เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า กลไกการหายใจของคนเราไม่ได้เริ่มจากอก แต่เริ่มจากสมอง ที่เป็นดั่งศูนย์บัญชาการใหญ่สั่งลงไปให้หายใจแบบอัตโนมัติ จัดให้มีการสูดลมหายใจเข้าปอดเติมออกซิเจนไปให้ ลดความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเองแบบไม่ต้องร้องขอ ดังนั้น จะแกล้งกลั้นหายใจเองให้ตายแบบในละครไม่ได้ เว้นไว้เสียแต่ว่าจะถูกทำให้หยุดหายใจด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม
"ความน่าห่วงอยู่ตรงนี้ที่มีกิจกรรมบางเรื่องทำให้เกิดเรื่องขึ้นได้อาจโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ดังเช่นการดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินยานอนหลับ สำหรับหลายคนอาจไม่ตาย เพราะบอกว่าก็ทำอยู่หลายครั้งตลอดชีวิตไม่เห็นเป็นไร อย่าลืมว่าปัจจัยเสี่ยงแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าดื่มหนักๆ หรือถูกกรอกเหล้าเข้าปากมากจนแอลกอฮอล์เกินขนาดก็อาจตายได้ หรือบางคนตั้งใจกินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตาย หนักหน่อยก็กินยานอนหลับหรือสารกดประสาทพร้อมดื่มแอลกอฮอล์ตาม" นพ.กฤษดา กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาที่พบบ่อยคือ การใช้สารกดประสาทร่วมกันและเกินขนาด ทำให้ส่วนของสมองที่คุมการปั๊มหายใจถูกกด หรือดังมีรายงานการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟีนร่วมกับยานอนหลับ (benzodiazepines) ความตายและหายนะนานัปการจะบังเกิดเมื่อศูนย์หายใจในสมองถูกกดจนทำให้สั่งงานไม่ได้ ดังมีสัญญาณอันตรายของภาวะกดทางเดินหายใจ ดังต่อไปนี้ คือ มึนงง-สับสน , เพลียหมดแรง , คลื่นไส้-อาเจียน , มีเสียงเฮือกหรือถอนหายใจ , ซีดหรือเห็นสีม่วงที่ริมฝีปาก-นิ้วมือหรือนิ้วเท้า , หายใจตื้น , หายใจช้าลง , หยุดหายใจ ภาวะหายใจล้มเหลว จะเห็นว่าป้ายสุดท้ายคือลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่หยุดนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ มันจะค่อยๆ หายใจเบาลง ช้าลงจนถ้าไม่ใส่ใจก็จะกลายเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายไปได้ หรือถ้ารอดก็สมองตายเข้าข่ายโคม่า
ดังนั้น สิ่งที่พึงระวังคือการใช้สารต่อไปนี้ที่มีสิทธิเสี่ยงทำให้หยุดหายใจที่ควรรู้ไว้ 6 ข้อคือ 1) ยานอนหลับ-ยาระงับอาการวิตกกังวล เช่น ยากลุ่มเบนโซไดอะเซพีนส์ หรือยากลุ่มบาร์บิทูเรตส์ (Barbiturates) ที่ใช้คลายกังวล (sedative hypnotic) หรือใช้เป็นยากันชักแต่มีผลข้างเคียงได้ 2) ยาที่ใช้ทางวิสัญญีวิทยา 3) ยากันชัก อย่างฟีโนบาร์บิทัล 4) เอทานอล หรืออัลกอฮอล์ก็คือเมรัยในแก้วดื่มทั้งหลายนี่เอง ที่หายนะจะยิ่งบังเกิดถ้าเอามาผสมกับยานอนหลับหรือยาที่มีฤทธิ์ให้หลับอื่นๆเช่นผสมกับยากลุ่มบาร์บิทูเรตหรือคลอรัลไฮเดรต (Chloral hydrate) 5) ยาแก้ปวด ฝิ่น , อนุพันธ์ฝิ่น , มอร์ฟีน , ทรามาดอล , เฟนตานิล , เฮโรอีน 6) สารเสพติด เช่น ยาบ้า , โคเคน , ยาเสียสาว (Gamma Hydroxy Butyrate,GHB)
อย่างไรก็ดี ยาทั้งหลายที่ว่ามานี้ถ้าเป็นไปเพื่อการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างยาสลบ ก็อยู่ใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว สิ่งสำคัญคืออย่าพาตัวเข้าไปเสี่ยงกับการดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ เพราะมันจะนำไปสู่ความเสี่ยงจากการใช้สารอื่นที่ทำให้เสี่ยงหยุดหายใจได้โดยไม่รู้ตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี