2 โหรดังทำนายดวงเมืองไทยปี 2562 ยังร้อนระอุปะทุได้ตลอด "อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ" ชี้การเลือกตั้งมีปัญหา ส่อแววอาจต้องเลื่อนออกไป ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยุ่งยาก วุ่นวาย พวกมากลากไป แถมอายุสั้น ประชาชนเกือบทุกครัวเรือนเป็นหนี้ มีแนวโน้มซ้ำรอยสมัย "จอมพลสฤษดิ์" และเกิดการรัฐประหาร ด้าน "อ.ธาตรี เทียมทอง"เตือนรัฐบาลใหม่ระวังเอกสารโครงการเท็จ ทุจริตงบ การแสวงหาผลประโยชน์ จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง
"อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ" นายกสามคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้ทำนายดวงประเทศไทยในปีหมูทอง 2562 โดยระบุว่า "ดวงเมืองประเทศไทยตั้งพระฤกษ์วันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้าจะเห็นพระอาทิตย์กุมลัคนาของราศีเมษ พระอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง ส่วนพระอังคารกุมพระเกตุอยู่ราศีพฤษภ ขณะที่ดาวพฤหัสสถิตย์อยู่ราศีเมถุน พระจันทร์ราศีกรกฎ พระพฤหัสกุมพระเสาร์ ในราศีธนูดาว 2 ดวงพักรต์องศา
การเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน1-2ปี
ส่วนดาวพระพุธ พระศุกร์ และพระราหูคุ้มกันตรงราศีมีน ซึ่งเป็นภพที่ 12 ของดวงเมือง ซึ่งในดวงเมืองจะเห็นว่าดาวมฤตยูทับลัคนาดวงเมืองท่าพระอาทิตย์ตนุเศษในราศีกรกฎ ซึ่งดาวมฤตยูชอบอะไรที่เปลี่ยนแปลง พลิกผัน ไม่ชอบของเก่าที่สะสมกันมา โดยเฉพาะมฤตยูไปตรงไหนก็จะเปลี่ยนแปลงซึ่งจรเข้าสู่ราศีเมษ ก่อนหน้านี้เกิดลักษณะเดียวกันปี 2557 ไม่กี่วัน คสช.ก็ยึดอำนาจ ซึ่งน่าจะมีผลมาจากดาวมฤตยูทับดวงเมือง และการย้ายเข้าสู่ราศีเมษซึ่งเป็นภพตนุ (ภพที่ 1) ของดวงเมืองจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งมฤตยู 1 ราศีใช้เวลาโคจร 7 ปี ดังนั้นจะอยู่จนถึงกรกฎาคม 2565 จึงจะย้ายไปสู่ภพที่ทำให้ดวงเมืองเกิดความวุ่นวายทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลังที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่
ส่วนด้านการเมืองพฤหัสเข้าไปอยู่ในราศีธนูตั้งแต่มีนาคม 2562 และจะอยู่ไปจนถึงต้นปี 2563 นอกจากนี้ พระพฤหัสกุมเสาร์ ซึ่งเป็นเพราะคนละขั้วถ้าหากเปรียบเทียบแล้วก็จะเปรียบได้กับฝ่ายหนึ่งเป็นเสรีนิยมและอีกฝ่ายเป็นอนุรักษ์นิยม ซึ่งก็จะต้องหาจุดที่กลมกลืนระหว่างดาว 2 ดวง ซึ่งพวกเราก็คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดในอนาคตทางด้านการเมืองภายใน 1-2 ปีนี้
ปชช.จะเป็นหนี้ทุกครัวเรือน-ภัยครั้งใหญ่จะเกิด
ส่วนดาวรอง คือ ดวงจันทร์จะส่งผลเป็นคู่หนี้สินทำให้ประชาชนเกือบทุกครัวเรือนเป็นหนี้ แต่ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังต้องใช้ความมานะอดทนเพียรพยายามใช้พละกำลังอย่างมากในการที่จะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคเรื่องหนี้สินการครองชีพครองเรือนของชีวิตซึ่งก็จะทำให้ผ่านไปได้
ขณะที่ดาวพระราหูจรจะย้ายจากพื้นที่เดิมตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 จากเรือนชะตาที่ 4 (สหัชชะ) เข้าสู่เรือนชะตาที่ 3 ดังนั้น ประชาชนควรจะเลี่ยงการคมนาคม การเดินทางทางอากาศซึ่งอาจจะนำอันตรายมาสู่ได้
ส่วนดาวพระพฤหัสโคจรเข้าราศีธนู ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมถึง 30 ตุลาคม 2562 ซึ่งช่วงที่พฤหัสอยู่ราศีนี้ถือว่าหลบมุมไม่คุ้มชะตาบ้านเมืองจึงทำให้เกิดเภทภัยได้ง่ายและดาวบาปพระเคราะห์มีกำลัง ซึ่งช่วงวันที่ 24 กันยายนถึง 10 พฤศจิกายน 2562 จะต้องระวัง การที่ดาวพระราหูกุมพระอังคารกุมพระอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ทั้งสิ้นและเล็งดาวเสาร์อยู่ในราศีธนูภายใต้ภพที่ 9 ก็จะทำให้เกิดเหตุเภทภัยรุนแรงเหมือนดังเช่นเหตุการณ์ ที่เคยเกิด "สึนามิ" เมื่อปี 2547 มาแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดอุบัติภัยครั้งใหญ่หรือการใช้รถ รวมทั้งการระวังการใช้อากาศยานจะนำมาซึ่งการสูญเสียระดับน้องๆหรือลูกๆหลานๆของ”สึนามิ”ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว
ชี้ปี62-63ดวงเมืองซ้ำรอยสมัย "จอมพลสฤษดิ์"
"อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ" นายกสามคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายดวงประเทศไทยในปี 2562 ต่อว่า นอกจากนี้อิทธิพลของพฤหัสที่กลุ่มพระเสาร์ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับบ้านเมืองมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ถัดมา 30 ปี เป็นเหตุการณ์ตอนช่วงสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2505 นักศึกษา ประชาชน ลุกฮือต่อต้านรัฐบาล และต่อมาอีก 30 ปีก็เป็นช่วงพฤษภาคม 2535 เช่นเดียวกัน ซึ่งลักษณะที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็จะเป็นช่วงประมาณปี 2562 ต่อ 2563 ซึ่งในทางโหราศาสตร์เป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทั้งนี้ จากการศึกษาอดีตเมื่อช่วงที่ดาวเสาร์เข้าไปอยู่ในราศีมังกรภายใต้เรือนชะตาพบที่ 10 ของดวงเมืองซึ่งจะมีวัฏฏะทุก 30 ปี
ส่วนการเลือกตั้งผู้ที่รับผิดชอบบ้านเมืองก็คงจะรอให้พระราหู พฤหัส พระอังคารย้ายราศี เพราะจัดการที่ทำมุมฉากกางเขนใหญ่เพื่อลดความรุนแรงแต่ก็ยังมีปัจจัยทางด้านโหราศาสตร์ ทั้งนี้ จากการที่ดูวันที่อุปราคาเกิดก่อนวันเลือกตั้งเป็นไปได้ว่าก่อนการเลือกตั้งจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่อาจจะส่งผลกระทบไปถึงการเลือกตั้งได้ด้วย
การเลือกตั้งอาจมีปัญหา อาจต้องเลื่อนออกไป
ดาวอังคารจะเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 อยู่ราศีเมษไปจนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2562 และทำมุมสัมพันธ์กับพระอาทิตย์และพระอังคารทับกันสนิทในวันที่ 20 กุมภาพันธ์และทันตรีโกณกับดาวเสาร์จร 7 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง
ดังนั้น ก่อนการเลือกตั้งจะต้องระวัง หรือรวมทั้งระหว่างเลือกตั้งก็ยังต้องระวัง เพราะอาจเกิดเหตุการณ์อะไรสอดแทรกระหว่างการเลือกตั้งได้ และจากการดาวพุธไปอยู่ในราศีดาวพุธอยู่เรือนราหูเป็นคู่ศัตรู 2 องค์ที่อยู่ภายใต้เรือนศัตรูก็เป็นไปได้ว่า หลังเลือกตั้งจะมีปัญหาเรื่องข่าวสารเอกสารที่จะต้องตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของประชาชน ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหาได้เพราะพระพุธโคจรวิปริตภายใต้เรือนราหูและทำมุมกันในดวงเมืองโยกหน้าโยกหลังกันในดวงเมืองอาจจะมีเรื่องถึงจะมีการร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งสกปรกไม่สกปรกจำนวนมาก
นอกจากนี้ การจัดเลือกตั้งตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันโลกาวินาศของปี 2 ดวงเมืองปี 2562 ซึ่งจะทำให้เกิดความโกลาหลและวุ่นวายแต่ถ้าเป็นการเลือกตั้งหลังวันที่ 16 เมษายนการโยกจะเปลี่ยนถ้าเลือกวันอาทิตย์ พระอาทิตย์จะเปลี่ยนจากโลกาวินาศไปเป็นอุบาทว์ ซึ่งสรุปก็ไม่ดีทั้ง 2 วันทั้ง 2 ช่วง อย่างไรก็ตาม อุบาทว์ให้ผลที่ไม่ดีน้อยกว่าโลกาวินาศ เพราะอุบาทว์เป็นเรื่องเฉพาะตัวรายบุคคลไม่โกลาหลเท่าโลกาวินาศ ดังนั้น กกต.ก็ตัดสินใจเอง แต่จากการที่ดาวพระพุทธถอยหลังหมายถึงความล่าช้าต้องมีการตรวจสอบทบทวน ดังนั้น ก็จะมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป
รัฐบาลใหม่อายุสั้น มีแนวโน้มเกิดรัฐประหาร
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นไปด้วยความลำบากและพอจะตั้งได้ก็อยู่ได้ลำบาก เพราะราหูกับพฤหัสเป็นดาวคนละขั้วกัน ส่วนที่มีคนถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งการเผชิญหน้าของดาวบาปเคราะห์กับศุภเคราะห์หรือ 2 ฝ่ายจึงเป็นไปได้ยาก เพราะตราบใดที่ราหูเล็งพฤหัสกับพระเสาร์ ดังนั้น คิดได้ทำได้แต่ไม่สำเร็จ
นอกจากนี้ พระพฤหัสยังอยู่ในภพมรณะจึงมีปัญหาและเปลี่ยนแปลงจนเข้าราศีจรซึ่งจะมีการย้ายจริงๆ วันที่ 30 ตุลาคม 2562 จึงจะให้ความหวังกับประชาชน แต่จะต้องอดทนหน่อยเพื่อให้พฤหัสจะให้คุณในช่วงนี้หลังจากนี้ไปแล้ว ซึ่งก็ต้องรอหน่อย ถึงวันนั้นจะรู้เอง
สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลจะมีคำว่า "พวกมากลากไป" เพราะพระราหูมีนิสัยรักพวกพ้องพวกพ้องทำอะไรก็ถูกหมด จะผิดก็ถูก ขณะที่พระเสาร์เล็งซึ่งก็จะเอื้อให้พวกพ้องและพรรคตัวเอง ญาติตัวเอง เพราะฉะนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน
"อายุรัฐบาลคงอยู่ไม่ครบ เพราะพระราหูอยู่ปีครึ่งอายุสั้นถึงสั้นที่สุด ถ้าดูตามดาวอาจจะอยู่สักปีครึ่งถือว่านานสำหรับรัฐบาลปกติที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่อยู่ไม่ครบวาระ ถ้ามองถึงแนวโน้มของการรัฐประหารมีมากกว่า แต่โดยประชาชนหรือกองทัพก็เป็นได้ทั้งสิ้น"
ระวังโครงการเท็จ ทุจริตงบ โกยผลประโยชน์
อ.ธาตรี เทียมทอง ผอ.สถาบันโหราศาสตร์วิทยา ทำนายดวงเมืองของประเทศไทยว่า ในช่วงปี 2562 สิ่งที่ต้องระวังคือเพศภัยการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ของดวงเมืองที่จะไปอยู่ในราศีธาตุไฟ ดังนั้น อาจจะเกิดปัญหาไฟไหม้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ รวมทั้งต้องระวังการเดินทางและมีเกณฑ์หลายอย่างว่าถ้าหากเดินทางทางอากาศยานอาจจะมีข่าวใหญ่เกิดขึ้นขอให้ระมัดระวัง ทั้งนี้ ดาวอังคารย้ายเข้าสู่ลัคนาดวงเมืองและสัมพันธ์กับมฤตยูรวมทั้งในภพสหัชชะย้ายเข้าสิ้นเดือน ทำให้เกิดภัยอาเพศ เพราะดาว 3 ดวงที่รวมตัวกันได้
"อยากฝากไปถึงนายกฯว่าการลงงบประมาณ ขอให้ลงตรงจุดเพราะดวงเมืองอาจมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการจะต้องมีการกระจายให้ทั่วถึงอย่ากระจุก เพราะดาวที่หมายถึงประชาชนรากหญ้าอาจจะส่งผลมีความทุกข์มากและรวมตัวมาเรียกร้อง รวมทั้งมีการหยุดงาน ประท้วง หากรัฐบาลจัดสรรงบประมาณในปีหน้าไม่ดีมีปัญหาแน่นอน"
นอกจากนี้ ดาวเสาร์อยู่คู่กับพฤหัสบดีเรียกว่าคู่พระคู่โจร ดังนั้น นักการเมืองจึงสร้างวิมานในอากาศให้ประชาชนรากหญ้า รัฐบาลจะต้องควบคุมการสร้างวิมานในอากาศโดยเฉพาะแชร์ลูกโซ่ให้พิจารณาเรื่องความถูกต้องและความชัดเจน แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลการจัดสรรงบประมาณที่เป็นเจ้ากระทรวงอาจจะต้องตรวจสอบให้ดีๆ เพราะรายงานบางอย่างอาจจะไม่จริงตามที่เห็น อาจจะเป็นการทำหลักฐานที่ไม่ถูกต้องอาจเกิดขึ้นได้
ขณะที่ประชาชนคาดหวังเรื่องเศรษฐกิจมาก ดังนั้น ควรจะต้องตรวจสอบให้ดีในเรื่องของคนที่อาจจะมีพฤติกรรมแอบแฝง แสวงหาผลประโยชน์ซึ่งเป็นดวงที่น่าเหนื่อยสำหรับประเทศไทยในช่วงนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี