วันที่ 27 ตุลาคม 2563 นายจำลอง บัวจันทร์ บ้านเลขที่ 56 หมู่ 4 ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เจ้าของ สวัสดีฟาร์มหนู นาอุทัยธานี ซึ่งเป็นเกษตรกรเลี้ยงหนูนาหรือหนูพุกในบ่อซีเมนต์ เปิดเผยว่า เลี้ยงหนูในบ่อซีเมนต์ โดยได้มีอาชีพดักหนูตามหัวไร่ ปลายนามาก่อน หลังจากนั้นก็ได้หนูที่ ดักมา นำมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ จนได้ลูกมา จึงขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันนี้มีหนูพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ประมาณ 90 ตัว หนูขุน ประมาณ 100 ตัว รวมทั้งลูกหนูที่ออกใหม่ แล้วมีหนูรวมทั้งสิ้นมากกว่า 300 ตัว ซึ่งการเลี้ยงหนูนั้น ถือว่าเลี้ยงง่ายไม่มีปัญหาอะไร ขยายพันธุ์ได้เร็ว
ส่วนอาหารก็หาเอาตามที่มีในท้องถิ่น เช่นข้าวเปลือก หัวมันสำปะหลัง และหญ้าเนเปีย เป็นการลดต้นทุน ทั้งนี้จากที่ตนเลี้ยงหนูมา พบว่าสุขภาพหนูที่เลี้ยงทุกตัวแข็งแรงดี ซึ่งแม่พันธุ์หนูหนึ่งตัว จะให้ลูกไม่ต่ำกว่า 3 ชุด/ปี ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5 ชุด/ปี แต่ละชุดจะให้ลูกตั้งแต่ 5 – 12 ตัว อยู่ที่อายุของหนูที่เลี้ยง
นายจำลอง กล่าวว่า หนูที่พร้อมจะเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ จะมีอายุตั้งแต่ 3 เดือน ซึ่งจะเริ่มขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อตั้งแต่อายุ 1 เดือนขึ้นไป แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกซื้อหนูอายุ 3 เดือน เพื่อสามารถนำไปเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ได้ทันที โดยจะขายคู่ละ 500 บาท แต่ถ้าซื้อหลายตัวก็จะมีส่วนลดให้ ส่วนหนูที่ขายเป็นหนูเนื้อจะขายในราคากิโลกรัมละ 180 บาท ซื้อจำนวนมากก็ลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่งหนูที่จะขายเป็นหนูเนื้อได้ก็ต้องมีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปเช่นกัน ตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ตัวละ 6 ขีด ตัวผู้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ตัวละ 8 ขีด หรือ 1 กิโลกรัม
สำหรับการทำความสะอาดบ่อเลี้ยงนั้น จะทำความสะอาด 3 วัน/ครั้ง โดยใช้ปูนขาวและอีเอ็มที่จะช่วยในการดับกลิ่น ซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดโรค บ่อที่ใช้เลี้ยงระหว่างหนูขุนและหนูพันธุ์ก็จะแตกต่างกัน บ่อที่เป็นบ่อคอนกรีตสี่เหลี่ยมจะใช้เลี้ยงหนูขุน ส่วนบ่อที่เป็นท่อจะใช้เลี้ยงหนูพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ซึ่งจากที่ได้เลี้ยงพบว่าขณะนี้ให้ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า จึงได้มีการขยายพื้นที่เลี้ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหนูโตไม่ทันขาย ซึ่งลูกค้ามีทั้งมาจากจังหวัดข้างเคียงเช่น ปทุมธานี นครปฐม กำแพงแสน ลบบุรี นครสวรรค์ และ อุทัยธานี และเป็นชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง มาซื้อไปเลี้ยงหลังจากที่ได้มาศึกษาดูงาน และมีมาซื้ออย่างต่อเนื่องเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่อยากจะเลี้ยงหนูเป็นอาชีพเสริมก็สามารถมาดูงานที่ฟาร์มของตนได้ ถือเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี
ส่วนเมนูหนูอบโอ่ง ด้วยสมุนไพร ที่กำลังเป็นที่นิยมนั้น โดยตนเองนั้นได้นำหนูนาอบโอ่ง ด้วยสมุนไพร นำไปจำหน่ายในงานเทศกาลรสชาติแห่งท้องถิ่น ในราคาตัวละ 300 บาท ภายในงานนั้นไม่พอขาย โดยหนูอบโอ่ง จะหนังกรอบเนื้อนุ่ม สุกทั้งตัว ไม่ไหม้เหมือนหนูปิ้งหรือหนูย่าง สีสันชวนรับประทาน และรสชาติอร่อย นอกจากจะทำเมนูอบโอ่งแล้ว หลายคนยังนำไปทำเป็นผัดเผ็ดหนู บางคนก็นำไปย่างให้สุกแล้วนำมาก้อย ก็ให้รสชาติอร่อยไม่แพ้เมนูอื่น ๆ ซึ่งต่อไปนี้ตนเองจะหนูนาอบโอ่ง โดยสมุนไพรไปจำหน่ายในตลาดนัดม้องแลง ชุมชนบ้านบึง ภายในวัดบ้านไร่ ทุกวันเสาร์ เย็น โดยเปิดวันแรกในช่วงเทศกาลลอยกระทง ให้กับลูกค้าที่ต้องการรับประทานหนูนาอบโอ่ง
นายจำลอง ได้กล่าวในตอนท้ายว่าซึ่งตอนนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านบึงได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีการเลี้ยงหนูนา เพื่อเป็นอาชีพเสริมในครอบครัว อีกทาง ในฐานะที่ตนเอง ได้ให้ความรู้กับชาวบ้านในชุมชนเกี่ยวกับการเลี้ยงหนู เพื่อให้ชาวบ้านได้เลี้ยงเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ขณะนี้มีชาวบ้านหลายคนที่ให้ความสนใจเริ่มทดลองเลี้ยงแล้ว และอีกหลายคนก็กำลังศึกษาวิธีการเลี้ยงอยู่ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 062-5356182
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี