เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศาลาหยุดรถประจำทาง บริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย หมู่ 9 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเลน ว่าพบชายนอนพักอาศัยอยู่ที่ศาลาดังกล่าวมานานหลายวันแล้ว ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่าเป็นอดีตข้าราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงเดินทางร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว
จากการสอบถามและพูดคุยกับชายคนดังกล่าวจนทราบว่าชื่อ ด.ต.วิชัย ทองสุวรรณ อายุ 58 ปีชาว จ.พิจิตร อดีตเคยรับราชการตำรวจประจำอยู่ สภ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบันลาออกจากราชการแล้ว
ด.ต.วิชัย กล่าวว่า ตนเองได้ลาออกจากราชการเมื่อปลายปี พ.ศ.2558 หลังจากนั้นได้เลิกลากับภรรยา ซึ่งมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คนแต่ 1 ใน 3 ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุที่ออกจากราชการนั้นเกิดรู้สึกเบื่อกับอาชีพตำรวจ ซึ่งรับราชการตำรวจมานานถึง 32 ปี จึงตัดสินใจลาออกและใช้ชีวิตอยู่เพียงคนเดียว โดยบุตรที่เหลืออีก 2 คนนั้นไปอยู่กับทางภรรยาและตั้งแต่เลิกลากันก็ไม่เคยเห็นหน้าและพูดคุยกับลูกอีกเลย
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.62 ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจออกจากบ้านจาก จ.พิจิตร ขึ้นรถไฟมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯและเร่ร่อนใช้ชีวิตไปวันๆค่ำไหนนอนนั่น จุดประสงค์แค่อยากเดินทางไปไหนเรื่อยๆไม่มีจุดหมายปลายทาง โดยมีเงินติดตัวออกจากบ้านมาประมาณพันกว่าบาท แต่จะเข้าไปถอนเงินจากธนาคารช่วงสิ้นเดือน โดยเป็นเงินบำนาญของทางราชการตำรวจ ซึ่งก่อนหน้าได้เดินทางไปมาหลายที่แล้ว
ล่าสุดได้มาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาหยุดรถประจำทางตรงนี้ได้ประมาณ 10 วัน เนื่องจากไม่มีเงินที่จะเดินทางต่อ จะต้องรอเงินบำนาญออกอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือน จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามและพูดคุยด้วย
ทางด้าน น.ส.อัญชลี นาคคำ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ท.ต.บางเลน กล่าวว่าทางเทศบาลบางเลนได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีชายคนหนึ่งมาหลับนอนอยู่ที่ศาลาหยุดรถประจำทางหลายวันแล้ว จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ซึ่งหลังจากได้มีการพูดคุยกัน จึงได้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือ ด.ต.วิชัย ทองสุวรรณ อดีตเคยรับราชการตำรวจยศดาบตำรวจ ในตำแหน่ง ผบ.หมู่(สส.) หรือฝ่ายสืบสวนประจำ สภ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด
โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเป็นห่วงการเป็นอยู่ที่หลับนอนจึงอยากให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย และสอบถามถึงความต้องการโดยพูดคุยกันอยู่สักพัก
ด.ต.วิชัย พูดออกมาว่า ตอนนี้อยากเจอลูกชายมาก พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านที่จ.พิจิตร เอง จากนั้นทางเทศบาลจึงได้ตรวจสอบและหาข้อมูลจนสามารถติดต่อบุตรชายได้สำเร็จ โดยให้พ่อกับลูกได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งเห็นความดีใจและน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของ ด.ต.วิชัย อย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลจึงได้มอบเงินค่าเดินทางพร้อมทั้งไปส่งขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับ จ.พิจิตร ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี