9 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าของร้านอาหารดังกลางเมืองคนสวยอำเภอโพธารม จังหวัดราชบุรี ได้ขึ้นป้ายประกาศค้นหาสุดยอดแชมป์เปี้ยน คนแรก ร้านครัวดลยาพาเพลิน กับการแข่งขันกิน ผัดกระเพรา นรกแตก ชิงเงินรางวัล 5,555 บาท พร้อมระบุว่า “ถ้าคุณแน่ จะรออะไร งานนี้เผ็ดนรกแตกแน่นอน” นอกจากนี้ยังมีการประกาศผ่านโลกโซลเชียล จนเป็นที่ได้รับความสนใจของนักชิมและนักล่ารางวัลกันจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านอาหารดังกล่าว มีชื่อร้านว่า ครัวดลยาพาเพลิน ตั้งอยู่เลขที่ 32 ต.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดเป็นร้านอาหารอยู่ในอาคารพาณิชย์ย่านการค้าในเทศบาลเมืองโพธาราม มีการจัดสถานที่แข่งขันไว้ที่บริเวณหน้าร้านด้วยการตั้งเต้นและโต๊ะนั่งสำหรับการแข่งขัน พร้อมด้วยทีมงาน นอกจากนี้ยังมีบรรดาผู้สมัครนักชิม และ ลูกค้าทั่วไปในเขตอำเภอโพธารามและต่างจังหวัดมาร่วมแข่งขันจำนวน 12 คน
นายดล ผาสุก วัย 35 ปี เจ้าของร้าน ครัวดลยาพาเพลิน เล่าให้ฟังว่า ตนเปิดร้านมาได้ 4 เดือนแล้ว และก็ได้เสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีโดยเฉพาะเมนูข้าวผัดกระเพราที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมากที่เปิดมามีลูกค้าเดินทางมารับประทานไม่ขาดสาย ด้วยความที่เรามีสูตรเด็ดเฉพาะทางร้าน และเรายังมีให้เลือกระดับความเผ็ดตั้งแต่เป็นระดับเด็กอนุบาลไปจนถึง เมนูผัดกระเพรานรกแตก นอกจากนี้ยังกระรันตรีด้วยความอร่อยจากมาเป็นเชฟ รายการดัง ติด TOP 24 ในซีซั่น 1 จากผู้เข้าแข่งขัน 250 คน ทำให้ลูกค้าต่างเดินทางมาอุดหนุนจำนวนมาก และเนื่องด้วยใกล้ที่จะถึงเทศกาลปีใหม่ไทย 13 เมษายน ทางร้านจึงอยากจะจัดขอบคุณลูกค้าและอยากทำกิจกรรมกันแบบขำๆ จึงได้ขึ้นป้ายประกาศรับสมัครผู้เข้าแข่งขันที่มีความสามารถในการรับประทานข้าวผัดกระเพราเมนูเด็ดทางร้าน คือ ผัดกระเพรา นรกแตก เพื่อชิงเงินรางวัล 5,555 บาท ด้วยกติกาง่ายๆ เพียงทานข้าวผัดกระเพราให้หมดจาน ซึ่งเป็นจานที่มีปริมาณข้าวปกติที่ขายหน้าร้าน ในเวลา 1 ชั่วโมง ทานได้เลื่อยๆ ใครที่ทานได้สูงสุดก็จะเป็นผู้ชนะคว้าเงินรางวัลไปทันที
ซึ่งการแข่งขันกิน ข้าวผัดกระเพรา นรกแตกครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 12 คน เป็น หญิง 3 คน ชาย 8 คน เด็กอายุ 13 ปี 1 คน โดยก่อนเริ่มการแข่งขัน ทางเชฟดลยา ได้ลงมือผัดกระเพราด้วยตนเอง โดยเป็นเมนูผัดกระเพราหมูสับ ขั้นตอนการผัด ไม่ยุ่งยาก ตั้งกระทะให้ร้อนในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จากนั้นเทน้ำมันจนร้อนได้ที่ ใส่กระเทียม จากนั้นใส่หมูสับ ผัดจนได้ที่ จากนั้นใส่ตามด้วย พริก 5 ชนิด ประกอบด้วย พริกแดงจีน พริกขี้หนู พริกหอม พริกป่น และพริกไทย เมื่อ เร่งปริมาณไฟเพิ่มเล็กน้อย เมื่อหมูกับพริกเริ่มเข้ากัน ใส่เครื่องเทศสูตรเด็ดของทางร้านเพื่อเพิ่มความหอม ก่อนจะใส่ใบกระเพราตาม เมื่อทุกอย่างผัดกันจนเข้าที่ ตักข้าวหอมมะริใส่จานในปริมาณ 1 ด้วยตวง ลาดกระเพรา ตกแต่งด้วยแตงกวา เสิร์ฟ ควบคู่กับน้ำปลาพริก หอมแดง กระเทียม และน้ำซุป จากนั้นยกไปให้ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 12 คน ที่โต๊ะแข่งขัน
เมื่อกรรมการให้สัญญาณเริ่มการแข่งขันพร้อมทั้งจับเวลาจำนวน 1 ชม. ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 12 คน ต่างก้มหน้าก้มตารับประทานกันอย่างไม่มีใครรอใคร ซึ่งการแข่งขันจานแรกเป็นการเริ่มต้นความเผ็ดจะอยู่ในระดับปานกลางหรือไม่เผ็ดมาก เมื่อผู้แข่งขันรับประทานหมดจะเริ่มจานที่ 2 ความเผ็ดจะเริ่มร้อนแรงขึ้น คือ เมนูผัดกระเพรานรกแตก ที่มีความเผ็ดมากด้วยพริกทั้ง 5 ชนิด เมื่อผู้เข้าแข่งขันเริ่มรับประทานในจานที่ 2 สีหน้าของแต่ละคนเริ่มมีการแสดงอาการออกมาอย่างเห็นได้ชัด บางคนเหงื่อแตก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง น้ำตาไหล เวลาผ่านไปได้ประมาณ 20 นาที ผู้เข้าแข่งขันเริ่มทานเข้าสู่จานที่ 3 และ 4 อาการความเผ็ดร้อนเริ่มขึ้นผู้แข่งขัน 2 รายแรกถึงกับยกมือสละสิทธิ์ยอมแพ้ด้วยความเผ็ดร้อนจริงๆ แต่คงที่ด้วยความอร่อย เมื่อเวลาเข้าสู่ช่วง 40 นาที ผู้เข้าแข่งขันขอยกมือยอมแพ้ไปอีก 8 คน ซึ่งแต่ละคนรับประทานได้เพียง 3-5 จานเท่านั้น เหลือผู้เข้าร่วมแข่งขั้นใน 20 นาทีสุดท้าย จำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คน และ หญิง 1 คน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีทีท่าไม่ยอมกัน รับประทานกันแบบเลื่อยๆ แต่ก็ต้องมายอมแพ้ให้กับ ผู้เข้าแข่งขัน ชาย 2 ราย คือนายชัยณรงค์ แซ่ฉั่ว หรือ คุณต๊อก วัย 43 ปี พ่อค้าน้ำใบบัวบกในตลาดโพธาราม มีน้ำหนักตัวสูงถึง 150 กก. และ นายอภินันท์ ประธานสกุล หรือ คุณติน หนุ่มวัย 34 ปี ชาวอำเภอโพธาราม ที่ขับเขี้ยวกันด้วยการกินข้าวผัดกระเพรานรกแตกจำนวน 6 จาน ทำเอาผู้เข้าแข่งขันอีก 2 ท่านต่างยอมโบกมือบายให้ทั้ง 2 คน ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาร่วมลุ้นและเชียร์กันจำนวนมาก
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนต่างเริ่มมีอาการทานได้ช้าลง ด้วยปริมาณข้าวและความเผ็ดที่ทำเอาทั้งสองคนถึงกับน้ำตาไหล เหงื่อไหล และต่างฝ่ายต่างมองกัน และเมื่อกรรมการประกาศหมดเวลา ผลปรากฏว่า นายชัยณรงค์ แซ่ฉั่ว หรือ คุณต๊อก วัย 43 ปี พ่อค้าน้ำใบบัวบกในตลาดโพธาราม ที่มีน้ำหนักตัวสูงถึง 150 กก. สามารถคว้าสุดยอดแชมป์เปี้ยน คนแรกร้านครัวดลยาพาเพลิน ด้วยการกิน ข้าวผัดกระเพรานรกแตก ที่มีความเผ็ดร้อนแรง ไปจำนวนทั้งสิ้น 7 จาน รับเงินรางวัล จำนวน 5,555 บาท ไปครอง ส่วน นายอภินันท์ ประธานสกุล และผู้เข้าแข่งขันอีก 10 คน รับ ผัดกระเพรานรกแตก เป็นรางวัลปลอบใจ กลับไปรับประทานต่อที่บ้าน
คุณติน ผู้แข่งขัน เผยถึงสาเหตุที่ต้องยอมแพ้ในวินาทีสุดท้ายที่รับประทานมาได้ 6 จาน ว่า เนื่องจากกลืนไม่ลงแล้ว เมื่อช่วงเช้าก่อนมาแข่งขันรับประทานข้าวมาก่อน แต่รสชาติของผัดกระเพรายอมรับว่าอร่อยจริง และเผ็ดจริง เผ็ดจนต้องคอบซี๊สปากและซับเหงื่อ
ขณะที่ นายชัยณรงค์ แซ่ฉั่ว หรือ คุณต๊อก ผู้คว้าแชมป์ เผยเทคนิคที่ทำให้ตนเองชนะมาได้ คือ ข้าวผัดกระเพราที่ยกมาเสิร์ฟตนจะเลือกกินกระเพราไปก่อน ตามด้วยข้าว เพราะเป็นข้าวหอมจะทำให้อิ่มเร็ว ส่วนรสชาติยอมรับว่าเผ็ด ทั้งๆที่ตนเองก็ชอบกินเผ็ดอยู่แล้ว แต่ก็พอทนไหว ส่วนรสชาติคงที่ตั้งแต่จานแรกจนถึงจานที่ 7 ความอร่อยรสชาติของกระเพรา
อย่างไรก็ดีสำหรับการแข่งขันค้นหาสุดยอดแชมป์เปี้ยน คนแรก ร้านครัวดลยาพาเพลิน กับการแข่งขันกิน ผัดกระเพรา นรกแตก เป็นการแข่งขันครั้งแรกของทางร้าน ที่ต้องการคืนกำไรให้ลูกค้า เมนูผัดกระเพราที่ทำเราใช้วัตถุดิบที่สะอาด โดยเฉพาะพริกที่นำมาใช้ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน แต่ในระหว่างการแข่งขันก็จะคอยบอกตลอดว่าถ้าทนไม่ได้ก็ยกมือหยุดได้ เพราะกระเพราะของคนเราแต่ระคนรับความเผ็ดได้ไม่เท่ากัน ส่วนครั้งต่อไปจะเป็นการแข่งขันอะไรนั้นต้องคอยคิดตามกันแต่รับรองว่าสุดเด็ดในเมนูของทางร้านแน่นอน ถ้าคุณคิดว่ามีความสามารถเข้ามาสมัครและคว้าแชมป์เราไปให้ได้รับเงินรางวัลเป็นเงินสดไปทันที หรือใครอยากมาทานเมนูเด็ดที่ร้านก็สามารถสอบถามเส้นทางได้ที่โทร 061-8218999
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี