วัดรังษีสุทธาวาส ทำบุญครบรอบมรณกาลปีที่ 5 พระครูสุทธิคุณรังษี หรือ "หลวงพ่อทอง ปญฺญาทีโป" ศิษยานุศิษย์แห่ปิดทองสรีระสังขารร่างไม่เน่าเปื่อย
วันที่ 22 สิงหาคม 2563 ที่วัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) พร้อมคณะศิษย์ยานุศิษย์พระครูสุทธิคุณรังษี (หลวงพ่อทอง ปญฺญาทีโป) ที่ชาวบ้านไร่กล้วยหรือคนทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อทอง" อดีตเจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส หรือ วัดไร่กล้วย จัดงานวันมรณภาพครบ 5 ปี พร้อมทั้งนำร่างของท่านออกจากโรงแก้วมาปิดทองทั้งองค์
โดยมีศิษย์ยานุศิษย์จำนวนมากเข้าร่วมปิดทองสรีระของหลวงพ่อทอง หลังจากนั้นได้นำสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยหลวงพ่อทอง ที่นำมาปิดทองในครั้งนี้บรรจุในโลงไม้สักตั้งให้ประชาชนและลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพนับถือได้กราบไหว้บูชา ชอพรกันโดยตั้งไว้ที่ศาลาตั้งสรีระสังขาร ของหลวงปู่ทอง โดยหลวงพ่อทองนั้นได้มรณภาพมาแล้ว 5 ปี แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย ทางญาติโยมได้นำร่างของท่านออกมาจากโลงแก้ว มาทำความสะอาดและเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์ลูกหากราบมนัสการปิดทองสรีระสังขารของหลวงพ่อทอง แล้วปลี่ยนจีวร อังสะ สบง ให้ใหม่ก่อนนำเข้าบรรจุโลงแก้ว ไม้สัก ซึ่งประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถไปกราบนมัสการขอพรสรีระสังขาร "หลวงปู่ทอง" ได้ที่วัดรังษีสุทธาวาส หรือวัดไร่กล้วย ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้ทุกวัน
สำหรับพระครูสุทธิคุณรังษี "หลวงปู่ทอง ปญญาทีโป" เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อนายสี ก้านบัว มารดาชื่อนางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คนหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิดา - มารดาประกอบสัมมาอาชีวะตามประสาสุจริตชนทั่วไป
จากนั้นจึงได้เข้าสมัครรับราชการทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี ภายหลังที่ท่านใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสมาอย่างโชกโชนแล้ว หลวงปู่ท่านจึงคิดจะบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรมและตอนแทนพระคุณบุพการี ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ณ พัธสีมา วัดเนินสังข์สกฤษฏาราม ตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูเจียม วัดหลวงพรหมาวาส พระกรรมวาจาจารย์ คือพระมหาเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเอียง วัดไร่หลักทอง ได้รับยาว่า "ปัญญาทีโป" แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจแสงสว่างแห่งดวงประทีป
ในการสร้างวัดไร่กล้วยนั้นครั้งแรกเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2488 ก่อนหลวงปู่ทองบรรพชา 1 พรรษาชาวบ้านนิมนต์อาจารย์มานิตย์ (พระพี่ชายของหลวงปู่ทอง) มาเป็นเจ้าอาวาส เพื่อมาร่วมสร้างวัดในหมู่บ้านไร่กล้วยด้วยกัน และในปีต่อมาหลวงปู่ทอง ปญญาทีโป ท่านจึงอุปสมบทที่อำเภอพนัสนิคม และหลังจากนั้นได้ติดตามพระพี่ชายมาช่วยสร้างวัดไร่กล้วย โดยร่วมกับชาวบ้านอีกแรงหนึ่ง จนในปี พ.ศ.2491 จึงสร้างโบสถ์ไม้สำเร็จเป็นหลังแรก จวบจน พ.ศ.2494 ท่านอาจารย์นิด ลาสิกขาบทไป คงเหลือไว้แต่หลวงปู่ทอง จึงเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส
ด้วยหลวงปู่ทองเป็นพระที่มีความเมตตาต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนเป็นที่เลื่องลือ เลื่อมใส จึงเกิดศรัทธาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น และยังแผ่บารมี คุณธรรม ออกไปยังบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบากแค่ไหนเดินทางมาหาหลวงปู่ทอง ท่านก็จะมีเมตตาต่อผู้มาพบท่านอยู่เสมอมิได้ขาด ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านก็ให้การช่วยเหลือมาตลอด จนในปี พ.ศ.2496 หลวงปู่ทองจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส สร้างความปิติให้กับลูกศิษย์และชาวบ้านโดยทั่วไป
หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2498 หลวงปู่ทองได้สร้างโรงเรียนวัดไร่กล้วย ให้กับชาวบ้านใช้ในการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2501 ชาวบ้านก็ได้ช่วยหลวงปู่ทองสร้างศาลาการเปรียญไม้จนสำเร็จ ในปี พ.ศ.2504 ในปี พ.ศ.2516 หลวงปู่ทอง ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นตรี ราชทินนามที่พระครูสุทธิคุณรังษี ในปี พ.ศ.2522ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นโท ในปี พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นเอก ในปี พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก
หลังจากนั้น หลวงปู่ทอง ก็เริ่มมีอาการอาพาธเป็นโรคปอดติดเชื้อ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ จวบจนวันที่ 22 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 เวลาประมาณ 11.10 น. หลวงปู่ทอง ปัญญาทีโป ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ด้วยอาการปอดติดเชื้อ สิริอายุ 99 ปี 69 พรรษา การมรณภาพของหลวงปู่ นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก จากนั้นได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนจำนวน 200 ทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี