"...ถ้าประชาชนไม่มีที่พึ่ง ไม่มีผู้ใดเอาใจใส่ พอพึ่งทางราชการไม่ได้ ก็ต้องหันไปพึ่งผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพลจึงเป็นหน้าที่ของทางราชการที่จะปฏิบัติงาน เพื่อให้การบริการของ ราชการได้เข้าถึงประชาชน โดยทั่วถึงและทำด้วยความสุจริต..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท เนื่องในโอกาสพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ 31 กรกฎาคม 2513
"...ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คน ทุกคนเป็นดีได้ทั้งหมด การทำให้ บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หาก แต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดงานชุมชุมลูกเสือแห่งชาติ จังหวัดชลบุรี ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ วันที่ 11 ธันวาคม 2512
"...รัฐบาลนั้น เป็นสถาบันหนึ่งในสถาบันสำคัญของประเทศ จึงต้องปฏิบัติหน้าที่โดยถือว่าชาติ บ้านเมืองเป็นหมายสำคัญ และความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นสิ่งที่ปรารถนา ด้วย การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ตั้งใจจริง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และขยันหมั่นเพียร..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีที่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ 14 สิงหาคม 2529
"...ชาติบ้านเมือง จะเจริญก้าวหน้าอาณาประชาราษฎร์ จะได้รับความผาสุกเพียงไรหรือไม่ย่อมอาศัย การที่ท่านทั้งหลายจะสมัครสมาน สามัคคีกัน ปฏิบัติหน้าที่โดนสุจริต หวังประโยชน์ส่วนรวม เป็นที่ตั้ง และส่งเสริมประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันที่ 14 มีนาคม 2500
"...สมาชิกทั้งหลาย ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ ปวงชนชาวไทย มีส่วนสำคัญในการปกครอง ประเทศชาติ จึงขอให้พิจารณาดำเนินงาน ด้วยความละเอียดรอบคอบ และขอให้ปฏิบัติตรงตาม ปรารถนา ของ ประชาชน เป็นส่วนรวมอย่างแท้จริง..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันที่ 24 มิถุนายน 2501
"...ขอให้ทุกฝ่ายจงสมัครสมาน กลมเกลียวกันบำเพ็ญ กรณียกิจเพื่อความเจริญ รุ่งเรืองวัฒนาถาวรของ ประเทศชาติและเพื่อ ความสมบูรณ์พูนสุข ได้บังเกิดแก่อาณาประชา ราษฎร์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2502
"...รัฐบาล เป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติงานสำคัญ สำหรับความ อยู่เย็นเป็นสุขของชาติบ้านเมือง จึงต้องบริหารให้ดีให้สอดคล้องกัน ถ้าผู้ที่ บริหารประเทศปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ด้วย ความอดทนก็นำส่วนรวม ไปสู่ทางที่ดีได้..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรี เฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2523
"...ท่านผู้ใหญ่ไปตรวจราชการที่ไหนถ้าไปถึงไม่ มีใครเลี้ยงก็โกรธ แต่ถ้าไปถึงแล้วเลี้ยงก็พอใจแต่ ว่าเงินที่เลี้ยงน่ะเอามาจากไหน เมื่อไม่ มีเงินรับรอง ของส่วนภูมิภาคก็ต้องไปเรี่ยไร กัน ไปเรี่ยไรจากข้าราชการชั้น ผู้น้อย หรือ ไม่อย่างนั้นก็ไปขูดรีดจาก พ่อค้า แล้วพ่อค้าก็ต้องถือว่า เป็นการลงทุน มันก็กลายเป็นคอรัปชั่นไป..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ 24 กันยายน 2512
"...ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จ ลุล่วงด้วยความรู้ความสามารถด้วยความจริงใจ พร้อมใจ และความเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ผลการปฏิบัติของแต่ละคน แต่ละฝ่าย จักได้ ประกอบ และส่งเสริมกัน เป็นความมั่นคงวัฒนา ของประเทศชาติ..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2538
"...การแก้ปัญหานั้น ถ้าไม่ทำให้ถูกเหตุถูก ทาง ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง มักจะกลาย เป็นการเพิ่มปัญหาให้มากและยุ่งยากขึ้น แต่ละฝ่ายจึงควรจะตั้งใจ พยายามทำ ความคิดความเห็นให้กระจ่างและ เที่ยงตรงเพื่อ จักได้สามารถเข้าใจปัญหา และเข้าใจกัน และกันอย่าง ถูกต้อง..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2533
"...ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียว ไม่ได้ก็ช่วยกันคิดกัน แก้หลายๆ คน หลายๆ ทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น นั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบ่อนทำลาย ความเจริญและความสำเร็จ..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 13 กรกฎาคม 2533
"...การที่จะให้งานประสานกัน เพื่อช่วยให้ งานของทุกฝ่าย ดำเนินก้าวหน้า ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วนั้น ทุกฝ่ายจะต้อง ไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ ไม่แย่ง ความชอบ กัน แต่ละฝ่ายแต่ละ คนต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งหวัง ผลสำเร็จในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่า สิ่งอื่น..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เชียงใหม่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2522
"...ประโยชน์หรือการสร้างสรรค์ในทางที่ดีนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ ด้วยการลงมือทำ หมายความว่าจะต้อง นำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นั้น มาใช้งาน ลงมือใช้เมื่อไหร่ เพียงใดประโยชน์ ก็เกิด เมื่อนั้น เพียงนั้น เมื่อ ยังไม่ลงมือ ทำประโยชน์ก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจะมีความรู้ ความสามารถมากมายเพียงใด ถ้าไม่นำใช้ก็ ปราศจากประโยชน์..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 25 กรกฎาคม 2524
"...การรู้จักรับผิด คือ การยอมรับว่าสิ่งที่ ตนทำมีข้อใด ส่วนใดผิดพลาดเสียหายและเสียหายเพราะ เหตุใดข้อนี้มีประโยชน์ ทำให้ รู้จักพิจารณาการกระทำของตน พร้อมทั้งข้อ บกพร่องขอตนอย่างจริงจัง เป็นทางที่จะช่วยให้คิดหาวิธีปฏิบัติแก้ไข การกระทำและ ความผิดพลาด ต่างๆ ให้ถูกต้องสมบูรณ์ได้..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปี 2528
"...ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำ ของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคน แบ่ง หน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติตามความถนัด และสามารถ ไม่มีผู้ ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติ ได้โดยลำพังตนเอง..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ หอประชุม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2513
"...ทุกคนต้องร่วมมือกัน ทุกคนต้องทำหน้าที่ ของตนเองด้วยความตั้งใจสุดกำลังเพื่อที่จะ ให้บ้านเมือง อยู่ได้ การที่ทุกคนทำงานในหน้าที่ ของตน และระลึกว่างานของตนเป็นส่วนหนึ่ง ของส่วนรวม จะเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองได้..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ณ ภูพิงคราชนิเวศน์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2513
"...ผู้ที่สามารถจะทำงานให้ชาตินั้น จำเป็น จะต้องมีใจตั้งมั่นใน การงาน มีความอดทนเสียสละ ซื้อสัตย์ สุจริต และสำคัญกว่าอื่นจะต้องมี ความคิดความเข้าใจที่กระจ่าง แน่นอน และเที่ยงตรงตามเหตุผลและความเป็นจริง..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 24 มกราคม 2522
"...มีคนบอกว่า โครงการพระราชดำริแตะต้องไม่ได้ ข้อนี้เป็นความคิดที่ผิดหรือเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนักเพราะหากโครงการพระราชดำริแตะต้องไม่ได้ เมืองไทยไม่เจริญ..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย วันที่ 4 ธันวาคม 2536
"...ผู้ที่มีจิตสำนึกในคุณธรรม สามารถหักห้ามความคิด ที่ไม่ถูก ต้อง สามารถยับยั้งคำพูดที่ไม่ถูกต้องสมควร แลหะสามารถควบคุมตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติ แต่ในทางที่ดีได้จึงได้รับ การยกย่องนับถือว่าเป็น บัณฑิตอย่างแท้จริง..." ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 13 กรกฎาคม 2537
"...ความเมตตาปรองดอง และความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน นั้น ยังมีอยู่ในจิตใจคนไทย ถ้าเราทั้งหลาย พยายามนึกถึงประโยชน์ และ ความสุข ความเจริญของส่วนรวมให้ มาก พยายามหัน หน้าเข้าหากัน และมองกัน ในทางที่ดีอยู่เสมอก็จะเข้าใจกัน และ ร่วมมือ งานกันได้เป็นอย่างดี..." ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2531
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี