27 เมษายน 2563 นายนิคม รุ่งโรจน์  อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า นเองประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่นทราย และหินขนาดใหญ่ที่ใช้ในการทำผนังกั้นดินพัง ตนเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจตลอดเวลาไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาดูพื้นที่ น้องชายได้โทรศัพท์มาบอกว่าให้เข้าไปดูในที่ดิน เพราะมีคนแอบเอาขยะมาทิ้งไว้จำนวนมากเป็นเศษขยะจากโรงงานที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศและเมื่อเข้ามาดูก็เจออย่างที่น้องชายบอก

หลังจากนั้นก็ลองซุ่มแอบดูก็พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 20 เมษายน 2563 มีรถบรรทุกสิบล้อวิ่งเข้ามาในพื้นที่เมื่อถึงจุดทิ้งก็ยกดั๊มทิ้งขยะลงมา ซุ่มดูจนแน่ใจเมื่อรถบรรทุกกำลังจะวิ่งออกไปก็เลยแสดงตัวพร้อมทั้งถ่ายรูปรถและจดหมายเลขทะเบียนรถไว้พร้อมทั้งขอหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของทางโรงงานต้นทางไว้หลังจากที่ติดต่อเข้าไปที่โรงงาน ทางโรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูจุดที่เกิดเหตุแต่แจ้งว่าขยะดังกล่าวไม่ใช่ของโรงงานตนเองแล้วก็กลับไป หลังจากนั้นทางโรงงานไม่รับการติดต่ออีกเลย

ทั้งนี้ การที่มีขยะมาแอบทิ้งในพื้นที่  ก็ไม่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง  แต่ก็เสียโอกาสในการขายวัสดุก่อสร้างเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ต้องใช้เป็นพื้นที่วางกองหินก้อนใหญ่ซึ่งมีบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำท่าเทียบเรือติดต่อสั่งซื้อหินเบอร์ใหญ่ไว้แล้วแต่พอมาเจอว่ามีขยะอันตรายกองอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันผู้รับผิดชอบของบริษัทรับเหมาก็สั่งยกเลิกการสั่งซื้อทันทีโดยให้เหตุผลว่ากลัวจะมีสารเคมีปนเปื้อนไปกับก้อนหินและเมื่อนำไปถมลงทะเลจะส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำซึ่งบริษัทรับเหมาอาจถูกตรวจสอบ

จากการถูกยกเลิกการสั่งซื้อจึงถือว่าเกิดความเสียหายหลายแสนบาท วันนี้จึงต้องเผยแพร่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นและแจ้งให้สาธารณชนรับรู้ด้วยว่า ตนเองไม่ได้รู้เห็นในการลักลอบทิ้งขยะอันตรายจึงได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจนิคมพัฒนาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ กับ ร.ต.อ.ชนุตร์   ปานทอง รอง สว.สอบสวน สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยองให้ติดตามผู้ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเพราะกลัวว่าหากมีฝนตกลงมาน้ำฝนที่ไหลลงสู่ลำรางสาธารณะจะชะล้างและนำเอาสารเคมีปะปนลงไปในแหล่งน้ำ