วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
30 มิถุนายน 2563 จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลา พงษ์ประยูร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้โพส์ตเรื่องราวชวนขนหัวลุก โดยมีข้อความว่า "ผีมีจริงหรือเปล่าไม่รู้....แต่ผมเจอเหตุการณ์แปลกๆ ยาวหน่อยจะเล่าให้ฟัง “ขณะขี่มอเตอร์ไซค์ไปนางรอง ฝนตกหนักเลยหลบฝนศาลาริมทาง ใกล้มืดแล้วก็ยังไม่หยุด ได้ยินเหมือนมีคนมาทักข้างหลังหันไปดูไม่เห็นมีใคร นั่งอีกสักพักได้ยินเสียงคนคุยกันตรงหน้า แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าคุยอะไร แบตเตอรี่โทรศัพท์ก็เหลือ 10 % ฝนก็ยังไม่หยุด นั่งต่ออีกเกือบ 10 นาที คราวนี้ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงคุยกันบนหลังคา แหงนมองก็ไม่มีอะไรอีก ตัดสินใจออกจากศาลาทันที เปียกก็ยอม...ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร” #ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไหม ? #ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีเท่าไร #ถามคนแถวนั้นบอกว่า ศาลานี้เมื่อก่อนเป็นที่พักศพก่อนเอาเข้าหมู่บ้าน"
.jpg)
โดยศาลาริมทางที่ระบุถึง ตั้งอยู่ปากทางเข้า-ออก หมู่บ้านบัวตารุ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง ห่างจากถนนใหญ่ สายลำปลายมาศ – ชำนิ ประมาณ 20 เมตร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ บางคนก็บอกว่าเชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณ เพราะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจรอบบริเวณศาลาดังกล่าว ก็พบซากไก่ตายในลักษณะถูกใช้ไม้เสียบกางปีกและขาทั้งสองข้างออกคล้ายกับตรึงกางเขน มีกระบอกไม้ไผ่แขวนติดไว้ใกล้กับซากไก่ 2 บอก มัดติดไว้กับกิ่งไม้ไผ่ ยาวประมาณ 2 เมตร พิงไว้กับพุ่มไม้ข้างศาลาริมทางดังกล่าว
.jpg)
จากการสอบถาม นางอำนวย วิจิตรศักดิ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่อยู่ติดกับศาลา บอกว่า ซากไก่ที่เห็นคือไก่เป็นที่ถูกนำมาเลาะเนื้อออกเหลือแต่โครง ส่วนกระบอกไม้ไผ่ 2 กระบอก เป็นกระบอกเหล้าขาวและน้ำเปล่า ที่ใช้สำหรับทำพิธีเซ่นสังเวยหรือเลี้ยงผีตะกัง เพราะเมื่อประมาณ 5 – 6 เดือน ที่ผ่านมา มีชาวบ้านในหมู่บ้านคนหนึ่งล้มป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ ไปรักษาที่ไหนก็ไม่หายญาติจึงพาไปดูหมอทรง หมอทรงก็บอกว่า โดนผีตะกังทำให้ป่วย ต้องนำไก่เป็น เหล้าขาว และน้ำมาเซ่นไหว้เลี้ยงผีตะกังตนนั้น และระบุว่าจะต้องเป็นสามแยก จึงได้มาทำพิธีที่ศาลาดังกล่าวเพราะเป็นสามแยกตามที่หมอทรงบอก
หลังจากทำพิธีแล้วคนนั้นก็หายเจ็บป่วยจนทุกวันนี้ ถึงแม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นผีกับตา แต่ก็เชื่อว่าผีมีจริงก็ไม่หลบหลู่หรือท้าทาย ส่วนที่ตำรวจได้ยินเสียงปริศนานั้น ก็อาจจะเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนก็เป็นไปได้
.jpg)
ด้านนายรักชาติ คชชาญ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เรื่องผีหรือวิญญาณเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้และแม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นกับตา แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีจริงส่วนจะเห็นหรือไม่เห็นก็ขึ้นอยู่กับสัมผัสของแต่ละคน ส่วนซากไก่และกระบอกไม้ไผ่นั้นก็ทราบว่า มีชาวบ้านที่เชื่อว่าโดนผีทำให้เจ็บป่วยประหลาด มาทำพิธีเซ่นไหว้เลี้ยงผีตามคำทำนายของหมอทรง ซึ่งก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลเท่านั้น ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว แต่ยอมรับว่าถนนสายดังกล่าวมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายราย แต่ก็ยืนยันศาลาดังกล่าวไม่ใช่ที่พักศพ แค่มีสภาพเก่าตามกาลเวลาเพราะสร้างมานานกว่า 50 ปีแล้ว
.jpg)
ขณะที่ พระชัยวุฒิ ปัญญาธโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งโพธิ์ อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า เสียงปริศนาที่ผู้กองคนดังกล่าวได้ยิน อาจจะเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนที่ตายไปแล้ว แต่บุญไม่ถึงจึงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด จึงมาเร่ร่อนขอส่วนบุญ ซึ่งในสมัยพระพุทธกาลก็มีหลักฐานทางพระพุทธศาสนาปรากฏ คือญาติของพระเจ้าพิมพิสารที่เสียชีวิตไปแล้ว ตกนรกเพราะทำความชั่ว พ้นจากนรกก็มาเป็นเปรต จากนั้นพระเจ้าพิมพิสารได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าก็เกิดศรัทธาจึงสร้างวัดเวฬุวันขึ้น แต่ทุกครั้งที่พระเจ้าพิมพิสารมาทำบุญที่วัด ก็ไม่เคยกรวดน้ำให้กับญาติคนดังกล่าว ญาติคนดังกล่าวที่รอส่วนบุญอยู่จึงไปแสดงตัวให้พระเจ้าพิมพิสารเห็น
.jpg)
อย่างไรก็ตาม ขอให้ใช้วิจารญาณไตร่ตรองด้วยเหตุด้วยผล หากคิดว่าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แล้วสบายใจก็ควรทำ แต่หากพูดถึงว่าผีมีจริงหรือไม่พวกเราก็เป็นผีกันทุกคน ก่อนจะเกิดมาก็เป็นผีตายไปก็เป็นผี ดังนั้นในขณะที่ทุกคนยังมีโอกาสก็อย่าประมาทมัวเมาในการดำเนินชีวิต ควรทำคุณงามความดีสั่งสมไว้ให้นำสิ่งที่เห็นมาเป็นอุทาหรณ์ว่า ทำไมตายไปแล้วถึงไม่ได้ไปเกิดเพราะบุญน้อย ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านงามงายหรือหวาดกลัวเกินเหตุ เพราะถึงจะเป็นผีหรือวิญญาณก็ทำอะไรเราไม่ได้เพราะอยู่คนละภพชาติแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี