ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ วัดป่ากุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "พระธาตุสามหุน" พระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นที่มีอายุ 108 ปี ที่เกิดเหตุถล่มลงมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.61) ขณะที่ช่างกำลังซ่อมแซมอยู่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย "คนโบราณเกรงว่าจะเกิดเหตุอาเพศหรือร้ายเกิดขึ้นมาในบ้านเมือง แต่นั้นก็เป็นความเชื่อในยุคโบราณมานานแล้ว"
สำหรับวัดป่ากุดหว้าแห่งนี้มีบันทึกโดยพระครูอดุลอรรถกิจ เจ้าคณะอำเภอกุฉินารายณ์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2528 เป็นบันทึกแผ่นหิน ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ระบุว่า วัดป่ากุดหว้า สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2510 และระบุว่าธาตุนี้สร้างเมื่อวัน 5 แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู ตรงกันวันที่ 28 มีนาคม ร.ศ.96 จ.ศ.1239 แต่นั้นมาได้ 108 ปี แรกเรียกชื่อว่า พระธาตุ 3 หุน เพราะมีคน 3 คน มาสร้างไว้ คือ 1.พระธุดงศ์ (ฝ่ายอรัญญวาสี) 2.พระครู (ฝ่ายคามวาสี) มาจากฝั่งซ้าย 3.ชีปะขาว อีกผู้หนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครสนใจ แต่บางคนก็รู้บ้างว่าเป็นธาตุดิน
อยู่มาปี 2513 ข้าพเจ้าไปอบรมพัฒนาท้องถิ่นที่วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 เดือน 15 วันมีพระอาจารย์สมบูรณ์ จ.ราชบุรี บอกว่าที่วัดท่านมีธาตุดินเก่าอยู่ทางทิศเหนือของวัด จะครบ 108 ปี เมื่อถึง พ.ศ.2528 นี้ จึงขอให้ท่านเพิ่มเติมเสริมสร้างไว้บ้างจะได้เป็นที่กราบไหว้สักการบูชา ของพุทธศาสนิกชนรุ่นหลังต่อไป ข้าพเจ้าได้รับคำบอกเล่าจากท่านเช่นนั้น เมื่อกลังมาก็คิดเล่าว่าที่ไหนจะเป็นองค์พระธาตุแท้ตามที่ท่านพูดไว้ อยู่มาในเดือน 11 ปี พ.ศ.2513 นั่นเอง ได้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นคือ รากหญ้าคาเกิดเป็นแสงอยู่ 7 วันในบริเวณธาตุนี้ จึงรู้ว่า โพนดินนี้เป็นธาตุ จึงได้เชิญชวนญาติพี่น้องทั้งหลายได้วางศิลาฤกษ์สร้างธาตุนี้
กระทั่งวันนี้ "พระธาตุสามหุน" ก็ได้เกิดถล่มลงมาท่ามกลางความเชื่อต่างๆ นานาตามคำโบราณ โดยนางเมือง สะอาดแพน อายุ 70 ปี ชาวบ้านกุดหว้า ม.13 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีใครสักคนไปทำสิ่งที่ผิดจนเกิดอาถรรพ์ เพราะก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและชาวบ้านได้มาทำบุญถวายภัตตาหารเช้าเห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากพระธาตุ แต่ก็ไม่เอะใจอะไร เพราะนึกว่าพระจุดไฟเผาขยะ แต่เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ไม่พบว่ามีใครจุดไฟ กระทั่งคนงานก่อนสร้างเข้ามาทำงานตอนสายก็เกิดถล่มดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปหลายปีก่อนก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้เหมือนกันเมื่อเกิดแผ่ดินไหวในเดือนมีนาคม พ.ศ.2518 ทำให้เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณ "พระธาตุพนม" ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ "วัดพระธาตุพนมวรวิหาร" ริมฝั่งแม่น้ำโขง ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม สถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุอยู่บนภูกำพร้า หรือดอยกำพร้า
นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์พายุลมแรงถล่ม จ.หนองคาย ทำให้ "ยอดพระธาตุ" เก่าแก่ภายใน "วัดโพธิ์ชัย" ถูกแรงลมพัดจนพังลงมา ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดอาเพศ โดยเฉพาะที่วัดโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เป็นวัดที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพระใส" ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองด้วย
ส่วน "พระธาตุท่าอุเทน" ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่างๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 66 เมตร ทำให้ซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง และได้บูรณะใหม่จนเสร็จใน พ.ศ. 2541 โดยชาวบ้านเชื่อว่า "พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์" อาจเป็นลางไม่ดีเกิดขึ้นกับคนที่เกิดวันศุกร์หรือไม่
และจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 6.1 ริคเตอร์ ที่ชายแดนประเทศลาว เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2550 เป็นผลให้ "พระธาตุจอมกิตติ" พระธาตุองค์สำคัญและเก่าแก่ในเมืองโบราณเชียงแสน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยน้อยหรือดอยจอมกิตติ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวราว 60 กิโลเมตร เกิดรอยร้าวในส่วนองค์พระธาตุ รวมทั้งในส่วนยอดฉัตรและยอดปลีได้หักพังลง ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวขานกันว่าเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่หลายคนคงยังจำได้เมื่อ "ยอดฉัตร" ของ "พระธาตุบริวารขององค์พระธาตุศรีจอมทอง" ที่อยู่ใน "วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร" พระอารามหลวงชั้นตรี อันเป็นพระธาตุที่ปราชญ์ล้านนาระบุเป็น 1 ใน 12 พระธาตุประจำปีนักษัตร ประจำปีชวด ได้ถูกลมพายุพัดหักจากยอดเจดีย์ลงมาพังเสียหายยับเยิน เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2551 ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นวันเดียวกับที่ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากที่ต้องอาศัยอยู่นอกประเทศไทยมานานกว่า 1 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์และคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ทุกคนหวั่นวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี