ผมโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรีกับสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีท่าน ศ.กิตติคุณ นพ.จรัล มหาทุมะรัตน์ เป็นนายกในช่วง 19-21/1/2568 อ.แพทย์ผู้ใหญ่ที่ร่วมเดินทางไปด้วยมีท่าน อ.ปรีดา ทัศนประดิษฐ์ ท่าน อ.ประสบศรี อึ้งถาวร ท่าน อ.วีรพงษ์ ศาสตรสาธิต รวมทั้งคุณหมอเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อดีตอธิการบดี มศว และอดีตสมาชิกวุฒิสภา และภรรยา พญ.สิรินันท์
เรามีเป้าหมายไปสัมมนาการวางแผนการทำงานของสมาคม แต่ถือโอกาสไปเยี่ยมศิษย์เก่า และ รพ.พระจอมเกล้าของจังหวัดเพชรบุรีอีกด้วย ที่มีคุณหมอพิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ศิษย์เก่า พ.จุฬาฯ รุ่น 42 เป็น ผอ. และมีคุณหมอสิทธิกร ลินลาวรรณ แพทย์ผู้ชำนาญการทางสาขาวิชาระบบทางเดินอาหาร พบ.จุฬาฯ รุ่น 52 เป็นรอง ผอ.
อีกด้วย ที่ รพ.แห่งนี้ ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร และคณาจารย์จากจุฬาฯ และคณะได้ไปช่วยคุณหมอสิทธิกรทำการตรวจคัดกรองหามะเร็งลำไส้ใหญ่ให้ประชาชนมาแล้ว 9 ครั้ง โดยแต่ละครั้งทำการส่องกล้องตรวจประชาชนประมาณครั้งละ 100-200 คน
สมาคมได้ระดมสมองเกี่ยวกับทิศทางการทำงานของสมาคม เช่น มีผู้เสนอให้มีทะเบียนข้อมูลของศิษย์เก่าทั่วประเทศที่สามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดาย มีข้อมูลว่าศิษย์เก่าอยู่จังหวัดไหน อำเภอไหน เชี่ยวชาญอะไร โดยสามารถหาข้อมูลได้อย่างง่ายๆ มีการเสนอให้มีผู้แทนศิษย์เก่าประจำจังหวัด ประจำภาค มีการระดมสมองว่าจะให้บริการศิษย์เก่าที่จำเป็นต้องมาตรวจรักษาที่ รพ.อย่างไร ขณะนี้เรามีการจ้างพยาบาลถึง 5 คน เพื่อดูแลศิษย์เก่า ฯลฯ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉพาะกาลนี้ถึงเดือนละ 2 แสนกว่าบาท
นอกจากนั้นเรายังถือโอกาสไปเยี่ยมชมสวนตาลลุงถนอมไปเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย เขาวัง พระนครคีรี และยังได้มีโอกาสไปลิ้มรสร้านอาหารต่างๆ เช่น ร้านเจ้แดงที่สมุทรสงครามขาไป ร้านบ้านร้อยปี ที่พวกเราทุกคนไม่เคยไปโดยมีเจ้าของคุณแอนท์มาให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เพราะท่านเป็นเพื่อนกับคุณหมอเฉลิมชัย ที่เป็นคนเพชรบุรี และเรียนหนังสือรุ่นเดียวกันและคิดค่าอาหารแบบขาดทุนย่อยยับ!? และร้านอื่นๆ อีก คือ ครัวป้าหยัน ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กเม้ง
“สวนตาลลุงถนอม” ตั้งอยู่ที่ ม.2 ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาดจังหวัดเพชรบุรี โดยคุณลุงถนอม ภู่เงิน เป็นคนเริ่มต้นการปลูกและทำอาชีพกับต้นตาล โดยมีบุตรชาย คุณอำนาจ ภู่เงิน อายุ 52 ปี เป็นคนทำต่อในปัจจุบันนี้ และได้ทำมา 30 กว่าปีแล้ว ต้องทำเองเพราะหาคนช่วยยาก สวนตาลลุงถนอมเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ศาสตร์แห่งตาลโตนด ตั้งแต่การเพาะปลูก การขยายพันธุ์ เก็บเกี่ยวผลผลิต จนถึงการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สำคัญ และที่สำคัญที่สุดในมุมมองของผม คือ การสืบสานจิตวิญญาณของ“คนขึ้นต้นตาล” และตาลโตนดเมืองเพชร ให้ดำรงอยู่สืบไป
จากที่ได้คุยกับคุณอำนาจ อายุ 52 ปี ที่มีรูปร่างเพรียวดี คุณอำนาจมีที่ดินประมาณ 11 ไร่ มีต้นตาลประมาณ 450 ต้น เป็นต้นตัวผู้และตัวเมียแยกกัน มีประมาณแต่ละเพศเกือบเท่ากัน ต้นตาลแต่ละต้นจะมีอายุได้ 200 ปี ใช้เวลาในการปลูก 12 ปีกว่าจะได้ผลผลิต และกว่าจะรู้ได้ว่าเป็นต้นตัวผู้ หรือตัวเมียก็ใช้เวลาเป็นสิบปี ตัวผู้จะไม่มีผล แต่จะมีเฉพาะน้ำตาล ตัวเมียจะให้ทั้งน้ำตาลและผลลูกตาล
ช่วงระยะเวลาที่ยังไม่ได้ผลผลิตจากต้นตาลก็ต้องหากินจากการปลูกต้นไม้อื่นๆ เช่น กล้วย หรือต้นไม้ล้มลุกอื่นๆ คุณอำนาจเริ่มปีนต้นตาลตั้งแต่อายุประมาณ 24 ปี ปีนทุกวันจะหยุดก็เฉพาะวันที่ไม่สบาย มีต้นตาล 450 ต้นจึงต้องหมุนเวียนไปเรื่อย เพราะมีคุณอำนาจคนเดียวที่ปีนต้นตาล คุณอำนาจเอาไม้ไผ่แข็งที่มีก้านแข็งๆ ออกมาข้างๆ มาทำเป็นบันไดปีนต้นตาล และทำสะพานทอดยาวจากยอดต้นตาลต้นหนึ่งไปยังต้นอื่นๆ เพื่อสะดวกในการเก็บเกี่ยวผลและน้ำตาล แกอยากหาคนช่วยปีน แต่ปัจจุบันนี้หาได้ยาก ทั้งๆ ที่ค่าจ้างดีมากต่อวัน เป็นเงินถึง 1,000 บาท แต่ก็ยังหาคนไม่ได้ คนที่จะปีนต้นตาลจะต้องมีใจรัก คุณอำนาจปีนทั้งวันทุกวันแต่ลงมาทานข้าวกลางวัน
น้ำตาลโตนดเป็นน้ำหวานที่เก็บจากจั่น(ช่อดอก)ของต้นตาลโตนด ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์ม ส่วนน้ำตาลทรายผลิตมาจากน้ำอ้อย น้ำตาลโตนดมักใช้ในการทำขนมไทย เช่น ขนมหม้อแกง ขนมตาล ขนมจาก ขนมถ้วย เพราะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมน้ำตาลโตนดมีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีเข้ม ส่วนน้ำตาลทรายมีสีขาวใส(น้ำตาลทรายขาว) หรือสีน้ำตาลอ่อน (น้ำตาลทรายแดง)น้ำตาลทรายมีรสชาติหวานธรรมดา ไม่มีความหอมพิเศษ ใช้สำหรับเพิ่มความหวานในเครื่องดื่มและอาหารทั่วไป น้ำตาลโตนดมีแร่ธาตุธรรมชาติ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม มีค่าดัชนีน้ำตาล (Gl) ต่ำกว่าน้ำตาลทราย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
รายได้จากต้นตาลนี้ปีหนึ่งเป็นเงินถึงล้านบาท (ที่นี่) แต่ปัญหาเท่าที่ผมมองเห็น คือ เมื่อคุณอำนาจมีอายุมากขึ้น ใครจะปีนแทน ผมเสนอไปว่าควรปรึกษากับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องทางด้านนี้ (ราชภัฏ หรือเกษตร) ให้มาร่วมทำการศึกษาวิจัยถึงวิธีการที่จะง่ายขึ้นในการเก็บน้ำตาล ลูกตาล ฯลฯ รวมทั้งการเตรียมให้งวงผลิตน้ำตาลมากๆ มีวิธีไหนไหมที่จะช่วยให้เรารู้ว่าต้นตาลเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย เพราะปัจจุบันนี้กว่าจะรู้ต้องใช้เวลา 12 ปี และอื่นๆ
รัฐบาลน่าที่จะเข้ามาส่งเสริม ช่วยสนับสนุนให้อาชีพนี้อยู่ต่อไปได้อย่างดียิ่งและยั่งยืน เพราะจริงๆ แล้วรายได้ดีมาก ถ้ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย อาจไม่ต้องปีนมาก หรือบ่อย เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ต้องประชาสัมพันธ์สนับสนุนทางด้านวิชาการเทคโนโลยี ฯลฯประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ไม่มีงานทำ แต่แข็งแรงมาสนใจ เรียนรู้ทางด้านอาชีพนี้ และสอนการปีนและอื่นๆ เกี่ยวกับอาชีพนี้ เพื่อความยั่งยืนของอาชีพนี้ และเป็นการช่วยทางด้านเศรษฐกิจให้ประชาชนต่อไป
ผมว่าสำหรับผู้ที่ยากไร้ ไม่มีอาชีพ แต่แข็งแรง การทำอาชีพนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ดีวิธีหนึ่ง
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี