วันศุกร์ ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 13.12 น.
กลับมาเจอกันอีกครั้งกับ แนวหน้าพาเที่ยว หลังจากที่ห่างหายจากการเดินทางไปนานเกือบปี เนื่องจากเจ้าไวรัสร้ายโควิด-19 แผลงฤทธิ์ส่งผลกระทบจนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปทั่วองคาพยพ กลับมาเจอกันครั้งนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวม่วนซื่นในดินแดนที่แสนมีเสน่ห์ริมฝั่งแม่น้ำโขง ณ จังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกครื้นคึกคักอีกครั้งโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ลากกระเป๋าใบใหญ่พร้อมหัวใจที่พองโตออกจากบ้านเมื่อรู้ว่าจะได้ออกเดินทางอีกครั้ง ก้าวแรกเข้าสู่สนามบินก็พบกับมาตรการคัดกรองโรคที่เข้มข้น มีเจลแอลกอฮอล์ตั้งตามจุดต่างๆไว้ให้ผู้เดินทางได้ใช้บริการ โดยวันนี้เราเดินทางกันอย่างสะดวกสบายปลอดภัยไปกับแอร์เอเชีย ซึ่งทางสายการบินก็มีมาตรการเว้นระยะห่าง จัดการให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องอย่างดีเช่นกัน เมื่อถึงเวลาบอร์ดดิ้งจะมีการเรียกเป็นโซนเพื่อไม่ให้เกิดการแออัดและมีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องอีกครั้งด้วย
(รูปภาพมีลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต)
เตรียมตัวออกเดินไปเที่ยวอีสานแบบ cool cool
พักสายตาสักชัวโมงเราก็เดินทางมาถึงสนามบินอุบลราชธานีพร้อมเสียงท้องร้องสนั่น เราเลยแวะเติมพลังกินอาหารเช้ากันที่ร้านสามชัยกาแฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก
มื้อง่ายๆแต่อิ่มถ้วนหน้า
เส้นทางม่วนซื่นริมโขงในวันแรกของเรียกว่าวันของสายบุญ เพราะเราจะเดินทางไปเที่ยววัดกันถึง 3 แห่ง เริ่มต้นกันที่วัดหนองป่าพง ตั้งอยู่บ้านพงสว่าง หมู่ที่ 10 ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ หมุดหมายสำคัญของผู้ศรัทธาใน หลวงปู่ชา สุภทฺโท พระสายปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน
เจดีย์พระโพธิญาณเถร
ภายในเป็นเจย์ดีแก้วบรรจุ อัฐธาตุของหลวงปู่ชา
พื้นที่ภายในบริเวณวัดอันกว้างขวางยังมี พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร แหล่งรวมข้อมูลอัตชีวประวัติของหลวงปู่ชา
ภายในมีทั้งหมดสามชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าจริงของหลวงปู่ชา ในท่านั่งอยู่บนเก้าอี้หวายและเครื่องอัฐบริขาร
บริเวณโดยรอบวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และมีไก่บ้านเดินคุ้ยอาหารกินอย่างธรรมชาติ
เดินทางมาถึงสถานที่ต่อไป วัดป่าโพธิญาณ บ้านอ่างศิลา หมู่ที่ 6 ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดป่าสาขาที่ 8 ของวัดหนองป่าพง ซึ่งการเดินทางไปยังตัววัดค่อนข้างลึกลับสักหน่อย ต้องผ่านป่าที่ทางวัดทำเป็นโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ยืนต้นไว้ระยะทาง 2-3 กิโลเมตร
สำหรับไฮไลท์ของที่นี่คือศาลาการเปรียญหลังใหม่ ลักษณะเป็นแพไม้กลางน้ำตั้งริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธรห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ ซึ่งผู้เขียนถูกใจบรรยากาศแสนสงบของที่นี่มากขอยกให้เป็นศาลาการเปรียญที่มีวิวสวยที่สุดเท่าที่เคยไปเยือนมา
ท่องเที่ยวใช่ช่วงฤดูฝนต้องเผื่อใจไว้กับสภาพอากาศ อาจจะเจอลมฝนบ้างแต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าหงุดหงิดใจแต่อย่างใด คิดสะว่าเรากำลังได้ชมความงามในอีกแง่มุมนึง
โบสถ์ที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
เมื่อฝนหยุดตกก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อไปยังวัดสุดท้ายของวันนี้ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือวัดเรืองแสง ตั้งอยู่ที่ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี วัดแห่งนี้มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน
โดยตอนกลางวันจะได้ชมความวิจิตรของอุโบสถสีปัดทองมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว
ด้านหลังของอุโบสถจะมีวิวทิวทัศน์เป็นลุ่มแม่น้ำโขงสามารถมองเห็นฝั่งลาวได้ วันไหนอากาศปลอดโปรงสามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน
หลังอาทิตย์ลับฟ้าเราก็จะได้พบความสวยงามที่อลังการยิ่งกว่ากับจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง บริเวณด้านหลังของอุโบสถ ซึ่งได้ออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดยใช้สารเรืองแสงหรือสารฟลูออเรสเซนต์รอบต้น คุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวันและปล่อยพลังงานออกมาในตอนกลางคืน
บริเวณโดยรอบสวยงามด้วยดอกไม้เรืองแสง
เข้าสู่วันที่ 2 ของทริปม่วนซื่นริมโขงเช้านี้เราเดินทางข้ามจังหวัดไปยัง จ.อำนาจเจริญ เพื่อไปสัมผัสวิถีชาวบ้านกันที่ โฮมสเตย์บ้านนาภูคำ ตั้งอยู่ที่ 215 หมู่ที่ 1 ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
กำลังดำนาพอดี คณะจึงไม่พลาดโอกาสขอลงไปร่วมดำนากับเหล่าแม่ๆด้วย
นอกจากต้นข้าวอ่อนที่เขียวขจี เดินมาอีกด้านเราจะพบกับทุ่งดอกคุณนายตื่นสายที่กำลังบานอวดโฉมหลากสีสัน
มาหนึ่งที่มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ
ที่โฮมสเตย์บ้านนาภูคำ ชาวบ้านได้มีการทอผ้า ทอเสื้อ สานกระเป๋าขาย เพิ่มช่องทางสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง
หากนักท่องเที่ยวอยากเรียนรู้วิถีพื้นบ้าน แม่ๆก็พร้อมให้สอนและให้ทดลองทำด้วยตนเอง
สนุกสนานกันเสร็จก็มาพักเหนื่อยดำน้ำกันที่คาเฟ่ และทานอาหารกลางวันด้วยเมนูพื้นถิ่นสุดแซ่บ
อิ่มท้องแล้วเราก็วาร์ปมากันที่ วัดสี่แยกแสงเพชร ตั้งอยู่ที่ ต.หนองมะแซว อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ สถานที่ปฏิบัติธรรมสาขาที่ 5 ของวัดหนองป่าพง ที่นี่สวยงามโดดเด่นด้วยสถูปเจดีย์ ภายในมีรูปปั้นเหมือนของพระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภัทโท) และภาพเขียนฝาผนังพุทธประวัติอันงดงาม
ในอีกด้านจะพบอุโบสถขนาดใหญ่สร้างด้วยหินขัด มีรูปปั้นพญานาคและสิงโตประดับเคียงคู่อยู่ด้านหน้า
จากนั้นเราก็เดินทางกลับมายังอุบลราชธานีกันอีกครั้ง เพื่อล่องเรือชมเส้นทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขงกับสถานที่ๆพลาดไม่ได้นั่นก็สามพันโบก ความงดงามของแก่งหินที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติ ปรากฏให้เห็นชัดในช่วงหน้าแล้ง
ล่องเรือมาถึงจุดแรกให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายภาพกับผาวัดใจ เป็นหินลักษณะยื่นออกไปในแม่น้ำ
บริเวณหินปะการัง
ลานหินสี ส่วนใหญ่จะมีผิวเรียบ เป็นมันวาวมีสีเหลือง เทา เขียว ส้ม
หินแจกัน ที่มีความเชื่อกันว่าขอพรแล้วจะเป็นจริงดังหวัง
ชมพระอาทิตย์ตกน้ำ สวยงามระยิบระยับตราตรึงหัวใจส่งท้ายวันได้อย่างงดงาม
เวลาแห่งความสนุกสนานผ่านไปอย่างรวดเร็ว มาถึงวันที่ 3 ของทริปนี้แล้ว เช้านี้เราเที่ยวกันอย่างชิลๆ ใกล้ชิดชุมชนที่กลุ่มฝ้ายทอมือ บ้านวงศ์ปัดสา ผู้สืบสานตำนานผ้าทอเขมราฐ ไปชมสาธิตวิธีการทำผ้าฝ้ายในแต่ละขั้นตอน
ที่กลุ่มบ้านวงศ์ปัดสา
มีการปักผ้าฝ้ายสร้างลวดลายทันสมัย เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
ผู้เขียนทดลองปักผ้าฝ้ายเป็นครั้งแรก ไม่ยากแต่ต้องใช้ความละเอียดพอสมควร
เรียนรู้กรรมวิธีการทอผ้าไปแล้วก็มาช็อปงานฝีมือคุณภาพดีกันต่อ
ถัดจากกันไม่ไกลในชุมชนเขมราฐธานี ก็จะพบกับกลุ่มทำกล้วยตาก ชาวบ้านจะใช้กล้วยที่ปลูกกันในชุมชนมาแปรรูปเป็นกล้วยตาก เค้กกล้วยน้ำว้า ของดีของชุมชน
มาถึงสถานที่สุดท้ายของทริปริมโขงแสนม่วนซื่นกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอุบล ณ วัดพระธาตุหนองบัว ก้าวแรกที่เรามาถึงจะพบกับพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ สถาปัตย์กรรมอันงดงามที่จำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในประเทศอินเดีย และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดมะเส็ง
ด้านหน้าองค์พระธาตุเราจะพบกับรูปปั้นพญานาค 2 องค์ ขนาดใหญ่
ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ในสถูปลงรักปิดทองและยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ ขณะที่โดยรอบงดงามอร่ามตาไปด้วยการตกแต่งลวดลายสุดวิจิตร
ก่อนจะกลับไม่ลืมแวะซื้อของฝาก ถูกราคา ถูกใจผู้ซื้อ
ทริปม่วนซื่นริมโขงทำให้เราหลงรักเสน่ห์อันหลากหลายของภาคอีสานมากขึ้น วิธีการเดินทางสะดวกสบายเหมาะกับสายเที่ยวทุกกลุ่มทุกวัย อยากให้ผู้อ่านได้ลองมาสัมผัสกันด้วยตนเอง ที่สำคัญอย่าลืมดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก โควิด-19 กันด้วยนะคะ
ทริปหน้าแนวหน้าพาเที่ยวจะกลับมาในเร็วๆนี้ เราจะพาคุณผู้อ่านไปม่วนซื่นกันต่อกับจังหวัดติดริมฝั่งโขง ซึ่งจะเป็นที่ใดอดใจรอชมกันเด้อ.