เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2562 ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึง 12 อาชีพหรือธุรกิจที่เสี่ยงต่อการตกงานหรือมีการจ้างงานต่ำในปี 2563 ประกอบด้วย 1.กลุ่มอาชีพ กิจการหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับเด็กแรกเกิดและประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปี เนื่องจากประชากรในกลุ่มนี้ (เด็กแรกเกิดจนถึงประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปี) ในประเทศลดลงตามลำดับ โดยในปี 2563 จะอยู่ที่ 12.7-12.8 ล้านคน ในช่วงปี 2562 จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.18 น้อยที่สุดในอาเซียน
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ประชากรวัยเด็กไทยจะลดลงเรื่อยๆ โดยประชากรไทยจะไปแตะระดับสูงสุดที่ 70 ล้านคน (69,685,486 คน) ในปี 2568 ก่อนที่จะมีแนวโน้มลดลงเหลือ 65,372,345 คน ในปี 2593 ขณะที่ประชากรเด็กจะลดลงเหลือเพียง 10.4 ล้านคนในปี 2570 จังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรในวัยเด็กต่ำมากจนกิจการหรือธุรกิจและการจ้างงานเกี่ยวกับไม่ขยายตัวมากนัก ได้แก่ ลำพูน สมุทรสาคร ปทุมธานี เป็นต้น
ส่วนจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรในวัยเด็กสูง ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล มีสัดส่วนประชากรในวัยเด็กอยู่ที่ร้อยละ 23-24 เทียบกับประชากรในจังหวัด แต่จังหวัดเหล่านี้เศรษฐกิจไม่เติบโตเท่าที่ควรเนื่องจากมีปัญหาความไม่สงบและความรุนแรงในพื้นที่ จำนวนประชากรไทยขณะนี้อยู่ที่ 69,310,827 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.9 ของจำนวนประชากรโลก
“กลุ่มที่ 1 จะเกี่ยวข้องกับอาชีพหรือกิจการดังนี้ โรงเรียนอนุบาลและประถมวัย สถานรับเลี้ยงเด็ก จะปิดกิจการเพิ่มขึ้นตามลำดับ กระทบต่อการจ้างงานในอาชีพครูหรืออาจารย์ระดับประถมและมัธยมต้น กิจการพี่เลี้ยงเด็ก เกิดโรงเรียนขนาดเล็กมากมายและด้อยคุณภาพเพราะต้องลดต้นทุน กระทบธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็กแรกเกิดและประชากรวัยเด็กจะขยายต่ำต่อเนื่องในปี 2563 เป็นต้น” ผศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าว
ผศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า 2.กลุ่มอาชีพการงานหรืองานทางด้านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพราะการทำธุรกรรมทำผ่านดิจิทัลและออนไลน์มากขึ้นตามลำดับ 3.กลุ่มอาชีพหรือธุรกิจนายหน้าทางด้านการขายตรงต่างๆ 4.กลุ่มอาชีพการงานหรือธุรกิจเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ ธุรกิจโฆษณา เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม 5.กลุ่มอาชีพการงานหรือธุรกิจที่ผลิตสินค้าที่มีปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนเกี่ยวกับถุงพลาสติกและโฟม สารเคมี เป็นต้น
6.กลุ่มอาชีพหรือธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ราคาสูงและที่อยู่อาศัยราคาต่ำ เนื่องจากตลาดบนราคาสูงมีปัญหาทางด้านอุปทานส่วนเกินและตลาดล่างราคาต่ำขาดอุปสงค์และกำลังซื้อ 7.กลุ่มอาชีพตัวแทนนายหน้าหรือคนกลางในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ 8.กลุ่มสถาบันการเงินหรือธนาคารแบบดั้งเดิม 9.กลุ่มอาชีพการงานและกิจการเกี่ยวกับการให้เช่าสำนักงานระยะยาว 10.กลุ่มธุรกิจแท็กซี่และพนักงานขับรถแท็กซี่ ได้รับกระทบจากแอพพลิเคชั่นเรียกรถรับ-ส่ง เช่น GrabCar GrabTaxi
11.กลุ่มอาชีพการงานและธุรกิจอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ที่ใช้กับรถยนต์และผลิตภัณฑ์ทางด้านไอทีที่เป็นเทคโนโลยีเก่า และ 12.กลุ่มอาชีพทางด้าน Back office ที่ ระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ และ AI สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ พนักงานงานธุรการ พนักงานรักษาความปลอดภัย แผนกกฎหมาย แผนกบัญชี เป็นต้น ทั้งนี้ ทุกอาชีพต้องเตรียมปรับตัวและรับมือกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลที่อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นในตลาดแรงงาน มีดิสรัปชั่นเพิ่มขึ้นอีกในปี 2563
โดยการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี 5G จะพลิกโฉมธุรกิจและระบบเศรษฐกิจ เปลี่ยนเกมการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้หลายธุรกิจหลายกิจการถูกเบียดขับออกจากตลาดพร้อมทั้งสร้างโอกาสให้เกิดกิจการธุรกิจใหม่โดยเฉพาะธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม (Platform Business) จะขยายตัวในอัตราเร่ง ธุรกิจที่ถูก Disrupt ต้องปรับตัว ลดขนาด ลดการจ้างงาน บางส่วนจะต้องล้มละลายและปิดกิจการไป
“นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคและภาคการผลิต ตลอดจนภาวการณ์ขยายตัวของภาคเศรษฐกิจต่างๆซึ่งมีทั้งขยายตัวสูง ปานกลาง จนถึงต่ำและหดตัวภายใต้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังคงต่ำต่อเนื่อง ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อกลุ่มอาชีพต่างๆทั้งความเสี่ยงในการถูกเลิกจ้างและโอกาสในการจ้างงานเพิ่มขึ้น” ผศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุ
ผศ.ดร.อนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม มี 10 อาชีพหรือธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวในปี 2563 ประกอบด้วย 1.อาชีพ กิจการและธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงวัย ผู้ป่วยฟื้นฟูสุขภาพและผู้ป่วยติดเตียง 2.อาชีพ กิจการและธุรกิจเกี่ยวกับแฟลตฟอร์มธุรกิจ ตลาดกลางอิเลคทรอนิกส์ 3.อาชีพ กิจการและธุรกิจเกี่ยวกับขนส่งโลจิสติกส์และการบริหารคลังสินค้า 4.อาชีพกิจการและธุรกิจเกี่ยวกันการท่องเที่ยวและบริการต่อเนื่อง
5.อาชีพบริการทางการแพทย์และกิจการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และ อาหารสุขภาพ 6.อาชีพ กิจการและธุรกิจเกี่ยวกับวิศวกรรมก่อสร้าง การก่อสร้างโครงสร้างระบบรางและระบบคมนาคมต่างๆ 7.อาชีพ กิจการและธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชั่น 8.นักวิเคราะห์ข้อสถิติชั้นสูง นักเศรษฐศาสตร์ประกันภัย นักคณิตศาสตร์นักสถิติประกันภัยและที่ปรึกษาทางด้านการลงทุน
9.กลุ่มอาชีพใหม่ๆที่เกิดจากการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจแบ่งปัน ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ผู้จัดการด้านการดูแลความพึงพอใจในการใช้ระบบ (User Experience Manager) ผู้จัดการทางด้านเนื้อหาและสื่อสังคมออนไลน์ (Content and Social Media Manager) ที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality Consultant) เป็นต้น
และ 10.อาชีพ กิจการเกี่ยวกับการให้การศึกษาผ่านทางออนไลน์ เช่น Online Educator ซึ่งจะมีการพัฒนาแทนที่การศึกษาแบบดั้งเดิมมากขึ้นตามลำดับ มีการทำหลักสูตรออนไลน์คุณภาพสูงที่สามารถทดแทนการเรียนในชั้นเรียนจริงได้ ฉะนั้นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ใช้เงินในการลงทุนสร้างอาคารและชั้นเรียนเกินความต้องการจะประสบปัญหาการแบกภาระต้นทุนจากการลงทุนส่วนเกินเหล่านี้จำนวนมาก และจำเป็นต้องไปตัดลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้การเรียนการสอนและการวิจัยด้อยลงเนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอ
ทั้งนี้ กล่าวโดยสรุป คาดว่าจะมีความไม่สมดุลในตลาดแรงงานเพิ่มมากขึ้นในปี 2563 ขณะที่การว่างงานโดยรวมสูงขึ้น แต่จะมีการขาดแคลนแรงงานทักษะต่ำ โดยเฉพาะงานหนัก งานสกปรก งานเสี่ยงภัยต่อสุขภาพสูงจะหาคนมาทำยากขึ้น เนื่องจากแรงงานต่างด้าวที่ยอมทำงานเหล่านี้จากประเทศเพื่อนบ้านทยอยกลับประเทศมากขึ้นจากความต้องการแรงงานและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น แรงงานอพยพกลับส่วนใหญ่เป็นแรงงานโสดที่ไม่มีครอบครัวในประเทศไทยและไม่มีความตั้งใจในการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศไทย
“เกิดภาวการณ์ขาดแคลนแรงงานในบางตำแหน่ง อุปสงค์แรงงานสูงในบางตำแหน่งงานอาจหาคนทำงานไม่ได้ ขณะที่อุปทานแรงงานมากในบางตำแหน่งงานแต่ความต้องการในการจ้างและอุปสงค์ต่อแรงงานต่ำมาก การจ้างงานในภาคเกษตรกรรมเกิดภาวะความไม่สมดุลและเคลื่อนย้ายแรงงานมากขึ้นในปีหน้า พื้นที่ซึ่งประสบภัยแล้งรุนแรง แรงงานในพื้นที่ดังกล่าวจะว่างงานและหันไปประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และ อาจเคลื่อนย้ายไปรับจ้างทำการเกษตรในพื้นที่ขาดแคลนแรงงานมากขึ้น” ผศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวในท้ายที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี