มทร.พระนคร - อสม.วิสาหกิจชุมชน - อบต.แก่งเสี้ยน ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการผลิตนวัตกรรมกัญชาทางการแพทย์และการวิจัยพัฒนา “แก่งเสี้ยน ดิสทริก” และกัญชา กาญจนบุรี โมเดล

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2562 ที่ห้องประชุมโรงแรมราชศุภมิตร ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 5 นายสมชาย ฟักทอง นายก อบต.แก่งเสี้ยน ได้ร่วมประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "กัญชาเสรีทางการแพทย์ นวัตกรรมสร้างรายได้ให้คนไทย" นับหนึ่ง..อสม.-วิสาหกิจชุมชน "แก่งเสี้ยน ดิสทริก-กาญจนบุรี โมเดล" สู่..อสม.ทั่วไทย

โดยมี ดร.ไพศาล การถาง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เครือข่ายพัฒนาชีวิตครูแห่งประเทศไทย และองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมืองกาญจนบุรี มี อสม.อำเภอเมืองกาญจนบุรี อสม.อำเภอด่านมะขามเตี้ย ผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 500 คนคน

สำหรับกิจกรรมการให้ความรู้ในช่วงเช้า ได้มีการบรรยายพิเศษ หัวข้อ : การสร้างพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์เพื่อผลิตกัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทย และโครงการ "ปักหมุด...เขตนวัตกรรมกัญชาทางการแพทย์และวิจัยพัฒนา "แก่งเสี้ยน กาญจนบุรี โมเดล" โดย ดร.ไพศาล การถาง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

บรรยายสรุป หัวข้อ "ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปลูกกัญชาภายใต้กฏหมายไทย โดย นายพล สุภาพร การบรรยายสรุปหัวข้อ "โรงเรือนปลูกกัญชาทางการแพทย์ที่เป็นมาตรฐานสากล โดย คุณพัฒนันท์ ผ่องอำไพ

ส่วนภาคบ่ายเวลา 14.30 น.ได้มีการร่วมลงนาม MOU ระหว่างคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กับ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเวชศาสตร์สมุนไพรพัฒนาชีวิตครู ลงนาม MOU กับกลุ่มวิสาหกิจเกษตรวิธีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ในเขตอำเภอเมือง 24 กลุ่ม MOU กับวิสาหกิจเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ในเขตอำเภอด่านมะขามเตี้ย และ MOU กับองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน

โดยการลงนาม MOU ในครั้งนี้เป็นการตกลงที่จะร่วมมือดำเนินโครงการซึ่งมีรูปแบบเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นเกษตรปลอดภัยเกษตรอินทรีย์ เกษตรชีวภาพ เกษตรอิเล็กทรอนิกส์และจัดทำแพลตฟอร์ออนไลน์สนับสนุนในรูปแบบ แก่งเสี้ยน โมเดล เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ เกิดรายได้ให้สร้างงานสร้างอาชีพ

ทั้งนี้ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ในฐานะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล การที่จะผลักดันนโยบายกัญชา เรื่องนี้จะต้องยึดถือนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้กำหนดเป็นระยะนโยบายออกมาแล้ว ในเรื่องของการศึกษาการวิจัยในเรื่องของพืชสมุนไพรกัญชา ในขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มีนโยบายรวมไปถึงบรรดาสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุข เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการให้ครบวงจรโดยเริ่มตั้งแต่การศึกษาวิจัยหรือว่าการพัฒนาในเรื่องของความต้องการและก็ปริมาณของยา ที่จะใช้ต่อผู้ป่วยในโรคต่างๆที่ถูกกำหนดมาจนกระทั่งในท้ายที่สุดก็จะลงมาถึงจำนวนของปริมาณกัญชาที่จะปลูกได้โดยเพื่อนกลุ่ม อสม.ต่างๆ

ส่วนกรณีที่พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีเพียงโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ อ.พนมทวน แห่งเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถในการผลิตสมุนไพร ถามว่าจะสามารถขยายไปที่โรงพยาบาลอื่นได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็คงจะต้องยืนอยู่กับพื้นฐานของโรงพยาบาล ที่มีอุปกรณ์หรือว่าเครื่องไม้เครื่องมือในการที่จะทำยา ในเรื่องของแพทย์แผนไทยหรือว่าแพทย์ทางเลือกต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันในเขตจังหวัดกาญจนบุรีก็จะมีที่โรงพยาบาลท่านเจ้าคุณไพบูลย์ เพียงแห่งเดียว

สำหรับการเซ็นต์ MOU ระหว่าง มทร.พระนคร กับกลุ่มต่างๆในวันนี้นั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว โดยที่เราเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทางคือบรรดาสถาบันการศึกษาที่ได้รับเรื่องของการศึกษาวิจัยมาจากทางกระทรวง และต่อเนื่องมาจนกระทั่งลงมาถึงผู้ที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการปลูกกัญชาได้ ก็คือบรรดาพี่น้อง อสม.หรือว่าองค์กรวิสาหกิจชุมชน ที่ไปทำความตกลงหรือว่าทำความเข้าใจกับสถาบันที่ได้มีแนวทางในการศึกษาวิจัยให้ครบวงจร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะต้องมุ่งเน้นในเรื่องของกัญชาเพื่อการแพทย์เป็นหลัก โดยที่จะต้องยึดถือตามคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าผิดไปจากนี้แล้วก็จะถือว่าเป็นความล้มเหลวหรือว่าไม่ได้มาตรฐาน ก็จะไม่ตรงกับประเด็นของการทำกัญชาเพื่อการแพทย์

ด้าน ดร.ไพศาล การถาง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กล่าวว่าวันนี้จะเป็นเฟสที่ 2 หลังจากที่เมื่อเมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องกัญชา ซึ่งแน่นอนวันนี้เป็นการคลิ๊กสตาร์ทจริงๆ เป็นการเริ่มต้นและปักหมุดอย่างจริงจัง

สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับกัญชาครั้งที่แล้ว เราได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการปลูกกัญชาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอสรุปสั้นๆว่าจริงๆแล้วการดำเนินการมันจะสมบูรณ์ได้อยู่บนพื้นฐาน 3 เสาหลัก ซึ่งทั้งสามสาวหลักอยู่บนบทกฎหมายทั้งหมด

ซึ่งเสาหลักแรกคือจะต้องมีวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มที่เป็นสหกรณ์ ที่จะต้องจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินงานเกี่ยวกับกัญชา เสาหลักที่สอง แน่นอนก็คือจะต้องมีมหาวิทยาลัยตัวอย่าง เช่น อาจจะมีมหาวิทยาลัยของรัฐที่เป็นไปตามข้อกฎหมายคือมีคณะแพทย์ที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับทางด้านวิจัยและพัฒนา มีการดำเนินการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ส่วนเสาหลักที่ 3 นี้สำคัญมากๆ ก็คือโรงพยาบาล และแน่นอนเมื่อมีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการดำเนินการเกี่ยวกับการสกัดกลั่นได้ ประเทศไทยมีอยู่ที่ประมาณ 37 โรงพยาบาล แต่ว่าโรงพยาบาลที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ที่เหลืออีก 36 โรงพยาบาล หนึ่งในนั้นอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ก็คือโรงพยาบาลท่านเจ้าคุณไพบูลย์ อำเภอพนมทวน

สำหรับการเริ่มต้นเป้าหมายที่สำคัญก็คือ ต้องการที่จะดำเนินการเพื่อให้เข้าสู่กลไกเริ่มต้นเรื่องการปลูกกัญชาก่อน การปลูกไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆแล้วเราจะไปปลูกเลยไม่ได้ ซึ่งมันจะต้องมีการไปกำกับมีการไปดำเนินการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาร่วมด้วย โดยเฉพาะจะต้องมีการดำเนินการร่วมกับทางมหาวิทยาลัย

วันนี้จึงเป็นการจับมือกันระหว่างภาคมหาวิทยาลัยก็คือโดยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จับมือกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต่อไปหลังจากนี้ทางทีมงานของคณะวิทยาศาสตร์ จะได้ดำเนินการไปร่วมมือกับทางโรงพยาบาลที่จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการสกัดกลั่นต่อไป

ถามว่าทำไมถึงเลือกคิกออฟที่จังหวัดกาญจนบุรี ตอบได้เลยว่าต้องเป็นจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้นเพราะโดยพื้นฐานของจังหวัดกาญจนบุรีเอง เป็นเมืองเกษตรอุตสาหกรรมและยิ่งไปกว่านั้นจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะบริเวณตำบลแก่งเสี้ยน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมากด้วย บริบทเหล่านี้คงหนีไม่พ้นแล้ว ซึ่งวันนี้เป็นที่เข้าใจกันว่าตัวกัญชาถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจหนึ่งที่มีศักยภาพที่สูงมาก ดังนั้นถึงใช้บริบทเดิมที่มีอยู่โดยการปรับมาดำเนินการเกี่ยวกับการปลูกกัญชาและการดำเนินการเกี่ยวกับการแปรรูปหรือแม้กระทั่งอาจจะไปถึงการกลั่นสกัดให้ได้สารสกัด

การเพิ่ม GDP ของท้องถิ่น ทำไมต้องพูดถึง GDP ท้องถิ่นก็เพราะวันนี้ GDP ท้องถิ่นถ้าดีประเทศก็ดีและดีอย่างยั่งยืน ดังนั้นการที่จะทำให้ GDP ยั่งยืนได้ต้องทำให้ GDP ท้องถิ่นยั่งยืนก่อน นี่คือโจทย์แรกของที่นี่ซึ่งเป็นโจทย์ที่มีศักยภาพมาก

สำหรับคนที่นี่มีการตื่นตัวมาก เรามีความรู้สึกยินดีมากๆที่คนที่นี่พร้อมที่จะรับ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดพร้อมที่จะรับความรู้และพร้อมที่จะรับเอาความรู้ไปปรับใช้ ซึ่งผมมองมีความคาดหวังลึกๆว่า ความสำเร็จจะเกิดได้แน่ เพราะฉะนั้นความสำเร็จมันจะเกิดขึ้นได้จากการที่คนพร้อมและที่สำคัญผู้หลักผู้ใหญ่ก็พร้อมโดยเฉพาะท่านพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ซึ่งท่านก็ได้ให้แนวคิดที่ดีๆหลายๆอย่างและท่านมีวิสัยทัศน์ที่จะขับเคลื่อนเมืองกาญให้ไปสู่จุดที่เป็นมาตรฐานของสมุนไพรของโลกให้ได้

ด้านนายสมชาย ฟักทอง นายก อบต.แก่งเสี้ยน กล่าวในฐานะเจ้าของพื้นที่โครงการแก่งเสี้ยนกาญจนบุรี โมเดล ว่า สำหรับเรื่องการเตรียมพื้นที่เราได้ใช้สถานที่โรงเรียนที่ถูกยุบจากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทาง อบต.ก็ได้ทำเรื่องขอใช้พื้นที่กับราชพัสดุไปแล้วก็คือพื้นที่โรงเรียนบ้านหนองปลวก มีเนื้อที่อยู่ประมาณ 15 ไร่

ถามว่าหากโครงการประสบความสำเร็จชาวบ้านในพื้นที่จะได้รับประโยชน์อะไรบ้างนั้น เรื่องนี้คือเป้าหลักของตำบลแก่งเสี้ยน เพราะถ้าโครงการกัญชาประสบความสำเร็จ ตามนโยบายของรัฐบาล ตนคิดว่าผลประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับมีเป็นอย่างมาก เช่น เรื่องของการศึกษาดูงาน ซึ่งคาดว่าจะมีทัวร์จากต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย เข้ามาศึกษาดูงานในพื้นที่ตำบลแก่งเสี้ยนเป็นจำนวนมาก สิ่งที่ชาวบ้านจะได้รับโดยตรงก็คือพี่น้องประชาชนที่อยู่ในรอบบริเวณนั้น จะได้มีการค้าขายที่ดีขึ้น และเชื่อว่าโครงการนี้น่าจะดีที่สุดของตำบลแก่งเสี้ยน