7 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นฤดูฝนเป็นช่วงที่ “แมงอีนูน”  หรือ “แมงจินูน” จะเริ่มออกจากที่ซ่อนและออกมาอยู่ตามกิ่งไม้และใต้ดินเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์ โดยแมงนูน เป็นแมงปีกแข็ง ตัวมีสีน้ำตาล ลำตัวมีลักษณะกลมขนาดหัวแม่มือ มีขา 6 ขา สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ฉู่ฉี่ ต้ม คั่ว รวมไปถึงทอดในน้ำมันเดือดๆ  ถือเป็นเมนูเด็ดที่ประชาชนในหลายพื้นที่นิยมบริโภค แต่ต้องรอถึงช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้นจึงจะหารับประทานได้

ชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.จุน จ.พะเยา ใช้เวลาว่างในยามค่ำคืนของแต่ละวันออกจันแมงจินูนขาย ซึ่งแมงจินูน เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง หาได้ตามต้นไม้ใหญ่ตามท้องนา ตามสวนรอบๆหมู่บ้าน ในช่วงกลางคืนของแต่ละวันเพื่อนำมาประกอบอาหารรับประทานและขายโดยเฉพาะแมงจินูนจะมีผู้บริโภคจำนวนมากทำให้ขายดีเป็นที่ต้องการของนักบริโภคแมลง ส่วนมากจะมาขายตามตลาดในหมู่บ้าน ในช่วงนี้แต่ละครัวเรือนจะจับแมงจินูนได้3-4 กิโลกรัมต่อวันสามารถสร้างรายได้เสริมในช่วงวิกฤตโควิด 19 ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี

ในช่วงปลายฤดูแล้งจะเข้าสู่ฤดูฝนต้นไม้จะผลัดใบทำให้เป็นที่ต้องการของแมลงต่างๆ ที่ขอบกินใบอ่อนของต้นไม้ โดยแมงจินูนเป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่งที่ชอบกินใบอ่อนของต้นไม้และเป็นแมลงที่ชาวบ้านขอบบริโภคและมีราคาสูง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอจุนใช้เวลายามว่างช่วงค่ำคืนก็จะพาครอบครัวและญาติ ออกหาแมงจินูน โดยใช้ไฟส่งตามต้นไม้ในเวลากลางคืนเพื่อนำมาเป็นอาหารและขายสร้างรายได้แก่ครอบครัว

สำหรับแมงจินูนสามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่นทองคั่ว แกงใส่หน่อไม้ ซึ่งแมงจินูนจะมีให้หาได้ในช่วงที่มีฝนตกลงมาในช่วงแรกของทุกปีทำให้แมงจินูนที่อยู่ใต้ดินออกมาหากินเป็นจำนวนมากโดยแมงจินูนส่วนใหญ่จะเกาะกินตามต้นยอป่า ต้นลำไย ต้นน้อยหน่า และต้นคูณ หลังจากที่ชาวบ้านออกหาแมงจินูนมาได้ก็จะนำมาแช่น้ำก่อนเพื่อให้แมงจินูนถ่ายเศษอาหารออกก่อนถึงจะนำไปปรุงเป็นอาหารกินในแต่ละคืนชาวบ้านจะออกหาแมงจินูนได้ 3-4 กิโลกรัมต่อคนส่วนใหญ่จะนำไปกินที่เหลือก็จะนำไปขายสร้างรายได้ สำหรับ แมงจินูนที่ออกใหม่ๆในช่วงนี้จะมีรสชาติหอมมันอร่อยซึ่งหากินยากหนึ่งปีจะมีหนึ่งครั้ง