17 เมษายน 2563 ที่สวนสัตว์สงขลาวันนี้เป็นคิวของเจ้าจ้อน ลิงชิมแปนซีแสนรู้ ประจำสวนสัตว์สงขลาและค่างแว่นลีลาโหด เจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ได้นำน้ำหวานแช่เย็น ใส่ลำไยและลิ้นจี่แช่แข็งให้สัตว์กินคลายร้อน ไม่ให้สัตว์เครียด แม้ว่าสวนสัตว์สงขลายังปิดให้บริการ
นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ท่านเห็นลิ้นจี่และลำไยแช่แข็ง ที่จะนำไปให้สัตว์กินเป็นน้ำหวานสีเขียวเย็นเจี๊ยบและมีกระบอก 2 กระบอก เพื่อนำไปให้เจ้าจ้อนลิงชิมแปนซีแสนรู้กิน ท่านคงจะหิวน้ำเลยทดลองกินดูก่อน เกือบหมดกระบอก หลังจากนั้นก็เดินไปพร้อมกับคนเลี้ยงและเจ้าหน้าที่ไปที่ส่วนแสดงเจ้าจ้อน ในวันนี้เป็นคิวของเจ้าจ้อน ลิงชิมแปนซีแสนรู้ ประจำสวนสัตว์สงขลา แต่เนื่องจาก ช่วงนี้ มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ผอ. เฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผอ. สวนสัตว์สงขลา พร้อมคนเลี้ยง และเจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย นำน้ำหวานแช่แข็งเย็นๆใส่กระบอกพลาสติก นำไปให้เจ้าจ้อนได้กินเย็นๆเพื่อคลายร้อน ตามปกติเจ้าจ้อนมันจะมีลีลาเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของมัน ที่เป็นจุดเด่น ก็คือการเดินตบมือถ้าอารมณ์ดี เมื่อมีคนเข้ามาบริเวณหน้าส่วนแสดงของมัน
แต่วันนี้ผู้ที่มาทุกคน สวมหน้ากากอนามัยปิดใบหน้าหมด รวมทั้งคนเลี้ยงด้วย เจ้าจ้อนมันคงจะงงว่า เป็นใคร มันไม่รู้จักและจำหน้าไม่ได้ เมื่อนำกระบอกน้ำหวานแช่แข็งแขวนที่ปลายไม้ไผ่ ยื่นเข้าไปให้เจ้าจ้อน ปรากฏว่า เจ้าจ้อนใช้มือปัด จนกระบอกน้ำหวานแช่แข็ง ตกลงไปในคูน้ำด้านหน้า ไป 1 กระบอกแล้ว คนเลี้ยงก็ต้องนำกระบอกน้ำหวานแช่แข็ง กระบอกที่ 2 ส่งให้เจ้าจ้อนอีกครั้ง มันก็ใช้วิธีเดิม มือปัดเช่นเดียวกับครั้งแรก ตกลงไปในคูน้ำด้านหน้าเช่นเดียวกันทั้ง 2 กระบอกอดกินเลย
เมื่อทุกคนเปิดหน้าเอาหน้ากากอนามัยไว้ที่ใต้คาง ให้เจ้าจ้อนเห็น มันคงจะจำหน้าได้ โดยเฉพาะคนเลี้ยง มันเดินเข้ามายืนตรงหน้าจ้องหน้าทำหน้าจ๋อย มันคงจะรู้ว่า คงจะไม่ได้กินแล้ว มันยืนนิ่ง แสดงความเสียใจให้พวกเราเห็น ทำให้ ผอ.เฉลิมวุฒิ ต้องโยนน้ำหวานผสมลิ้นจี่และลำไย ให้มันได้กินอีกครั้งหนึ่ง มันจึงแสดงความดีใจออกมาให้เห็น เที่ยวนี้เจ้าจ้อนหยิบกิน แต่วิ่งไปแอบนั่งกินด้วยความเขินอายข้างกำแพงในคอก
สำหรับเจ้าช่อนในยุคโควิด -19 ในวันนี้ แสดงให้เห็นว่า เมื่อบุคคลแปลกหน้าแปลกปลอมเข้าไปให้อาหารกินมันก็จะไม่กิน เนื่องจากทุกคนสวม หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า จึงทำให้เจ้าจ้อนจำหน้าคนไม่ได้ จึงกลายเป็นคนแปลกหน้า สำหรับเจ้าจ้อนในยุคโควิด -19 ในวันนี้มันจึงไม่ได้กินน้ำหวานผสมลำไยและลิ้นจี่ ทั้ง 2 กระบอก
ค่างแว่น ถิ่นใต้ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าค่างแว่นพบในพม่าไทยมาเลเซีย สำหรับประเทศไทยพบทางภาคใต้ ปัจจุบันนี้ค่างแว่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในสวนสัตว์สงขลา มีค่างแว่นถิ่นใต้อยู่ 2 ตัว วันนี้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้นำน้ำหวานแช่แข็งสีเขียวเย็นๆใส่ลิ้นจี่และลำไยแช่แข็งด้วย ค่างแว่น ชอบ ลำไยและลิ้นจี่มาก แต่เนื่องจาก ผู้สื่อข่าวไปทำข่าวค่างแว่นเป็นครั้งแรก ยังไม่รู้พฤติกรรมสัตว์ประเภทนี้
ขณะที่ถ่ายอยู่บริเวณตอกที่มีแผ่นพลาสติกใสกั้นไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ยืนดูค่างแว่นได้อย่างชัดเจน โดยในช่วงที่มันนั่งกินน้ำหวานแช่แข็งใส่ลิ้นจี่และลำไย อย่างเอร็ดอร่อย ค่างแว่นอีกตัวมันก็เดินแอบลงมาด้านข้างคอกที่มีระยะห่างจากช่องพลาสติกใสประมาณ5-6เมตร โดยไม่รู้ตัวว่ามันหายไปไหน ค่างแว่นมันกระโดดเข้ามาชนพลาสติกใสที่กั้นอยู่อย่างแรงเสียงดังโครม เนื่องจากพลาสติกใสที่ใช้กั้นคอกช่างแว่นนี้มีความหนาทนแรงกระแทกอย่างแรงได้ แต่ถ้าหากเป็นกระจกใสจะแตกกระจายจากแรงกระแทกของค่างแว่นทันที ค่างแว่นมันกระโดดครั้งที่ 1 แล้วก็กลับไปนั่งกินลิ้นจี่และลำไยแช่เย็น หลังจากนั้น ก็กระโดดมาชนกระจกอีกรอบหนึ่ง จากจุดเดิมมาชนที่เดิม
จากการสอบถามคนเลี้ยงทราบว่า นี่คืออุปนิสัยของค่างแว่น ที่มักจะแสดงการกระโดดเข้ามาชนพลาสติกใสที่มีคนมายืนดู หน้าตู้โชว์ทุกครั้ง เสมือนจะโชว์ความสามารถให้คนเห็น เมื่อกระโดดเสร็จก็กลับไปนั่งกินลิ้นจี่และลำไยแช่เย็นเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อสวนสัตว์สงขลาเปิดหากมีโอกาสเข้าไปยืนดูค่างแว่นเจอการกระโดดแบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจ ถือเป็นเรื่องปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี