ยารักษาโรค ยาที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงตาทางได้บ่อย ได้แก่
ยาคลอโรควิน (Chloroquine หรือ Hydroxychloroquine)ที่ใช้รักษาโรคมาลาเรีย ข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นต้น มีผลข้างเคียงที่สำคัญคือจอตาเสื่อม ผู้ป่วยควรรับการตรวจตาก่อนเริ่มรับประทานยา และรับการตรวจตาเป็นระยะอย่างน้อยปีละครั้งระหว่างการรับประทานยา ปัจจัยสำคัญ คือ อายุ > 60 ปี ขนาดยาและระยะเวลาที่ได้รับยา
ยารักษาวัณโรค isoniazid และ ethambutol อาจมีผลข้างเคียง คือ เส้นประสาทตาอักเสบ ถ้าผู้ป่วยมีอาการตามัวควรรีบไปพบจักษุแพทย์ หากผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าพบผลข้างเคียงทางตาจากการรับประทานยา ควรปรึกษาอายุรแพทย์เพื่อหยุดยาและเปลี่ยนชนิดยารักษา
แอลกอฮอล์ เอทิลแอลกอฮอล์ใช้ในสุรา (5-25%) แอลกอฮอล์ทำแผลหรือทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ (70%) เมทิลแอลกอฮอล์ใช้ในสีทาไม้ น้ำมันเคลือบเงาและน้ำยาลอกสี เป็นต้น การรับประทานสุราเป็นปริมาณมากอาจเป็นพิษต่อเส้นประสาทตา ห้ามนำแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ไปผสมน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมดื่มเพื่อความมึนเมา เมทิลแอลกอฮอล์เป็นพิษต่อเส้นประสาทตามากกว่าเอทิลแอลกอฮอล์ คนอาจดื่มเมทิลแอลกอฮอล์เข้าไปโดยไม่รู้จากการดื่มสุราเถื่อนหรือจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยจากพิษต่อหลายระบบในร่างกาย
อาหารดิบ คนเราควรรับประทานอาหารปรุงสุกและสะอาด เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรค การรับประทานเนื้อหมูดิบอาจมีเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus suis ปนเปื้อน หากเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยอาจหูดับ ตาบอด และเสียชีวิตได้ การติดเชื้อหนอนพยาธิในลูกตา มักเกิดจากพยาธิปอดหนู พยาธิตัวจี๊ดและพยาธิตัวตืด พยาธิสภาพที่เกิดจากหนอนพยาธิอาจทำให้ถึงขั้นตาบอดถาวรได้
สารตะกั่ว พบในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น แบตเตอรี่ น้ำมันเชื้อเพลิง สี สิ่งพิมพ์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น คนสามารถรับสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายทั้งจากการหายใจ การสัมผัสและการรับประทาน ซึ่งพิษจากตะกั่วมีผลต่อหลายระบบในร่างกาย ทั้งระบบสมอง ระบบทางเดินอาหารและระบบเลือด โดยอาการตะกั่วเป็นพิษระยะแรกจะไม่เฉพาะเจาะจง เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ความจำถดถอย ท้องผูก เป็นต้น สำหรับผู้มีความเสี่ยงควรใช้อุปกรณ์ป้องกันการปนเปื้อนที่เหมาะสม ทำความสะอาดตนเองหลังทำงาน รับการตรวจร่างกายและวัดระดับตะกั่วในเลือดเป็นประจำ
ผลมะเกลือดิบ ในปัจจุบันไม่มีการแนะนำให้ใช้ผลมะเกลือในการถ่ายพยาธิแล้ว เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาวิจัยอย่างแน่นอนว่ามันจะแปรสภาพไปเป็นสารพิษต่อเส้นประสาทตาที่ทำให้ตาบอดได้มากน้อยเพียงใด
บทความโดย
รศ.พ.ญ.สุธาสินี สีนะวัฒน์
สมาชิกชมรมจอตา ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี