฯ ตามยอดเงินที่ท่านต้องการบริจาคเพื่อการหักภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา คือ หักได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ ให้ “มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์” โดยบริจาคผ่านระบบ e-Donation ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 ถึง 31 ธ.ค. 2570 และรับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า มีช่องทางบริจาค ดังนี้
1.สแกน QR Code (e-Donation) ผ่าน Mobile Banking โดยตรง
เลือกเปิดเผยข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลการบริจาค ไปยังกรมสรรพากร
**(จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า อัตโนมัติ)
จัดเก็บสลิปแทนใบเสร็จรับเงินบริจาค
ทั้งนี้โปรดแจ้งข้อมูลการบริจาคมาให้มูลนิธิฯโดยระบุ : ชื่อกองทุนที่ต้องการสมทบ(ถ้ามี), หลักฐานการโอน รวมทั้งที่อยู่เพื่อมูลนิธิฯ จะได้ตอบขอบคุณ หรือ
2.โอนเงินเข้าบัญชี “มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์” ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที่ 045-202069-8 หรือ
3.บริจาคด้วยเช็ค สั่งจ่าย “มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์” หรือ
4.บริจาคโดยตรง ที่สำนักงานมูลนิธิฯ ชั้น 1 อาคารอานันทมหิดล เวลา 08.00-17.00 น.
โดยทางมูลนิธิฯ จะดำเนินการบริจาคผ่านระบบ e-Donation ให้
ทั้งนี้โปรดแจ้งข้อมูลการบริจาคเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า โดยระบุ :
- ชื่อ-สกุล (ที่ต้องการใบเสร็จ)
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษี/เลขบัตรประจำตัวประชาชน
- ที่อยู่การจัดส่งใบเสร็จ/เบอร์โทรศัพท์
- ชื่อกองทุนที่ต้องการสมทบ (ถ้ามี)
- หลักฐานการโอน
Email : cms.found@gmail.com หรือโทรสอบถาม02-2564180 (วันและเวลาราชการ)
หวังว่าทุกๆ ท่านจะกรุณาพิจารณาบริจาคฯ เพื่อสนับสนุนมูลนิธิฯ ให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการสร้างคนที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของประเทศครับ ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านล่วงหน้าครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี