การช่วงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นไปด้วยดี และประเทศไทยก็ได้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายหลังการเสนอชื่อของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และถูกเสนอชื่อชิงดำกับ “นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผลการโหวตคะแนนเมื่อวาน (5 มิ.ย.) เป็นข้อยุติแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ 500 คะแนน ส่วนคู่ชิงอย่าง นายธนาธร ได้ 244 คะแนน จึงทำให้พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งตามที่พรรคพลังประชารัฐหวังเอาไว้

แต่อย่าลืมว่าหลังจากนี้ พรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็อย่าลืมนโยบายว่าพูดอะไรกับประชาชนไว้บ้างตอนลงพื้นที่หาเสียง เพราะแน่นอนว่าประชาชนที่เลือกนั้น ต่างหวังว่าพรรคพลังประชารัฐจะทำตามสัญญา...

ทั้งนี้ “ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์” ได้รวบรวมนโยบายหลักๆ ที่พรรคพลังประชารัฐได้เผยแพร่เอาไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.สวัสดิการประชารัฐ ที่เน้นไปที่ “บัตรประชารัฐ” เป็นบัตรต่อยอดมาจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เพื่อสร้างหลักประกันทางสังคมให้กับผู้มีรายได้น้อย “สวัสดิการรายกลุ่ม” สวัสดิการของกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มสตรี กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และกลุ่มอาชีพรับจ้าง “สวัสดิการคนเมือง” เป็นกลุ่มของคนเมืองที่มีรายได้น้อย ต้องการแบกรับภาวะค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น “หมดหนี้มีเงินออม” ช่วยลดภาระหนี้ให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ข้าราชการ SMEs ครู และนักศึกษา “โครงการบ้านล้านหลัง” ให้ประชาชนมีบ้านของตัวเอง สานต่อสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินการไว้ “บ้านสุขใจวัยเกษียณ” ต้องการทำให้คนสูงวัย ด้วยโครงการบ้านสุขใจวัยเกษียณ และ “สิทธิที่ดินทำกิน” เป็นโครงการทำเพื่อเกษตร เพื่อความเป็นเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

2.สังคมประชารัฐ ผลักดัน “การศึกษา 4.0” ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน เพื่อเตรียมความพร้อมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ต้องทำให้ทุกคนมีโอกาส มีอนาคต ตั้งแต่เด็ก จนถึงคนทำงาน  “การกระจายศูนย์กลางความเจริญสู่ภูมิภาค” ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำส่วนหนึ่งจาการกระจุกตัวของความเจริญอยู่ที่กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐจึงมีนโยบายการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วบางกลุ่ม “สร้างเมืองน่าอยู่ใกล้บ้านมีงานทำ” ปัจจุบันปัญหาความเหลื่อมล้ำเกิดจากการกระจุกตัวของเมืองเพียงไม่กี่เมือง จึงจำเป็นจะต้องสร้างเมืองให้น่าอยู่ และทำให้เมืองเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพด้วยแนวคิด 30 เมืองน่าอยู่ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ อย่างกรุงเทพฯ “ชุมชนประชารัฐ ร่วมพัฒนาบ้านเกิด (ชุมชนเข้มแข็ง)” เป็นนโยบายสำคัญของพรรค เพื่อให้ทุกคนกลับไปพัฒนาบ้านเกิด โดยจะมีกองทุนพัฒนาชุมชนประชารัฐ จะมีแหล่งน้ำชุมชน โครงการน้ำประปามีค่า และสร้างวิสาหกิจชุมชน “เมืองอัจฉริยะสีเขียว” เพื่อความสุขของทุกคน เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ คนจะต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อม เราจะปรับเป็นเมืองให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อความสุขของทุกคน “สังคมประชารัฐสีขาว” เพื่อสังคมสงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปันได้ ต้องเป็นประชารัฐสีขาว ที่ปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดยา และ Bangkok 5.0 สร้าง 9 ย่านนวัตกรรม พัฒนาย่านการค้า คืนคลองสวยน้ำใสให้คนกรุง สร้างเครือข่ายอนาคตสมบูรณ์ผ่านเทคโนโลยี 5G

3.เศรษฐกิจประชารัฐ แน่น “ยกระดับความสามารถผู้ผลิต” นโยบายสร้าง 5 ล้าน Smart SMEs 1 ล้าน Smart Farmars 1 ล้าน Startups 1ล้าน Makers และ 1 ล้านค้าปลีกชุมชน “การสู่เกษตรประชารัฐ 4.0” ปรับโครงสร้างการเกษตร ด้วยนโยบาย 3 เพิ่ม 3 ลด นั้นคือ เพิ่มรายได้ เพิ่มนวัตกรรม เพิ่มทางเลือก และ ลดภาระหนี้ ลดภาระความเสี่ยง ลดต้นทุน “กระจายรายได้ กระจายโอกาสด้วยการท่องเที่ยวชุมชน” เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ สร้างเส้นทางเชื่อมโยงชุมชนสู่ชุมชน “ชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจแบ่งปัน” นำความคิดสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมของความเกื้อกูลแบ่งปัน “สร้างเศรษฐกิจชีวภาพ อุตสาหกรรมหมุนเวียน นวัตกรรมสีเขียว” มีการเปิดโอกาสให้คนในประเทศแข่งขันในเวทีโลก และตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การแพทย์ สุขภาพ พลังงาน และการท่องเที่ยว “พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต” การปรับเศรษฐกิจจำเป็นต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ เน้นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล โดยเฉพาะ 5 G และ “ลดอุปสรร เพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ” เน้นการปฏิรูประบบราชการ ทำให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง

และ4.นโยบายกรุงเทพฯ ได้แก้ Bangkok ok ทำจริง ทำได้ ทำทันที ให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่กว่านี้  กลายเป็นเมืองสะอาด โดยการขนส่งที่ไร้รอยต่อ เศรษฐกิจติดสปี๊ด เมืองกรุงปอดสะอาด ปลอดภัยใกล้ตัว สร้างสุขคนกรุง เพิ่มรายได้ เพิ่มค่าแรง ลดภาษี และให้โอกาส

ก่อนหน้านี้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดเอาไว้ชัด เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เข้าโค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า  “ประเทศไทยต้องรวยด้วยพลังประชารัฐ และพวกเราจะทำให้เกิดขึ้นจริง โดยขอโอกาสให้เราได้เข้ามาทำงาน ประเทศไทยต้องรวยแน่นอนด้วยพลังประชารัฐ อย่างแรกที่จะรวยที่จำเป็นมากๆ คือ คนไทยต้องรวยด้วยความสงบ รวยความสุข และรวยด้วยความหวัง นี่คือสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐ อาสาตัวมาทำงานให้พี่น้องคนไทย และจะทำให้ประเทศไทยรวยแล้วยั่งยืนด้วย และพร้อมทำทันที ไม่เสียเวลา”

อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้คงต้องจับตากันว่ารัฐบาลชุดนี้ จะทำตามสัญญาหรือไม่ อย่าหลอกให้พี่น้องประชาชนที่เขาเลือกต้องผิดหวังกับนโยบายที่เคยวาดฝันเอาไว้ แต่ที่แน่ๆ หากนโยบายเหล่านี้ไม่เกิดเป็นรูปธรรม สมัยหน้าหากมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคพลังประชารัฐอาจมีเสียวสันหลังกันบ้างแน่ เพราะคู่แข่งจากพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย และอนาคตใหม่ จ่อรออยู่แล้ว...

ข้อมูลและภาพ : พรรคพลังประชารัฐ