ภูเขาขาม เป็นเทือกเขาไม่สูงมากนัก ตั้งอยู่บ้านดงเจริญ ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ซึ่งมีต้นมะขามขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กลางหน้าผาด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ใกล้กันยังมีถ้ำ ซึ่งคนโบราณเล่าว่าเป็นที่อยู่ของฤาษีเมื่อนานมาแล้ว และภูเขาขามมีพื้นที่ลาดเอียงไปทางทิศตะวันออก มีถ้ำเกิดจากเพิงหินหลานแห่ง ในจำนวนนี้ มีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำพระใหญ่(ถ้ำแสงเพชร)และถ้ำพระน้อย (ถ้ำโคนอน) ซึ่งถ้ำพระใหญ่มีความลึกและยาวมากจนทะลุภูเขาไปอีกด้านหนึ่ง เข้าใจกันว่าจะไปทะลุออกทางด้านถ้ำขาม เป็นที่อาศัยของฤษี
ถ้ำพระใหญ่ หรือ ถ้ำแสงเพชร ในสมัยก่อนปากถ้ำกว้างเพียง 1 เมตรเท่านั้น มีพระพุทธรูปและเบญจวัคคีตั้ง ที่ชำรุดตั้งอยู่ มองดูแล้วไม่ถูกพุทธลักษณะ แม้จะปั้นด้วยปูนก็ตาม เข้าใจว่า ผู้ปั้นยังไม่ชำนาญ แต่คงปั้นด้วยแรงศรัทธา ต่อมาผู้มีจิตศรัทธา ได้บริจาคทุนซ่อมสร้างขึ้นมาใหม่ ทั้งพระประธานและเบญจวัคคี
เหตุผลที่ชาวบ้านเรียกถ้ำพระใหญ่เป็นถ้ำแสงเพชร ก็เพราะว่ามีเรื่องเล่ากันว่าในอดีตมีกษัตริย์ขอมและพระมเหสี หนีจากการรุกรานจากประเทศลาวมาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ โดยนำเอาแก้วแหวนเงินทองจำนวนมากมาด้วย แต่ไม่นานก็สิ้นพระชนม์เพราะไข้ป่า ชาวบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปเอาทรัพย์สิน เพราะมีสิ่งลี้ลับคอยเฝ้ารักษา เคยมีพระธุดงค์เข้าไปนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาแล้วเกิดความโลภอยากได้สมบัติ ปรากฏว่า เหมือนมีคนมาเขย่าถ้ำ คล้ายจะพังลงมา ทำให้ต้องเผ่นหนีกันเตลิด
จากถ้ำพระใหญ่ไปอีก 50 เมตรจะพบถ้ำที่พำนักของฤษีในอดีต ซึ่งปัจจุบันพบเพียงรูปปั้นนั่งอยู่ภายในถ้ำที่มีความลึก 20 เมตร ถัดไปก็จะเป็นถ้ำงู ที่มีความลึกมาก มีร่องรอยของซากงูมีให้ดูมากมาย ผ่านไปอีก 200 เมตร ก็จะเป็นถ้ำค้างคาว ปากถ้ำกว้าง 60 เมตร อบอวนไปด้วยกลิ่นมูลค้างคาว หากใช้ไฟส่องดู ก็จะพบกับค้างคาวเกาะบนผนังเพดานถ้ำเต็มไปหมด
หากเดินรัดเลาะผ่านต้นไม้ที่เขียวขจี มีเถาวัลย์พันเต็มไปหมดตลอดทาง 700 เมตร ก็จะพบถ้ำพระน้อย หรือถ้ำโคนอน โดยมีรูปปั้นโคนอนอยู่ปากถ้ำ ชาวบ้านเล่าว่า สมัยก่อนเป็นที่พักของโคป่าจำนวนมากจึงได้ร่วมกันปั้นรูปโคไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์
ถ้ำโคนอนอยู่ล่างสุดจากยอดภูเขาขามลงมา ถ้าต้องการชมทัศนียภาพบนภูเขาขามและกราบนมัสการหุ่นขี้ผึ้ง หลวงพ่อชา (พระโพธิญาณเถระ) ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายใน เจดีย์ศรีโพธิญาณ และชมมหาวิหาร (ศาลาพันห้อง) โดยรถยนต์ก็จะมีทางลาดยางขึ้นไปอย่างสะดวก 2 กิโลเมตร บนยอดเขา จะพบเจดีย์ ซึ่งสร้างตามแบบเจดีย์หนองแค จ.สระบุรี มีรูปทรงคล้ายกับเจดีย์ที่นครปฐมบางส่วน ฐานวัดโดยรอบได้ 26 เมตร สูง 26 เมตร มีซุ้มประตู 4 ด้าน ภายในบรรจุหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อชานั่งอยู่ และมีภาพวัดกิจวัตรของหลวงพ่อชาขณะมีชีวิตอยู่บนฝาผนังอย่างสวยงาม
ต่อมาก็จะพบเห็นพระพุทธไสยาสน์ ทอดยาวขนานกับมหาวิหารบนลานหินที่สวยงาม มีความยาว 19 เมตร บุด้วยกระเบื้องโมเสกสีขาวทั้งองค์ มีพระนามว่า พระพุทธโพธิญาณภัทรมหาราช ใกล้กันก็จะเป็นมหาวิหาร หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ศาลาพันห้อง ตั้งอยู่บนเนินหิน กว้าง 28 เมตร ยาว 60 เมตร เนื้อที่ 1,780 ตารางวา เสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาบุกระเบื้อง พื้นที่ชั้นล่างเป็นแท้งก์เก็บน้ำฝน ไว้ใช้ในฤดูแล้งอย่างเพียงพอ
สำหรับ มหาวิหาร ใช้เวลาก่อสร้างนาน 1 ปี 8 เดือน 12 วัน และสำเร็จลุล่วงเรียบร้อย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2515 โดยมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาร่วมงานจำนวนมาก จึงถือเอาวันดังกล่าวจัดงานประจำปีทุกปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี