26 มี.ค. 61 แหล่งโบราณคดี เสมาพันปี ภายในดอนปู่ตา บ้านชาด ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ทางทิศใต้ ไปตามถนนชยางกูร(อำนาจเจริญ – อุบลราชธานี) ประมาณ 10 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนสายรองอีก 5 กิโลเมตร เลยบ้านชาดไป ก็จะพบเห็นป้ายเสมาพันปี บึงโนนงิ้ว ตั้งอยู่ซ้ายมือ ลัดเลาะเข้าไปถนนแคบๆอีก 200 เมตร ก็จะพบเห็นกลุ่มเสมาหิน ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน บางส่วนวางเรียงรายอยู่พื้นดิน โดยมีเพิงมุงหลังคาสังกะสีครอบกันแดดกันฝน เข้าใจว่า ขุดขึ้นมาไม่ได้ จำนวนหนึ่ง และตั้งเรียงรายอยู่บริเวณป่าอีกจำนวนมาก ถัดไปพบลักษณะคล้ายตู้กระจก มีกระดูกคนวางอยู่จำนวนหนึ่ง เข้าใจว่า เป็นกระดูกคนโบราณ ซึ่งขุดได้จากดอนเจ้าปู่ และยังพบศาลาร้าง 2 หลัง ว่ากันว่า เป็นที่ตั้งวัดสมัยก่อน ซึ่งจะมีคลองน้ำ กว้าประมาณ 10 เมตร รอบดอนเจ้าปู่ ว่ากันว่า ชาวเมืองงิ้วทำคูคลองขึ้นมา เพื่อป้องกันศัตรูข้าศึกเข้ามารุกราน
นายเบา เรืองบุญ อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/6 หมู่ที่ 7 บ้านชาด ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เล่าว่า พ่อ แม่ เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนนั้นดอนปู่ตา มีชื่อว่า เมืองงิ้ว มีเจ้าเมืองปกครอง ขึ้นกับ กรุงศรีอยุธยา ต่อมา ชาวลาวยกทัพมารุกราน เกิดสงคราม เมืองงิ้วถูกตีแตก เหลือเพียงซากปรักหักพัง และเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มป่วยเป็นจำนวนมาก กลายเป็นเมืองร้าง ซึ่งประชาชนเมืองงิ้ว แตกกระจัดกระจาย ไปตั้งหมู่บ้านใหม่ ชื่อว่า บ้านชาด บ้านสามัคคี และบ้านดู่ ในปัจจุบัน ต่อมา มีพระธุดงค์ เดินผ่านมาพักค้างคืนที่เมืองงิ้ว(ดอนปู่ตา) แต่ว่า อยู่ไม่ได้ พบสิ่งลี้ลับอาถรรพ์ต่างๆรบกวน พระธุดงค์จึงได้เตลิดหนีไป ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เป็นดวงวิญญาณของเหล่านักรบหรือบรรพบุรุษเมืองงิ้วปกป้องรักษาอยู่ จากนั้น ได้มีการก่อสร้างผาม(ศาล)ขึ้นมา เพื่อให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ สิงสถิตย์ เรียกว่า ปู่ตา ที่รักษาป่า จนทุกวันนี้
นายเบา เล่าต่อไปว่า เมื่อถึงฤดูทำนา ชาวบ้านจะมาทำพิธีแฮกนา หรือทำนาที่นี่เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลงมือทำนา เพื่อให้ฝนดี ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ และหลังสงกรานต์ ก็จะมีการทำบุญเลี้ยงอาหารปู่ตา พร้อมจัดงานประเพณีสงกรานต์เป็นประจำทุกปีอีกด้วย
oายเบา เรืองบุญ ผู้เฒ่าที่คนในหมู่บ้านนับถือ กล่าวว่า ได้พบเห็นเสมาหินที่ดอนปู่ตาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์ที่คนในหมู่บ้านเคารพนับถือกันมาก ภายในเนื้อที่ 69 ไร่ จะพบเห็นกลุ่มเสมาหินแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มเสมาหินสลักลวดลายบัวคว่ำบัวหงาย จำนวน 15 ใบ 2. กลุ่มเสมาหินที่สลักเป็นรูปอาวุธโบราณ จำนวน 10 ใบ 3.กลุ่มเสมาหินสลักเป็นรูปไข่ปลา จำนวน 20 ใบ และ4.กลุ่มเสมาหินที่มีลวดลายสลัก 2 ด้าน คือ ด้านหนึ่งเป็นรูปกงจักรและอีกด้านเป็นรูปสัญลักษณ์ของกษัตริย์ จำนวน 5 ใบ และเมื่อปี 2526 ศูนย์อนุรักษ์วัฒนธรรมเขต 7. จ.อุบลราชธานี ได้เข้ามาสำรวจตรวจสอบและยืนยันว่า เป็นเสมาหินสมัยทวาราวดี ในศตวรรษที่ 12 มีอายุ 1,200 ปี และที่ฝังดินอยู่ยังมีอีกจำนวนมาก จากนั้น ได้นำใบเสมาหินไปไว้ที่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 1 ใบ เพื่อศึกษาเพิ่มเติม
ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2538 ชาวบ้านได้ทำการขุดลอกลำห้วย รอบๆดอนปู่ตา ซึ่งสมัยก่อนชาวเมืองงิ้ว ทำเป็นคูคลองป้องกันศัตรูรุกลาน ซึ่งขุดพบไหโบราณ ภายในบรรจุกระดูกอยู่จำนวนมาก เข้าใจว่า เป็นกระดูกบุคคลสำคัญของชาวเมืองงิ้ว จึงได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่ ตู้กระจกและที่วัดป่าบึงศิลาราม บางส่วน(อยู่ติดกับดอนปู่ตา) นอกจากนี้ยังขุดพบหีบใส่เสื้อผ้าโบราณ 1 ใบ คาดว่า มีอายุกว่า 100 ปี
ด้านนางลำดวน เรืองบุญ อายุ 69 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านชาด ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า แหล่งเสมาหิน ที่ดอนปู่ตา บ้านชาด ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน มีมานานแล้ว ซึ่งคนสมัยโบราณจะทำใบเสมาขึ้นมาเพื่อบอกขอบเขตของที่ทำการของเจ้าเมือง เข้าใจว่า อาจเป็นบ้านพักหรือสถานที่ทำงานอยู่บริเวณเดียวกัน เมื่อเมืองงิ้วถูกชาวลาวตีแตก ชาวลาวได้เก็บข้าวของสิ่งของมีค่าไปด้วย พร้อมจุดไฟเผาเมือง และหลังสงครามสงบ ก็เกิดโรคระบาด ชาวเมืองงิ้วจึงอพยพย้ายมาตั้งบ้านเมืองห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งคือบ้านชาดในปัจจุบัน ซึ่งคำว่า ชาด เป็นคำพื้นเมือง เข้าใจว่า คือ ชาติงิ้ว
นางลำดวน เรืองบุญ อดีต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านชาด ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ผ่านมา แหล่งโบราณสถานเสมาพันปี ที่ดอนปู่ตา ชาวบ้านเข้าไปดูแลแบบตามมีตามเกิด ใครว่างก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปตัดแต่งตัดถางกิ่งไม้ ต้นไม้ที่รกรุงรัง ให้ดูดี เพียงเดือนละ 1 ครั้ง โดยไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาเอาใจใส่ดูแลเลย จึงขอวิงวอน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ามาพัฒนา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอำนาจเจริญอีกแห่งด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี