กรมการพัฒนาชุมชนโดยภารกิจนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการเข้าถึงบริการของรัฐ เน้นการ สร้าง โอกาส อาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคงโดยการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง โดยการพัฒนาเส้น ทาง การท่องเที่ยว 8 เส้นทาง 31 จังหวัด 125 หมู่บ้าน บนพื้นฐานของอัตลักษณ์และภูมิปัญญาพื้นถิ่น วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของชุมชน สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนเพื่อสร้างรายได้สร้างความเข้ม แข็งให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ที่มีกลไกการขับเคลื่อนตั้งแต่ระดับชาติสู่ระดับ พื้นที่ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบประชารัฐ โดยการวิเคราะห์ปัญหาความต้องการของประชาชนนั้น
โดยเมื่อวันที่ 2-3 พฤศจิกายน กรมการพัฒนาชุมชนได้นำสื่อลงพื้นที่เข้าชมเยี่ยมหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village) เส้นทางที่ 8 : มรดกโลกด้านวัฒนธรรม กำแพงเพชร - ตาก เริ่มต้นจากจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมทำกิจกรรมที่หมู่บ้านวังพระธาตุ อ.เมือง ตามโครงการหมู่บ้าน Otop Village เพื่อการท่องเที่ยว ต.ไตรตรึงษ์ อ. เมืองกำแพงเพชร ซึ่งมีประชาชนบ้านวังพระธาตุ หมู่ 4 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง และบ้านชุมชนไทร หมู่ 8 ตำบล โป่งน้ำร้อน บ้านเพชรนิยม หมู่2 ต.สักงาม อ.คลองลาน และมีผู้นำชุมชนกล่าวต้อนรับพร้อมรับชมการแสดงต้อนรับ พร้อมไปสักการะวัดวังพระธาตุ,หลวงพ่อโต,หลวงพ่อเพชร,ท้าวแสนปม , เวียนเทียนรอบพระธาตุ ,ลอดใต้โบสถ์ ,นั่งรถอีต๊อกชมเจดีย์ 7 ยอด ตามรอยเสด็จ ร.5 ,สักการะวัดท้ายเกาะ ,ชมต้นหว้า 400 ปี
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดวังพระธาตุ (วัดท้าวแสนปม) ภายในมีโบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์พระประธานทรงข้าวบิณฑ์ (ทรงดอกบัว) ศิลปะสุโขทัย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเห็นรูปทรงของเจดีย์ได้อย่างครบถ้วน เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวที่นับว่าใหญ่ที่สุดในเมืองกำแพงเพชร ด้านหน้าพระเจดีย์มีพระวิหารฐานก่อด้วยอิฐ มีพระประธานประดิษฐานบนฐานชุกชี ด้านข้างอุโบสถมีศาลท้าวแสนปม
โดยรูปปั้นท้าวแสนปมหน้าเจดีย์วังพระธาตุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของนครไตรตรึงษ์ มีนิทานเล่ากันว่า เจ้าเมืองไตรตรึงษ์ มีพระธิดาสิริโสภาองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รักใคร่ดังดวงแก้วตาทรงพระนามว่า นางอุษา ที่ใกล้เมืองไตรตรึงษ์นี้มีชายคนหนึ่งซึ่งร่างกายเต็มไป ด้วยปุ่มปม ชาวบ้านเรียกเขาว่า นายแสนปม มีอาชีพปลูกผักสวนครัวขายเลี้ยงตัว มะเขือที่เขาปลูกเอาไว้ต้นหนึ่งมีผลโตน่ากินเพราะ นายแสนปมถ่ายปัสสาวะรดเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่งเทวดาดลใจให้พระธิดานีกอยากเสวยมะเขือ พวกนางข้าหลวงจึงออกเสาะหาจนมาพบมะเขือในสวนของนายแสนปม ลูกใหญ่อวบจึงขอซื้อไปถวาย หลังจากพระราชธิดาเสวยมะเขือของนายแสนปมได้ไม่นานก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้น ท้าวไตรตรึงษ์รู้สึกอับอายขายหน้า พยายามสอบถามอย่างไรพระธิดาก็ไม่ยอมบอกว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง ครั้นเมื่อพระกุมารได้ เติบโตพอรู้ความ ท้าวไตรตรึงษ์จึงประกาศให้บรรดาขุนนางและเหล่าราษฎร์ทั้งหลายให้นำของกินเข้ามาในวัง หากพระกุมารยอมกิน ของผู้ใดผู้นั้นจะได้เป็นเขยหลวง บรรดาชายหนุ่มในเมืองต่างก็รีบเดินทางเข้าวังพร้อมของกินดีๆนายแสนปมทราบข่าวก็เข้าวังมาด้วยเช่นกัน โดยถือเพียงข้าวสุกติดมือมาก้อนเดียว
แต่พระกุมารรับไปเสวย ท้าวไตรตรึงษ์ทรงกริ้ว ที่พระธิดาไปได้กับคนชั้นไพร่ มิหนำซ้ำยังอัปลักษณ์จึงขับไล่ออกจากวัง นายแสนปมพาพระธิดากับพระกุมารเดินทางเข้าไปหาที่อยู่ใหม่ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงเป็นลิงนำกลองวิเศษมามอบให้ กลองนี้อยากได้อะไรก็ตีเอาตามได้ดังสารพัดนึก
นายแสนปมอธิษฐานให้ปุ่มปมตามตัวหายไปแล้วตีกลองวิเศษ ร่างก็กลับเป็นชายรูปงาม จึงตีกลองขอบ้านเมืองขึ้นมาเมืองหนึ่ง ให้ชื่อ ว่า เมืองเทพนคร และสถาปนาตัวเองเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า ท้าวแสนปม ปกครองไพร่ฟ้าด้วยความสงบสุข และเชื่อกันว่าราชโอรสของท้าวแสนปมคือพระเจ้าอู่ทอง กษัตริย์ผู้ก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า นำไปพระราชนิพนธ์ เรื่อง ท้าวแสนปม ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักท้าวแสนปมมากขึ้น
ส่วนเจดีย์เจ็ดยอดงามสม หมายถึง ภายในกำแพงเมืองโบราณของนครไตรตรึงษ์ มีวัดประจำเมืองคือวัดเจดีย์เจ็ดยอด ซึ่งเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าหลวง(ร.5) เสด็จประพาสต้น กำแพงเพชร ในเดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2449 เมื่อถึงนครไตรตรึงษ์ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า...วิหารเจดีย์พังตั้งอยู่เบื้องหลัง ถัดเข้าไปอีกหน่อยหนึ่ง เรียกว่าเจดีย์เจ็ดยอด จะเป็นด้วยผู้มาตรวจตราค้นพบ สามารถจะถางเข้าไปได้แค่เจ็ดยอดแต่ที่จริงคราวนี้ เขาถางได้ดีกว่า จึงได้พบมากกว่า 7 คือ พระเจดีย์ใหญ่ขนาดพระมหาธาตุริมน้ำอยู่กลาง มีพระเจดีย์สามด้าน... เจดีย์เจ็ดยอด มีเจดีย์รายล้อม พระมหาเจดีย์ อยู่ 3 ด้าน รวม 14 องค์ และยังมีเศียรหลวงพ่อโต เดิมเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนวิหาร เป็นพระที่สร้างขึ้นมาให้
จากคำบอกเล่าของนางเสนอ สิทธิ ปราชญ์ชาวบ้านเมืองไตรตรึงษ์ เล่าว่า เป็นพระที่สร้างขึ้นมาใหม่ ทางวัดได้จัดหาลิเกมาเล่นและเล่นบนวิหารโบราณ ในคืนนั้นฝนตกหนัก ตอนเช้าได้พบว่าองค์พระได้โค่นลงมา พังเสียหายหมดเหลือแต่เศียรเท่านั้นทางวัดจึงยกเศียรขึ้นตั้งอย่างที่เห็นในปัจจุบัน บริเวณหน้าวัดมีศาลของท้าวแสนปมและในบริเวณวัด ก็มีมีรูปปั้นท้าวแสนปม ที่คนทั่วไปให้ความเคารพนับถือในฐานะเป็นตำนานของท้าวแสนปม ผู้สร้างเมืองเทพนคร ฝั่งตรงกันข้ามกับนครไตรตรึงษ์ตามตำนาน โดยภายในโบสถ์ ได้รับการต่อเติมจากใหม่จากชาวบ้าน มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านเรียกขานกันว่า"หลวงพ่อเพชร" ใต้ฐานพระอุโบสถ ขุดลงไปทะลุไปทั้งสองด้าน ทำให้งดงาม ลมพัดผ่านเย็น เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญนิยมทีนักท่องเที่ยวนิยมมาลอดใต้โบสถ์ขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคล
วิถีชาวปกาเกอะญอ หรือกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการอพยพย้ายถิ่นฐานกระจายไปทั่วประเทศไทย และส่วนหนึ่งได้มาตั้งถิ่นฐานที่ อ.คลองลาน มี 2 หมู่บ้าน คือ บ้านคลองน้ำไหลใต้และบ้านกะเหรี่ยงน้ำตก ต.คลองลานพัฒนา อาชีพหลัก คือ รับจ้างทำไร่มันสำปะหลังและหาของป่าขาย ปัจจุบันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ทั้งภาษาและชุดประจำเผ่า ที่ชาวปกาเกอะญอ ยังคงใส่ในงานประเพณีสำคัญ
โดยวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ยังคงเรียบง่าย ที่นี่มีอาคารศูนย์วัฒนธรรมกระเหรี่ยงน้ำตก เป็นหมู่บ้านอัตลักษณ์โอทอปเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการเรียนรู้ มีสินค้าหลากหลายภายในชุมชนที่เกิดจากภูมิปัญญาชุมชน สามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเครื่องจักสานและผลงานปักผ้าชมความสวยงามของถ้ำแสงเพชร มีหินงอกหินย้อย ความงดงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่ยามต้องแสงส่องประกายดุจดั่งเพชร ส่องแสงเป็นประกายแวววาวระยิบระยับ หินงอก หินย้อย แต่ล่ะก้อนสะสมตัว ผ่านตามกาลเวลา เป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ
จากนั้นวันที่ 3 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่จังหวัดตาก เพื่อเดินไปทางไปยังหมู่บ้านห้วยปลาหลด อ.แม่สอด และได้นั้งรถกระบะชุมชนเพื่อเข้ากหมู่บ้านเพื่อทำกิจกรรมที่หมู่บ้านห้วยปลาหลด ,ชมต้นสนสองใบ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรง ปลูก ณ เขตอุทยานตากสินมหาราช ,สักการะวัดถ้ำจุนโท พร้อมฟังธรรมเทศนา,ชมไร่กาแฟและการสาธิตการทำกาแฟ, ผู้นำชุมชนกล่าวต้อนรับพร้อมชมการแสดงชุด จะคึ ถ่ายภาพ ณ จุดชมวิว ล้อ ฆ้อ คอ ชมต้นน้ำและการจัดการหมู่บ้าน ,ชมสินค้า OTOP, ไปยังหมู่บ้านป่าไร่เหนือ..... จ.ตาก และร่วมทำกิจกรรม มีผู้นำชุมชนกล่าวต้อนรับพร้อมรับชมการแสดงชุดรำดาบกระเหรี่ยง และการละเล่นพื้นเมือง ณ ลานวัฒนธรรม
ชมสินค้า OTOP ,ชมประวัติศาสตร์ถ้ำซามูไร, ชมบ้านภูมิปัญญาชาวบ้าน,ชมการสาธิตการทอผ้าหมู่บ้านห้วยปลาหลด อ.แม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวกะเหรี่ยงเคยอาศัยมาก่อน ชาวมูเซอเกือบทั้งหมู่บ้านทำมาหากินโดยปลูกและค้าฝิ่น ใช้ที่ดินจนหมดความสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่าไร่เลื่อนลอย ผืนป่ามหาศาลจึงกลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม เมื่อป่าถูกทำลาย แหล่งน้ำจึงแห้งแล้ง และดินเสื่อมสภาพ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2517 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรชุมชนบ้านห้วยปลาหลดและทรงมีพระราชกระแสให้ปลูกพืชที่ทำรายได้ทดแทนฝิ่น พร้อมกับตั้งตลาดมูเซอ เพื่อจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของชุมชน เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟผสมในพื้นที่ป่า นำไปสู่การดูแลรักษาป่า ซึ่งให้ผลผลิตตลอดปี สามารถเก็บขายและเป็นรายได้หลักให้กับชุมชน
โดยเมื่อปี 2524 ชุมชนบ้านห้วยปลาหลดถูกประกาศพื้นที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ทางอุทยาน ฯ จึงขอให้ชุมชนคืนพื้นที่เพื่อดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ แต่สภาพพื้นที่อพยพที่จัดเตรียมไว้ ไม่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ชุมชนบ้านห้วยปลาหลดจึงหยุดทำไร่เลื่อนลอยและเริ่มหันมาดูแลรักษาป่าต้นน้ำอย่างจริงจัง ปัจจุบันพืชเศรษฐกิจสำคัญของชุมชน ได้แก่ กาแฟอาราบิก้า หน่อไม้ มะขามป้อม และฟักแม้ว(ซาโยเต้) ชาวบ้านจะนำไปขายที่ตลาดมูเซอ ซึ่งเป็นแหล่งรองรับผลผลิตทางการเกษตร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนประมาณ 20,000 - 35,000 บาทต่อเดือน และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านป่าไร่เหนือบ้านป่าไร่เหนือ ต.พระธาตุ อ.แม่ระมาด จ.ตาก เป็นพื้นที่เป็นราบเชิงเขามีลำน้ำไหลผ่านหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชนชาติพันธุ์ปากากะญอ มีวิถีชีวิตเป็นอัตลักษณ์ มีการจัดทำสื่อเรียนรู้อัตลักษณ์ภูมิปัญญา ชาติพันธุ์และวิถีชีวิต การออกแบบปรับปรุงพัฒนาภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยว พัฒนาอาหารพื้นถิ่น ผู้นำชุมชนร่วมกับชาวบ้านได้พัฒนาฟื้นฟูอัตลักษณ์ชาติพันธุ์วิถีชีวิตภูมิปัญญาท้องถิ่นขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมพัฒนาแหล่งเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยว
เช่น ลานวัฒนธรรม มีการจัดแสดงวิถีชีวิตปากากะญอ ต้อนรับนักท่องเที่ยว บ้านภูมิปัญญา แสดงการแปรรูปการทอผ้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าที่ระลึกและบ้านปากากะญอดั้งเดิมมีไว้เป็นที่พักโฮมสเตย์เพื่อรับรองนักท่องเที่ยว ถ้ำซามูไร เป็นที่สนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้เดินทางมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี