นักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากสัมผัสหนาว ไม่ต้องดั้นด้นไปถึงเมืองนอกเมืองนาให้ต้องเสียเงินเสียทองให้กระเป๋าแฟบ เมืองไทยก็มีหนาวชวนให้คางสั่นได้เหมือนๆ กัน โดยเฉพาะในช่วงเดือน พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ จังหวัดทางภาคอีสานและเหนือหลายจังหวัด สามารถเดินทางไปสัมผัสความหนาวเหน็บของสภาพอากาศได้อย่างอิ่มเอม ไปพร้อมๆกับชมมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างอิ่มใจเช่นกัน
แล้วแต่สะดวก..???
ไปกันทั้งครอบครัว เป็นหมู่คณะ หมู่เพื่อนฝูง คนรู้ใจหรือจะไปกันเป็นคณะหรือจะเลือกเดินทางโดยลำพัง ได้บรรยากาศเหมือนๆกัน…!!! หนาวนี้ชวนกันสวมเสื้อกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า ใส่หมวกใหมพรหมร่วมกันไปเที่ยวเมืองหนาวกันดีกว่า
วันที่ 18-24 มกราคม นี้ 'สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง' จัดกิจกรรมตาม โครงการอบรมให้ความรู้และศึกษาดูงานในการพัฒนาขีดความสามาถด้านการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัด มีคณะสื่อมวลชนจังหวัดตรัง ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน (อป.มช.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ภาคราชการและเอกชน จำนวน 40 ชีวิต ร่วมเส้นทาง เป้าหมายจาก 'เมืองพระยารัษฎาฯ จังหวัดตรัง' มุ่งสู่ 'เมืองสามหมอก จังหวัดแม่ฮ่องสอน'
ก่อนเดินทาง…!!
คณะเดินทาง มีนัดกับ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อรับฟังความเห็นโอวาท และบอกเล่าถึงความความรู้สึกต่อทริปศึกษาดูงานในครั้งนี้…!!
โดย นายศิริพัฒ บอกว่า จังหวัดตรัง ตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยรักษาเสถียรภาพและขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของจังหวัด โดยอาศัยข้อได้เปรียบของทำเลที่ตั้งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรการท่องเที่ยวและความหลากหลายของวัฒนธรรมซึ่งรวมถึงความเป็นจุดขายที่สำคัญในการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวมายาวนาน ซึ่งจากผลการพัฒนาที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ แต่ยังมีปัญหาในเรื่องการกระจายรายได้และการกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
“ในขณะที่ท้องถิ่นหรือชุมชนต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัดมีต้นทุนแหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรที่สำคัญ โดยเฉพาะธรรมชาติตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ไปสัมผัส ซึ่งในท้องถิ่นและชุมชนต่างก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินของนักท่องเที่ยวที่ใช้ในการพักผ่อน พร้อมกันนั้นบรรยากาศ สีสัน และความมีน้ำใจของผู้คนในท้องถิ่นจึงจัดได้ว่าท้องถิ่นและชุมชนจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถต่อยอดการพัฒนาการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด วางรากฐานการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืน”
“ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวท้องถิ่นและชุมชนเพื่อยกระดับองค์ความรู้ ทักษะประสบการณ์ให้เกิดการตระหนักรู้ด้านการบริหารจัดการจึงจะทำให้ท้องถิ่นและชุมชนจะเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของ บุคลากรองค์กรภาครัฐ ตลอดจนสื่อมวลชนท้องถิ่น ให้มีความรู้ความเข้าในและประสบการณ์ในการบริหาร จัดการการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายศิริพัฒ กล่าวย้ำ
โครงการอบรมและศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวจังหวัดตรังแก่สื่อมวลชน จะตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐด้านการพัฒนาบุคลากรในการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน นอกจากนี้เป็นการพัฒนาบุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐานต่อไป
เวลานัดหมาย 4 ทุ่ม คืนวันที่ 18 มกราคม จุดนัดพบหน้าบริเวณศาลากลางจังหวัดตรัง ทุกคนกุลีกุจอเก็บสัมภาระไว้บนรถ ทุกคนรู้สึกเหมือนๆกันคือเต้นเต้น ยินดีที่ได้ร่วมทริป หลังล้อหมุนแม้จะต้องพักนอนบนรถ การพักผ่อนไม่สะดวกสบายเหมือนโรงแรม แต่ก็ได้รับความอบอุ่น ทุกคนหลับ เงียบทั้งคันรถ
หกโมงเช้า วันที่ 19 มกราคม รถถึงจุดจอดร้านครัวคุณต้น อ.ทับสะแก จประจวบคีรีขันธ์ ให้ทุกคนทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าแปรงฟัน พร้อมรับประทานอาหารเช้า พนักงานเสริฟเมนูทั้งข้าวสวย และข้าวต้ม กินกันตามอัทธยาศรัย เพิ่มพลังเตรียมเดินทางต่อ ที่ขาดไม่ได้มีการถ่ายภาพ เลือกมุมเชลฟี่กันอย่างสนุกสนาน ทุกคนยิ้มแย้มสดใส
เดินทางวันแรก เวลาส่วนใหญ่อยู่บนรถมีการจัดกิจกรรมสลายพฤติกรรมร้องเพลงคาราโอเกะ บรรยากาศสนุกสนาน ชื่นมื่น พักแวะรับประทานอาหารเข้าห้องน้ำตามปั๊มส์เป็นระยะๆ
คืนแรกพักโรงแรมไวท์เฮ้าส์ จังหวัดตาก รวมระยะทาง 1,250 กม. ใช้ระยะเวลา 24 ชม. เป็นอะไรที่อึดจริงๆ คืนนี้นอนพักผ่อนเอาแรง ลุยต่อไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอนราตรีสวัสดิ์ไปพร้อมๆกับนอนหลับฝันดี
วันที่ 2 (20 ม.ค.) หลังจากผ่านค่ำคืนของการพักผ่อน ณ จังหวัดตาก เช้านี้คณะสื่อมวลชนตรัง เดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เป้าหมายสู่เมือง"หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง"จังหวัดแม่ฮ่องสอน
คณะสื่อมวลชนนัดหมายรับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางบรรยากาศอุณหภูมิ20องศา เก็บสัมภาระขึ้นรถ มีการเก็บเกี่ยวความทรงจำด้วยการถ่ายภาพอย่างสดชื่น สนุกสนาน จากนั้นหิ้วกระเป๋าสะพายเป้ เตรียมชุดเดินทางสําหรับ2วัน สู่เส้นทางอบรมศึกษาปายและแม่ฮ่องสอน
เส้นทางสายตาก-เชียงใหม่ ผ่านลำปาง ลำพูน ระยะทาง280กม. ถนน4เลน ลักษณะภูมิประเทศเนินเขาเขียวชะอุ่มด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นมีให้เห็นสองข้างทาง จุดหมายรับประทานอาหารเที่ยงจังหวัดเชียงใหม่
จากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวภายในหุบเขาสูงต่ำจํานวน1864โค้ง ระยะทาง245กม. ใช้ระยะเวลาเดินทาง6ชม. เป็นอีกวันของการศึกษาแอดเวนเจอร์ ใช้ความอึดมากๆ เป็นอีกคืนที่หลับสนิท เพราะความเหนื่อยและเพลีย
“วัลเล่ย์รีสอร์ต บ้านรักไทย” หมู่6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กลางหมู่บ้านจะมีอ่างเก็บน้ำชาวบ้านสร้างบ้านรายล้อม และบนเชิงเขาลดหลั่นกันเป็นขั้นบันได ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเหน็บจับใจ ทำให้เวลาเช้าจะสัมผัสกับไอแดดมีไอน้ำละเหยมองเห็นเป็นทะเลหมอก สวยงามอย่างน่าทึ่งมหัศจรรย์ใจ
รวมทั้งความเป็นอัตลักษณ์ ของชาวบ้านชุมชนชาวจีนยูนาน หรือจีนฮ่อ ที่อาศัยอยู่จำนวน1619คน 533ครัวเรือน ชาวบ้านยังคงใช้งิชิตแบบวิถีเดิมๆเรียบง่าย อาชีพทําการเกษตร ปลูกชา ค้าขาย ท่่องเทียวเชิงอนุรักษ์ สัมผัสกลิ่นอายทะเลหมอก ท่าทกลางความหนาวเหน็บของอากาศตลอดปี เป็นบรรยากาศสวยงามเป็นมนต์เสน่ห์ตรึงตา ตรึงใจ ที่ทําให้แขกมาเยืยนต้องหลงใหล
วันที่ 3 (21ม.ค.) เวลา 09.30 น. คณะเดินทางต่อไปยังโครงการพระราชดำริปางตอง2(ปางอุ๋ง)"สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" เป็นโครงการพระราชดําริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชรัชกาลที่9 เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูงริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายสวยงาม
อ้อ..!!! ลืมบอกไปว่า การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆต้องวิ่งบนภูเขาเส้นทางสูงต่ำลาดชัน คดเลี้ยวหักศอก ตลอดเส้นทาง ต้องอาศัยโชว์เฟอร์ในพื้นที่ ทําให้ไม่เกิดความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย แต่อย่างใด
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ภูโคลน แหล่งโคลนตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ แหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพทั่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวและใช้บริการ
ก่อนรับประทานอาหารเที่ยง แวะไป “สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านไม้สัก” กว้าง2เมตร ยาว5ooเมตร มีความเชื่อว่าหากใครยืนกลางสะพานแล้วอธิฐานขอความสำเร็จใดๆก็จะสมหวัง เป็นสะพานที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านร่วมกันสร้าง
สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่บ้านกุงไม้สัก อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสะพานไม้ไผ่ยาวที่สุดในประเทศไทย กว้าง2เมตร ยาว500เมตร สร้างจากความร่วมมือร่วมใจของพระภิกษุและชาวบ้านกุง เชื่อกันว่า หากยืนกลางสะพานและอธิฐานขอความสำเร็จใดๆก็จะสำเร็จและสมหวัง
หลังจากเยี่ยมชมสะพานบุญเรียบร้อยคณะแวะรับประทานอาหารเที่ยงเต็มพลังกันจนอิ่มเอมเดินทางต่อไปมนัสการวัดคู่บ้านคู่เมือง"พระธาตุดอยกองมู" นอกจากได้กราบไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองเป็นศิริมงคลให้กับตัวแล้วยังได้มีโอกาสถ่ายภาพบันทึกความทรงจำและเก็บภาพมุมสูงเมืองแม่ฮ่องสอนได้อีกด้วย
คณะนั่งรถอีกหนึ่งเพลินแวะมนัสการวัดจองคำ ตามประวัติสร้างเมื่อปีพ.ศ.2370 เป็นวัดแห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สร้างโดยพระยาสิงหนาทราช้ำเจ้าเมือง และเจ้านางเยี๊ยะ ต่อมาได้รับการสถาปยาเป็นพระอารามหลวงปี พ.ศ.2527 เหตุที่่เรียกว่าวัดจองคำ เพราะเดิมที่เสาวัดเดิมประดับด้วยทองคำเปลว ปัจจุบันเป็นแผ่นเงิน
วันที่ 4 (22ม.ค.) เช้านี้คณะสื่อมวลชนตื่นกันตั้งแต่ตี 5เดินทางด้วยรถทีโชว์เฟอร์จากท้องถิ่นไปสัมผัสหมอกหนาวชม “ทะเลหมอกหยุนไหล” บนภูเขาสูงกลางเมืองปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ10กว่าองศา จิบชาดื่มกาแฟร้อนๆคลายหนาว ชมทัศนียภาพเมืองปายที่ปกคลุมด้วยทะเลหมอก
จากนั้นกลับที่พักรับประทานอาหารเติมพลัง ก่อนเดินทางต่อไปยัง “สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย” สร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่2ใช้เป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงอาวุธไปยังประเทศพม่า จึงเป็นเส้นทางและสะพานประวัติศาสตร์ในปัจจุบันเสร็จเยี่ยมชมสะพานประวัติศาสตร์แวะบันทึกภาพสวย ณ ร้านอาหารเลิฟสตรอเบอรรี่ ทางร้าน
จัดมุมให้นักท่องเที่ยวบันทึกภาพอย่างเต็มอิ่ม
หลังบันทึกภาพกันอย่างอิ่มเอมทุกมุมที่ถูกใจ คณะเดินทางต่อไปยัง “วัดน้ำอู” วัดเก่าแก่ที่สุดหนึ่งของเมืองปาย โดยทีพระอุ่นเมืองพระพุทธรูปคู่วัดเป็นที่เคารพกราบสักการะของชาวบ้าน จากบันทึกวัดน้ำอูสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งทางวัดอยู่ช่วงจัดพิํธีบวงสรวงสืบชะตาเสริมดวงแบบพิธีล้านนาให้กับผู้มาร่วมพิธี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรตตของสมเด็จพระนนเรศวรมหาราช ทุกวันที่25มกราคม ของทุกปี
หลังรับประทานอาหารเที่ยงกันอย่างอเร็จอร่อยด้วยเมนูตํารับจีนยูนาน คณะได้มีโอกาสสัมผัสหมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน หมู่บ้านสันติชล ตั้งอยู่ตำบลเวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอย เป็นชุมชนชาวจีนยูนานรากฐานของชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวสะท้อนวิถีชีวิต สืบสาน ฟื้นฟู อนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณียูนาน
สถานที่สุดท้ายของการศึกษาศึกษาดูงานวันนี้ก่อนกลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่คณะแวะดินแดนเสน่ห์ของมนต์หมอก “เทือกเขาตระหง่าน อลังการทะเลหมอก"อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง พื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
คืนนี้คณะเข้าที่พักที่คณะผู้จัดไว้ให้ ณ โรงแรมกลางเมืองเชียงใหม่ จากนั้นวันที่ 23 มกราคม มีหมายกำหนดการเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี พักค้างแรม 1 คืน ก่อนจะเดินทางกลับถึงภูมิลำเนาจังหวัดตรัง เที่ยงคืนวันที่ 24 มกราคม เป็นอันสิ้นสุดทริปด้วยความสุข สนุกและการเก็บเกี่ยวความรู้ตามโครงการอบรมให้ความรู้และศึกษาดูงานในการพัฒนาขีดความสามาถด้านการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว จัดโดย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง ด้วยความประทับใจ โอกาสหน้าคงได้เจอกันใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี