20 ส.ค.61 'จิ้งหรีด'เป็นแมลงเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงและนำมาบริโภคทั่วทุกภาคของประเทศ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย กรอบ มัน และมีคุณค่าทางอาหารสูง ในอดีตมีการจับจิ้งหรีดธรรมชาติมาบริโภคภายในครัวเรือน แต่เนื่องด้วยเป็นแมลงที่เมื่อนำมาทอดแล้วมีรส กรอบ มัน ทำให้มีคนชื่นชอบมาก จนปัจจุบันมีการเพาะจิ้งหรีดจำหน่ายเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการและความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน

ที่ฟาร์มจิ้งหรีดชื่อ คุณนายฟาร์มจิ้งหรีด ค่ายบางระจัน ซึ่งมี น.ส.นันทนา ขำจันทร์ หรือ คุณอ้วน อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 10 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี แห่งนี้ นอกจากจะมี จิ้งหรีด แล้ว ยังเพาะพันธุ์ สะดิ้ง และ จิ้งโกร่ง อีกด้วย โดยคุณอ้วน เล่าถึงที่มาของการทำฟาร์มจิ้งหรีดให้ฟังว่า เมื่อก่อนทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดและได้เอาลูกมาฝากให้คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงที่จังหวัดสิงห์บุรี พอลูกเริ่มโตก็อยากกลับมาทำงานที่บ้าน เลยลาออกจากงานที่ทำประจำมาลองทำฟาร์มเห็ดดู แต่ไปไม่รอดก็เลยต้องกลับไปหางานทำที่กรุงเทพฯ ต่อมาไม่นานคุณพ่อบอกว่าอยากจะเลี้ยงจิ้งหรีด เราก็คิดว่าการเลี้ยงจิ้งหรีดมันเป็นยังไงก็เลยทดลองให้พ่อเลี้ยง 10 ลัง และก็ได้กำไรดี จึงทำให้เป็นจุดที่คิดว่า การเลี้ยงจิ้งหรีดน่าจะยึดเป็นอาชีพของเราได้ และที่สำคัญคือจะได้กลับมาอยู่ที่บ้านพร้อมกับครอบครัวด้วย

หลังจากนั้นเลยลาออกจากงานที่ทำและกลับมาเลี้ยงจิ้งหรีดจาก 10 ลัง เป็น 20 ลัง แล้วมันเห็นเงิน เห็นกำไรเลยขยายกิจการ และเริ่มประชาสัมพันธ์โดยการโพสขายทางเฟซบุ๊กและไลน์ เพื่อหาลูกค้า พอเริ่มเป็นที่ตอบรับกิจการเริ่มดีก็ขยายมาจนปัจจุบันนี้มีทั้งหมด 100 ลัง มีรายได้เดือนละหลายหมื่น และเริ่มเอาตัว สะดิ้ง และ จิ้งโกร่ง เข้ามาเลี้ยงด้วย แมลงทั้ง 3 ชนิดนี้ จัดอยู่เป็นประเภทเดียวกัน แต่มีวิธีการเลี้ยงที่ต่างกัน จิ้งโกร่งจะขายได้ราคาดีที่สุด ส่วนสะดิ้งจะราคาถูกสุดเพราะเลี้ยงง่ายสุด ในระยะเวลาในการเลี้ยงในแต่ละชนิดคือ จิ้งโกร่งใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 60 - 70 วัน จิ้งหรีด 35 วัน และ สะดิ้ง 45 วัน ความพิเศษของลูกค้าที่มาซื้อพันธุ์ไข่แมลงจากฟาร์มของเราคือ ได้เป็นสมาชิกของฟาร์ม ทางฟาร์มจะมีการประกันราคาให้ลูกค้า คือ ไม่ให้ราคาตกต่ำ และมีการวางแผนการตลาดให้ลูกค้าตลอดทั้งปี

ความต้องการของตลาด จิ้งโกร่ง ตัวจะใหญ่กว่าจิ้งหรีด มีความต้องการทางตลาดสูง และใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานถึง 2 เดือน ถึง 70 วัน การเลี้ยงก็ยาก อากาศร้อนไปก็ไม่ได้ ราคาจึงค่อนข้างสูง ส่วน จิ้งหรีด นั้นเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด เพราะคนทั่วไปมักชอบทานจิ้งหรีดทอด ต่อมาคือ สะดิ้ง ตัวนี้ก็เป็นที่ต้องการของตลาดเหมือนกัน แต่การรับประทาน จะไม่นิยมมากเหมือนจิ้งหรีด แต่สะดิ้ง ทางฟาร์มจะทำส่งออกต่างประเทศโดยการแปรรูป เพราะว่าต้นทุนจะถูกกว่า จิ้งหรีดและจิ้งโกร่ง วิธีการเลี้ยงก็จะมีความเสี่ยงน้อย คือมีอัตราการตายน้อยที่สุด เมื่อแมลงทุกชนิดถึงวัยที่จะต้องจับ ทางฟาร์มจะมีเคล็ดก่อนที่จะจับคือ การล้างท้องของแมลง โดยให้กินฟักทองบด เพราะเมื่อคนนำไปกินแล้วจะได้โปรตีนสูงถึง 78 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกากใยและไฟเบอร์

แมลงต่างๆ ในฟาร์ม ทั้งจิ้งหรีด สะดิ้ง และจิ้งโกร่งนั้น นอกจากการทอดกินแล้ว ทางฟาร์มจะแนะนำให้นำไปคั่วมากกว่า เพราะการทอดจะได้น้ำมัน แต่ถ้านำมาคั่วแล้วปรุงรสจะมีรสชาติที่อร่อยและปลอดน้ำมันอีกด้วย จากนั้นจะนำไปแปรรูปหลังจากคั่วแล้วคือนำไปยำ หรือทำเป็นลาบก็ได้ เวลาทางฟาร์มไปออกบูธตามที่ต่างๆ ก็จะนำไปยำขายและขายเพียงจานละ 20 บาทเท่านั้น

ที่ฟาร์มนี้กลายเป็นธุรกิจในครอบครัว โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ และลูกทั้ง 3 คน ช่วยกัน มีคนงานและยังมีรุ่นน้องของกลุ่ม Young Smart Farmer กลุ่มที่ให้คำแนะนำในการสร้างบุคลากรด้านการเกษตรรุ่นใหม่ให้มีความทันสมัยและทำการเกษตรอยู่ได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน ที่มาร่วมกลุ่ม ร่วมงานมาช่วยที่ฟาร์มอีกด้วย  

สำหรับผู้ที่สนใจติดตามได้ที่เพจคุณนายฟาร์มจิ้งหรีด ค่ายบางระจัน หรือเบอร์โทร 099-057-5599 การเดินทางมาที่ฟาร์ม ถ้าเดินทางมาจากจังหวัดสิงห์บุรี มุ่งหน้ามาทางวัดโพธิ์เก้าต้น โดยขับเลยวัดโพธิ์เก้าต้นมา ให้สังเกตปั๊ม PTT อยู่ด้านซ้ายมือ ทางด้านขวามือจะมีร้านก๋วยเตี๋ยว ให้เลี้ยวลงทางถนนปูนเล็กๆ ข้างร้านก๋วยเตี๋ยวและตรงเข้ามาประมาณอีก 400 เมตร ก็จะถึงคุณนายฟาร์มจิ้งหรีด ค่ายบางระจัน ทันท