ก่อนหน้านี้เราได้นำเรื่องราวและสรรพคุณของ "กล้วยน้ำว้า" มาบอกกล่าวสำหรับคนที่ชอบกินกล้วยกันแล้ว วันนี้เรามีเรื่องราวและสรรพคุณของ "กล้วย" มาฝากกันอีกคือ "กล้วยไข่"
สำหรับ "กล้วยไข่" เป็นกล้วยที่ได้รับความนิยมมาก สำหรับคนทุกเพศทุกวัย มักให้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ทานง่าย" แล้วยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายทั้งประโยชน์ทางยาและคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยรสชาติที่เฉพาะตัว มีกลิ่นหอม รสชาติหวาน และนำมาประกอบอาหารได้อีกหลากหลายเมนู
"กล้วยไข่" เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลกล้วย (Musaceae) โดยมีชื่อสามัญว่า Pisang Mas กล้วยชนิดนี้สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถนำมารายได้เข้าสู่ประเทศและขายภายในประเทศก็ได้ราคาดี โดยเฉพาะที่จังหวัดกำแพงเพชรนั้นนิยมปลูก "กล้วยไข่" กันมาก จนกล้วยไข่กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร และนิยมทานคู่กับขนม กระยาสารท ทำให้มีรสชาติหวานมัน เข้ากันได้อย่างพอดี
ประโยชน์และสรรพคุณของ "กล้วยไข่" มีมากมาย โดยกล้วยไข่นั้นมีวิตามินอี เบตาแคโรทีน และวิตามีนซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง หรือทำให้เกิดการอักเสบ การทำลายเนื้อเยื่อ รวมทั้งโรคตาต้อกระจกได้ แถมช่วยลดเรื่องริ้วรอยด้วย ทุกส่วนของต้นกล้วยไข่จะให้ประโยชน์แตกต่างกันไป เช่น ยางกล้วยไข่ช่วยห้ามเลือด ผลดิบใช้บดเป็นยาผงแก้ท้องเสีย หัวปลีใช้แก้โรคกระเพาะ บำรุงกระดูก ผลการวิจัยพบว่าในกล้วยไข่ 1 ผล มีน้ำหนักประมาณ 40 กรัม มีเบตาแคโรทีน 108 ไมโครกรัม มีวิตามินอี 0.19 มิลลิกรัม วิตามินซี 4 มิลลิกรัม และให้พลังงาน 44 กิโลแคลอรี่
สำหรับเมนูที่ทำจากกล้วยไข่นั้นมีดังต่อไปนี้ กล้วยไข่เชื่อม โรลกล้วยไข่ราดช็อคโกแลต แพนเค้กกล้วยไข่ และอื่นๆ อีกมากมาย
หากท่านใดที่กำลังสนใจที่จะปลูก "กล้วยไข่" เรามีเคล็ดลับวิธีการปลูกง่ายๆ มาแนะนำ ขั้นตอนแรกเตรียมหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมต่อหลุม ปลูกด้วยหน่อใบแคบที่มีความสมบูรณ์ดี
ส่วนการปลูกให้วางหน่อพันธุ์ที่หลุมปลูกให้ลึก 25-30 เซนติเมตร โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ติดกับต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน กลบดินลงหลุมปลูกและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การให้ปุ๋ยโรยให้ห่างจากต้นประมาณ 30 เซนติเมตร ระยะเวลาประมาณ 60 วัน พร้อมเก็บเกี่ยวนำผลกล้วยไข่มาทานได้
อย่างไรก็ตาม หากรับประทานมากเกิดไปก็ส่งผลเสียได้เหมือนกันข้อควรระวังการทานกล้วยไข่ ไม่ควรรับประทานกล้วยไข่ในช่วงเช้าหลังจากตื่นนอนเพราะร่างกายได้ย่อยสารอาหารที่สำคัญไปหมดแล้ว เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมจากกล้วยในปริมาณมากอาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ และปวดท้อง ตามมา ควรรับประทานกล้วยไข่และกล้วยไข่ในรูปขนมหวานในปริมาณพอดี เพราะกล้วยไข่มีปริมาณน้ำตาลสูง หากรับประทานมากไปอาจได้รับน้ำตาลและพลังงานมากเกินความจำเป็นและหากรับประทานมากๆ ติดต่อกันนานๆ อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : honestdocs.com rakbankerd.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี