จากเรื่องราวครั้งก่อน เราได้เกริ่นถึง “ไอ้ส้มฉุน” เด็กวัดทรงเสวย จ.ชัยนาท ที่ชาวบ้านเดินทางมาขอพรเรื่องโชคลาภ จนกลายเป็นที่นิยมของคนที่ชอบเสี่ยงโชค ซึ่งกระแสการตอบรับของไอ้ส้มฉุนได้รับกระแสเป็นอย่างดีไม่แพ้ “ไอ้ไข่” เด็กวัดเจดีย์ อ่านข่าวที่น่าสนใจที่นี่ :สายบุญต้องแวะ! กราบ‘หลวงปู่ย้อย’ค้นเรื่องราวประวัติศาสตร์ ร.5 เสด็จเทียบเรือหน้า‘วัดทรงเสวย’ (คลิป)
วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้เดินทางไปยังวัดทรงเสวย เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องราวของ “ไอ้ส้มฉุน” นั้นมีจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าต่อๆกันมา ซึ่งวันนี้เราได้รับการยืนยันจาก “พระครูประกาศสรวุฒิ” เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย เกี่ยวกับเรื่องราวที่หลายๆ ยังไม่รู้ว่า “ไอ้ส้มฉุน” จริงๆ คือใคร? อ่านข่าวที่น่าสนใจที่นี่ : เปิดเรื่องปาฎิหาริย์'หลวงพ่อย้อย'วัดทรงเสวยเกิดปีเดียวกับ'ไอ้ส้มฉุน'มรณภาพเผาไม่ไหม้ศิษย์แย่งกินเนื้อ (คลิป)
พระครูประกาศสรวุฒิ ได้เล่าให้ทีมข่าวฯฟังว่า เรื่องเล่าของไอ้ส้มฉุนนั้น ถูกเล่าสืบต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่จากรุ่นสู่รุ่น เล่าสืบต่อกันมาว่า อดีตเจ้าอาวาส “หลวงปู่คล้อย” แห่งวัดทรงเสวย มีลูกศิษย์วัดคนโปรดอยู่ 1 คน ชื่อ “เจ้าส้มฉุน” เป็นเด็กกำพร้า พ่อและแม่ตายหมด เจ้าสมฉุนเป็นเด็กผมจุก หลวงปู่ ท่านเมตตาจึงได้นำมาอุปการะเลี้ยงดู สอนวิชาต่างๆจนได้อายุ 10 ขวบ เจ้าส้มฉุน มีความซุกซนตามวัยเด็กและได้หนีหลวงปู่ ไปเล่นน้ำที่ท่าน้ำกับเพื่อนหลายคน ระหว่างเล่นน้ำอยู่นั้น เจ้าส้มฉุน เกิด เป็นตะคริว ที่ขาร้องเรียกเพื่อนให้ช่วย เพื่อนเด็กวัดด้วยกัน คิดว่าเจ้าส้มฉุน ล้อเล่นจึงไม่ได้ไปช่วย จึงจมน้ำเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลวงปู่จึงเก็บศพของไอ้ส้มฉุนมาฝังไว้ที่ป่าช้า
หลังจากเจ้าส้มฉุนตายชาวบ้าน มักเจอวิญญาณเจ้าส้มฉุนมาชวนเล่นด้วย หรือ บ่อยครั้งมาขอขนมกิน หรือเวลามีงานวัดก็จะเห็นมาวิ่งบนศาลาบ้าง อยู่บริเวณท่าน้ำบ้าง อยู่เป็นประจำ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า หากใครอยากมีลูกหรือไม่อยากให้ลูกดื้อมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงเฉลียวฉลาดให้มาขอพร “เจ้าส้มฉุน” หรือมาขอพรขอโชคขอลาภ ก็จะสมหวังดั่งใจประสบความสำเร็จในเรื่องการงานต่างๆ
ส้มฉุนนั้นถือเป็นบรรพบุรุษของคนในชุมชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเป็นความเชื่อความศรัทธาของส่วนบุคคล ทุกสิ่งอยู่ที่ใจอยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละคน พระพุทธองค์สอนว่าอย่างมงาย สอนให้รู้จักไหว้บูชาบรรพบุรุษ ชาวบ้านบูชาส้มฉุนมา100กว่าปี ปีนี้ส้มฉุนมีอายุ 120 ปี หากมองในทางกลับกันหรือมองข้างเดียว อาจจะเป็นผลเสีย แต่หารู้ไม่ “ส้มฉุน” นั้น เป็นตัวดึงดูดทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในจังหวัดของเราได้ เงินที่นำไปบริจาคโครงการช่วยเหลือต่างๆก็มาจาก “ส้มฉุน” หากเป็นจังหวัดอื่นอาจจะโดนผลกระทบจากโควิด-19 แต่ในจังหวัดชัยนาทนั้น ก็ถือว่าเป็นผลดีมีนักท่องเที่ยวมาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้วัดได้มีความเจริญจังหวัดได้มีความเจริญ
พระครูประกาศสรวุฒิ เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เหนือสิ่งอื่นใดการที่เราจะมีอยู่มีกินมีชีวิตที่ราบรื่นได้นั้นก็ขึ้นอยู่ที่จิตใจของเราและตัวเราทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้เรามีแรงกำลังใจในบางครั้งแต่ความเป็นจริงแล้วตัวเราเองต้องบากบั่นพากเพียรขยันอดทนตั้งจิตตั้งใจทำงานทำหน้าที่ของเราให้ดีรับผิดชอบในส่วนของเราให้ดีดูแลขอบครัวดูแลบิดามารดาตอบแทนผู้มีอุปการะคุณให้ดี หากไม่ยึดติดมากเกินไปและชีวิตจะเป็นสุข”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี