พระวัชชีบุตร ท่านเป็นบุตรแห่งชาววัชชี สกุลนั้นมีลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ บวชแล้วไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ที่ป่าช้า ท่ายเคยมีเพื่อนฝูงที่เป็นชาววัชชีมากมายในคราวที่ท่านเป็นฆราวาส คืนนั้นท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ในป่าช้าคนเดียว คืนวันนั้นมีงานนักษัตร ประชาชนและหนุ่มสาวชาววัชชี พากันเดินมาที่ข้างป่าช้าที่ท่านพักอยู่ เขาส่งเสียงเอ็ดตะโรได้ยินไปถึงในป่าช้า
ขณะนั้นท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ จึงเกิดความวิตกและน้อยใจว่า โลกเขามีความสุขรื่นเริงกัน แต่เรามาอยู่ในป่าช้าซึ่งมีแต่ผีตายทั้งนั้น จึงป็นผู้ที่ไร้ค่าหาราคามิได้ เราอยู่ในป่าช้าคนเดียวราวกับผีดิบอยู่กับผีที่ตายแล้ว เรามาอยู่กับคนที่ตายแล้วทั้งนั้น โลกเขามีความสุขรื่นเริงกัน แต่เรามาอยู่กับคนตาย หาความสุขความรื่นเริงมิได้ ราวกับคนตายทั้งเป็นในป่าช้า ซึ่งเป็นสถานที่อยู่ของคนที่หมดความหมายแล้วทั้งนั้น เราเป็นคนหาค่าราคามิได้”ท่านตำหนิตนเองด้วยความโศกเศร้าเหงาหงอยและน้อยใจในขณะนั้น
ขณะที่ถูกกิเลส คือ ความน้อยเนื้อต่ำใจครอบงำอยู่ ก็ปรากฏเสียงเทวดาที่ชาติปางก่อนเคยเป็นสหายกันมาประกาศเตือนท่านอยู่บนอากาศว่า”เราไม่เห็นบุคคลใดซึ่งมีคุณค่ามากยิ่งกว่าท่านที่กำลังบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในป่าช้าเวลานี้เลย พวกเหล่านั้นเขาส่งเสียงเป็นท่ารื่นเริงบันเทิงไปตามความโง่เขลาเบาปัญญา เพราะกิเลสครอบงำเขาต่างหาก เขาไม่ได้ไปด้วยอรรถด้วยธรรม ด้วยความรู้ความฉลาด ที่จะยังตนให้พ้นจากทุกข์เหมือนท่าน ซีงกำลังจะเป็นปราชญ์อยู่แล้วด้วยการสิ้นกิเลส เพราะความพากเพียรตามธรรมของพระพุทธเจ้า
ขอท่านจงภาคภูมิใจในความเป็นอยู่และความพากเพียรของท่านเถิด เราอนุโมทนากับท่านเป็นอย่างยิ่งที่เป็นมนุษย์ฉลาด สามารถปลีกตนออกจากโลกอันเต็มไปด้วยความเกลื่อนกล่นวุ่นวาย มาบำเพ็ญสมณธรรม เพื่อเอาตัวรอดเป็นยอดคน พ้นทุกข์ไปแต่ผู้เดียว
การสั่งสมวัฏฏะ ความหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับเรื่องความเกิด ความตาย ซำๆซากๆไม่มีวันเลิกแล้วนั้น เป็นทางเดินของคนโง่ ซึ่งหาทางเดินไปกันไม่ได้ต่างหาก ซึ่งไม่ใช่ทางประเสริฐเลิศเลออะไรเลย ส่วนท่านกำลังดำเนินตามเส้นทางของท่านผู้เห็นภัยในความทุกข์ ทำไมท่านจึงไปชมเชยผู้กำลังหลงอยู่ในความทุกข์อย่างนั้นเล่า”
การทำความเพียรเพื่อสมณธรรมให้จิตใจได้รับความสงบ เห็นโทษเห็นภัยในความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นความชอบธรรมแล้ว ที่ท่านกำลังดำเนินอยู่เวลานี้ จะมีใครเล่าเป็นผู้มีจิตใจสูงส่ง เสาะแสวงหาความหลุดพ้นอย่างท่านนี้ ท่านควรจะยินดีในการบำเพ็ญของท่าน เพราะทำให้ท่านเป็นผู้มีคุณค่ามากในการที่ท่านบำเพ็ญอยู่เช่นนี้”
พระวัชชีบุตรกลับได้สติทันที เมื่อถูกเทวดาเตือนเช่นนั้น แล้วบำเพ็ญธรรมต่อไปด้วยคามห้าวหาญตลอดคืน ปรากฏว่าท่านได้บรรลุถึงที่สุดแห่งธรรมในคืนวันนั้น
นี่ก็แสดงว่า จิตของท่านเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรื่องท่านเป็นอย่างนี้เอง ที่กิเลสมันมากระซิบหลอกท่านว่า การทำอย่างนั้นดี การทำอย่างนี้ไม่ดี แต่ฝ่ายธรรมที่เป็นวาสนาบารมีของท่าน หากช่วยบันดาลให้มีเทวดามาเตือนสติให้รู้สึกตัว กลับบำเพ็ญเพียรอย่างกล้าหาญ จนได้บรรลุธรรมในคืนนั้น
..............
คัดลอกจากหนังสือ "เทวดา" หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี