วันที่ 7 มิถุนายน 2563 นายทรงวุฒิ พูลเกิด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205/1 หมู่ 7 บ้านควนลำภู ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อาชีพช่างซ่อมรถสิบล้อ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเพื่อนบ้านรวม 30 คน ช่วยกันขุดต้นตะเคียนทองอายุกว่า 100 ปี ขนาดใหญ่ 2 คน ยาวประมาณ 3 เมตร ที่ฝังอยู่ชายคาหลังบ้าน หลังจากเมื่อ 20 วันที่ผ่านมา นางสุภาพ แก้วสาร อายุ 63 ปี แม่ยายของตนเกิดล้มป่วย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และอาเจียนตลอดเวลา ตนและภรรยาจึงพาไปหาหมอ ที่คลินิกแห่งหนึ่งในตลาดจันดี อ.ฉวาง แต่ระหว่างทาง แม่ยาย เกิดอาการช็อกหมดสติ จึงรีบพาไปโรงพยาบาลพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อถึงโรงพยาบาลปรากฏว่าแม่ยายหมดสติ ชีพจรเต้นอ่อน แพทย์จึงส่งต่อโรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่มีเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมกว่า ต่อมาแพทย์ทำการรักษาและให้นอนที่โรงพยาบาล รวม 5 วัน ขณะที่แม่ยายของตนเริ่มมีอาการบวมพอง แน่นหน้าอกและอาเจียน ซึ่งแพทย์ระบุว่า แม่ยายป่วยโรคไตขั้นร้ายแรง จำเป็นต้องฟอกไตตามที่แพทย์นัด จากนั้นแพทย์อนุญาตให้แม่ยายกลับมารักษาตัวที่บ้าน
ขณะที่ญาติๆ เชิญหมอไสยศาสตร์ เพื่อประกอบพิธีรักษาตามความเชื่อ โดยหมอไสยศาสตร์ระบุว่า บริเวณหลังบ้านมีต้นไม้ใหญ่ฝังดินอยู่ และให้โทษคนในครอบครัว จะเกิดล้มป่วยไข้ไม่สบาย แต่ทางญาติยังไม่เชื่อ ต่อมาวันที่ 6 มิ.ย.63 มีร่างทรงท้าวเวชสุวรรณ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของนายทรงวุฒิ ที่เคารพนับถือตามความเชื่อมาประทับร่างทรง พร้อมบอกว่าให้ขุดแม่ตะเคียนทองที่ฝังอยู่ในดินใต้ชายคาหลังบ้าน เพราะแม่ตะเคียนทองต้องการขึ้นจากใต้ดิน ที่สำคัญบริเวณที่ต้นตะเคียนถูกฝัง เจ้าของบ้านนำสุนัขมาผูกไว้ และสุนัขอุจจาระ ปัสสาวะใส่ต้นตะเคียนทอง เป็นการลบลู่เจ้าแม่ตะเคียนทอง ทำให้คนในครอบครัวล้มป่วย
ต่อมานายทรงวุฒิ และคนในครอบครัว นำสุนัขไปผูกเลี้ยงไว้บริเวณหน้าบ้าน พร้อมกับนิมนต์พระสงฆ์ ประกอบพิธีขอขมาตามความเชื่อ และติดต่อรถแบ็คโฮ เพื่อขุดต้นตะเคียนทองขึ้นมา แต่ปรากฏว่าไม่มีรถใครกล้าขุด จึงมีการระดมกำลังเพื่อนบ้านช่วยกันขุด โดยใช้เวลา 4 ชั่วโมง จึงสามารถนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้สำเร็จ
เมื่อสอบถามพระสงฆ์ เพื่อต้องการนำต้นตะเคียนไปไว้ที่วัด แต่ทางพระสงฆ์บอกว่า ไว้ต้นตะเคียนที่บ้านก็ได้ แต่ต้องตั้งไว้ที่สูง อย่างไรก็ตามหลังขุดต้นตะเตียนขึ้นมาแล้ว ปรากฏว่าแม่ยาย ที่ป่วยหนัก อาการดีขึ้นตามลำดับ จึงเชื่อว่าเจ้าแม่ตะเคียนทอง คงปลดปล่อยความเจ็บป่วยคนในครอบครัว
นายริน แก้วสาร อายุ 66 ปี สามีผู้ป่วย เผยว่า ปกติแล้วตนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับแบบนี้ แต่ครั้งนี้ยอมรับและเชื่อสุดตัว เนื่องจากระหว่างที่ภรรยาเข้าโรงพยาบาล ส่วนตนนอนอยู่ที่บ้าน ตกดึกจะมีมือใครปริศนาดึงบริเวณเท้าจนตกใจตื่นทุกคืน ที่สำคัญภรรยาของตนอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ
ยายไสว วิมล อายุ 87 ปี เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นต้นตะเคียนทองต้นนี้ล้มนอนอยู่บริเวณดังกล่าวตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น ต่อมาต้นตะเคียนทองถูกทับถมจนจมดินหายไป และมาพบอีกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังชาวบ้านทราบข่าว โดยเฉพาะบรรดาคอหวย ไม่พลาดที่จะแห่มาขอเลขเด็ด พร้อมนำดอกไม้ธูป เทียน และแป้งฝุ่น เพื่อลูบ ถู ต้นตะเคียนหาเด็ดไปเสี่ยงโชค อย่างไรก็ตามมีการตกลงกันว่าจะนำต้นตะเคียนทองที่ขุดขึ้นมา ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดควนอุโบสถ หมู่ 3 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี