ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ไปเที่ยววัดทำบุญให้สบายกายสบายใจ หากท่านใดกำลังมองหาวัดที่จะไปทำบุญด้วยไปเที่ยวด้วย "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" มีวัดสำคัญนำเสนอ วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก คือ "วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร"
สำหรับ "วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร" ตั้งอยู่ริมป้อมเพชร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2310 พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตก วัดทองก็ถูกพม่าทำลายกลายเป็นวัดร้างมานานถึง 18 ปี ครั้นใน พ.ศ.2325 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกและสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานีแล้ว ต่อมาใน พ.ศ.2328 ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์วัดทองที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่กรุงแตกใหม่ทั้งอาราม
ในการปฏิสังขรณ์และการก่อสร้างครั้งนี้ กรมพระราชวังบวรมหาสุร สิงหนาท พระอนุชาได้ทรงร่วมปฏิสังขรณ์และก่อสร้างพระอุโบสถ พระเจดีย์ และหมู่กุฏิทั้งหมดด้วย เมื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จพระองค์ได้พระราชทานนามใหม่ตามชื่อของพระราชบิดา (ทองดี) และพระราชมารดา (ดาวเรือง) ว่า "วัดสุวรรณดาราราม"
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต พระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมาแห่งราชวงค์จักรี ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ต่อมาเป็นลำดับ มีการก่อสร้างพระวิหารเจดีย์ กำแพงแก้ว และปูชนียสถานอื่นๆภายในพระอารามแห่งนี้ นับได้ว่าวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหารเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรีโดยแท้ และเป็นวัดที่สวยงามมีสง่าน่าชมยิ่งนัก
โดยลักษณะสถาปัตยกรรมของวัด ตัวโบสถ์จะตกท้องช้าง ทำให้คล้ายท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นการเปรียบพระพุทธศาสนาดั่งนาวาธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์สมัยอยุธยา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังรูปยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วาดโดยพระยาอนุศาสน์จิตรกร จิตรกรเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้านบนของผนังรายล้อมไปด้วยภาพเทพพนมนับร้อยองค์ลอยอยู่ในวิมาน ที่มีขนาดลดหลั่นกันตามระยะใกล้-ไกล ที่เคยมีการวาดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ส่วนด้านล่างของผนังเป็นภาพเรื่องราวของมหาเวสสันดรชาดกและสุวรรณสามชาดก
ลักษณะเด่นที่น่าสนใจของวัดวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร พระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่นี้ สิ่งที่สวยงามสะดุดตาก็คือ หลังคาพระอุโบสถประดับช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันทำด้วยไม้สัก แกะสลักลายกนกเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ ปิดทองประดับกระจกตลอด เฉพาะคันทวยที่ประดับรับเชิงชายคาพระอุโบสถทุกตัวได้แกะสลักเป็นรายนกพันรอบทวย ลวดลายอ่อนช้อยงดงามยิ่งนัก
รูปทรงพระอุโบสถภายนอกเป็นรูปทรงเรือสำเภา นับเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นที่ยังเหลือไว้ให้ได้ศึกษา ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานซึ่งจำลองขยายส่วนจากพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระแก้วมรกต หรือพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดารามรูปทรงงดงาม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบเหนือพระรัตนบัลลังก์ที่ประดับกระจกสีด้านซ้ายและขวาเป้นที่ประดิษฐานนพดลมหาเศวตรฉัตรเพดานพระอุโบสถเป็นไม้จำหลักลายดวงดาราบนพื้นสีแดง ลงรักปิดทองประดับกระจกตรงกลางเป็นดาวประธาน ล้อมรอบด้วยดาวบริวาร 12 ดวง ภายในกรอบย่อมุมไม้สิบสองวิหารมีลักษณะเป็นอาคารเครื่องก่อ
ด้านหลังมีเจดีย์ใหญ่ โครงสร้างพระวิหารเหมือนกับอุโบสถแต่ไม่มีคันทวย และหน้าบันเป็นรูปช้างเอราวัณยืนแท่น ทูนแว่นฟ้า บนพานมีฉัตร 5 ชั้น ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปโลหะลงรักปิดทอง มีเรือนแก้วแบบเรือนแก้วพระพุทธชินราช แต่เป็นจำหลักเขียนสีปิดทองสิ่งสำคัญภายในวัดซึ่งถือว่ามีคุณค่าควรแก่การดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี นั้นก็คือภาพจิตรกรรมฝาฝนังในพระอุโบสถ และพระวิหาร
โดยเฉพาะภาพจิตรกรรมในพระอุโบสถซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี โดยได้รับความอุปถัมภ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตอนต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งเขียนเรื่องพุทธประวัติ ไตรภูมิ ทศชาติชาดก การลำดับภาพคือฝาผนังด้านข้างแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนบนเหนือขอบหน้าต่าง เขียนภาพเทพชุมนุม 2 ชั้น ชั้นละ 16 องค์ ชั้นบนเป็นรูปเทพ ชั้นล่างเป็นรูปเทพและยักษ์ซึ่งเทพชั้นนี้ถือเป็นเทพชั้นต่ำสุด เทพทุกพระองค์พนมมือหันหน้าไปทางองค์พระประธานภาพส่วนล่าง ที่ห้องภาพระหว่างช่องหน้าต่างเป็นภาพเรื่องทศชาติชาดกส่วนฝาผนังด้านหน้าเป็นภาพพุทธประวัติ ตอนมารวิชัย มีขนาดใหญ่เต็มผนัง
อย่างไรก็ตาม "วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร" ก็นับว่าเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพบนผนัง โบสถ์ ประติมากรรมและจิตรกรรมอื่นๆ ควรค่าแก่การรักษาไว้เพื่อให้ลูกหลานคนรุ่นหลังของเราได้ศึกษาและอนุรักษ์กันสืบทอดต่อไป และห้ามลืมท่องเที่ยววิถีใหม่รูปแบบ New Normal ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองและส่วนรวม
ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี