จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนแล้วนั้น รัฐบาลได้มีคำสั่งหยุดการดำเนินธุรกิจหลาย ๆ ประเภทชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการบิน โรงแรม ร้านนวด ร้านอาหาร ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกมาตรการผ่อนปรนสำหรับกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ 6 กลุ่ม ให้กลับมาดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่า พฤติกรรมของคนไทยได้ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คำว่า New Normal หรือชีวิตวิถีใหม่ เป็นคำที่เราเริ่มได้ยินบ่อยขึ้นตามสื่อต่าง ๆ New Normal เป็นคำศัพท์ทางธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2551 ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่เรารู้จักกันในชื่อ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งทำให้เกิด ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปีพ.ศ. 2551-2555 มาในปีพ.ศ. 2563 คำนี้ได้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง New Normal เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เป็นความปกติแบบใหม่ ที่ทำให้พฤติกรรมของเราเปลี่ยนไป อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย ในอดีตเราจะใช้หน้ากากอนามัยเมื่อเราป่วย แต่ในปัจจุบันการใส่หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน , การสวมใส่ Face Shield ซึ่งในช่วงแรกอาจดูแปลกประหลาดในสายตาคนอื่น ๆ แต่ในยุคนี้กลายเป็นเรื่องปกติ, การล้างมือบ่อย ๆ การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จะกลายเป็นวิถีใหม่ที่เป็นปกติในชีวิตประจำวันของเรา, การกินร้อน ช้อนกลาง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ค่อยได้ปฏิบัติ แต่ทุกวันนี้ทำจนเป็นเรื่องปกติ
สำหรับ ร้านอาหารหลายร้านมีการปรับตัวตั้งแต่ถูกสั่งปิดครั้งแรก เปลี่ยนเป็นให้บริการเดลิเวอรี่แทนการนั่งรับประทานที่ร้าน ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น และเมื่อร้านอาหารได้กลับมาเปิดใหม่ ก็มีมาตรการใหม่ เช่น ให้นั่งได้โต๊ะละ 1 คน หรือบางร้านหากต้องการให้นั่งได้หลายคน ก็จะมีการนำพลาสติกมาทำเป็นฉากกั้น หม้อใครหม้อมัน ชามใครชามมัน ไม่ใช้ร่วมกัน, การ Work from home ในอนาคตจะเป็นเรื่องปกติ ปรับเปลี่ยนเป็นโลกแห่งดิจิตอลมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีในการประชุม พบปะพูดคุยกันแทนการเดินทางไปที่ทำงาน, การเรียนการสอน ของนักเรียน นักศึกษา ปรับมาเป็นออนไลน์มากขึ้น, การทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การซื้อสินค้าออนไลน์ มากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป มีเพียงระบบอินเตอร์เน็ต และระบบจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ, การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) เราจะไม่สัมผัสกันโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้การทักทายกันในหลาย ๆ ชาติที่เคยจับมือ หรือสัมผัสตัวกัน จะเปลี่ยนแปลงไป, การท่องเที่ยวแบบใหม่ในรูปแบบออนไลน์ เช่น การชมพิพิธภัณฑ์เสมือน (Virtual Museum) การเที่ยวนิทรรศการออนไลน์ (Vitrul Exhibitor) และการเข้าชมแกลอรี่ชื่อดังต่าง ๆ (Vitrul Gallery) เป็นต้น
ส่วน การชมคอนเสิร์ตออนไลน์ โดยที่ไม่ต้องเดินทางไป ณ สถานที่ที่จัดคอนเสิร์ตเหมือนแต่ก่อน โดย Whal & Dolph Online Market Concert เป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ครั้งแรกของประเทศไทย, ภาพยนตร์ ละครต่าง ๆ ปรับมาใช้ตัวละครที่เป็น Animation แทนนักแสดงมากขึ้น, ธุรกิจ Streaming Services เติบโตมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Netflix มีจำนวน account เพิ่มมากขึ้นจากเดิม กว่า 15,000,000 account, ธุรกิจประกันภัยด้านสุขภาพจะเติบโตมากขึ้น เนื่องมาจากคนจะหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น เพราะมีความหวาดระแวงต่อโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะมีโรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกในอนาคต
และการปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ใจกลางเมือง ปรับเปลี่ยนมาเป็นอาศัยอยู่นอกเมืองมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานทุกวัน, จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากได้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงนี้ และได้ตระหนักว่ามนุษย์คือผู้ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน, Cashless society ลดการใช้เหรียญ หรือธนบัตร เพื่อลดการสัมผัสเหรียญ หรือธนบัตร ที่อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค, ทัศนคติในเรื่องการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศอาจเปลี่ยนไป เนื่องจากได้เห็นว่าในต่างประเทศมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างหนัก และการจัดการด้านสาธารณสุขที่ไม่มีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลานี้หลาย ๆ คนอาจเกิดภาวะความเครียด จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบีบบังคับให้เราทุกคนต้องปรับตัว เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ต้องสู้กับเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ถ้าเราตั้งสติ และเตรียมรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ เชื่อว่าทุกคนต้องผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้เช่นกัน
เรียบเรียงโดย : อาจารย์ชงค์สุดา โตท่าโรง หัวหน้าสาขาวิชาการโรงแรม คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี