ต้นกระบก เป็นต้นไม้ยืนต้น มีความสูงประมาณ 5-6 เมตร ลำต้นและกิ่ง สามารถนำไปเผา กลายเป็นถ่านหุงต้ม ทำอาหารในครัวเรือนดี เพราะถ่านจากต้นกระบกจะมีเปลวงไฟแรงกล้า เปลวไฟทนนาน จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และแม่บ้าน เป็นอย่างมาก
ส่วนผลต้นกระบก ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกจะมีสีแดง เมื่อหล่นลงจากต้น ตกลงพื้นดินจะเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย เมื่อวัว ควาย กินผลกระบกจะคลายเมล็ดออกมาตกลงที่พื้นดิน ซึ่งมีลักษณะเปลือกแข็งสีน้ำตาลอ่อน เมื่อแกะเปลือกหุ้มออกจะพบเนื้อในสีขาว หุ้มด้วยเปลือกสีน้ำตาลแก่ สามารถรับประทาน ทั้งเปลือกและเนื้อสีขายข้างในได้เลย ด้วยรสชาติ หอม มัน อร่อย แบบไทยๆ ถ้านำไปคั่ว ก็จะมีรสชาติ หอม มัน อร่อย ทวีคูณเป็นสองเท่า ไม่แพ้ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ยี่ห้อ ดังขึ้นห้าง เลยทีเดียว
อย่างเช่น หมู่บ้านคำแก้ว ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ มีต้นไม้กระบกผุดขึ้นตามหัวไร่ปลายนาตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก หากผลต้นกระบกสุกเต็มที่ จะตกหล่นลงเกลื่อนพื้นดิน ชาวบ้านจะนำผลกะบกไปแกะเปลือกออกรับประทาน บางคนรับประทานสด บางคนนำไปคั่วทอด รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน
ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อลูกกระบกถึงหมู่บ้าน เพื่อส่งขายยังกรุงเทพมหานคร จึงมีการแกะผลกระบกขายทั้งหมู่บ้านคำแก้วสร้างรายได้เป็นอย่างดี
นางเขื่อน คำบาง อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 บ้านคำแก้ว ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ขณะกำลังแกะลูกกระบก เตรียมขายให้กับพ่อค้า ซึ่งมารับซื้อถึงที่นี่ เล่าว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมก่อนนั้นยังมีการเลี้ยงวัว ควายกันอยู่ทุกเช้าจะปล่อยวัวควายออกไปกิน ผลกระบก วัวควาย กินผลแล้ว ก็จะคลายเมล็ดออกมาตกลงพื้นดิน เต็มไปหมด
จากนั้นตอนเย็นจะไปนำวัวควายกลับเข้าคอก พร้อมกับเก็บลูกกระบกมาแกะเนื้อในไปคั่วกินอย่างเอร็ดอร่อยทุกวันนี้ วัว ควาย เริ่มจะไม่มีแล้ว การทำนาปลูกข้าวใช้เครื่องจักรกลแทน วัวควายและช่วงนี้รอคิวรถเกี่ยวข้าวจึงออกหาเก็บลูกกะบกไปตากหากแห้งแล้ว นำเมล็ด ทำการแกะเอาเนื้อในสีขาว หุ้มเปลือกสีน้ำตาลออกแล้วบรรจุถุง 1 กิโลกรัม ราคา 50 บาทขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อ 7 วันต่อครั้ง ซึ่ง 1 ปี ลูกกระบกจะออกผล 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม และอีกครั้งเป็นช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนของทุกปี จึงมีการเก็บลูกกระบกแกะเนื้อในขายเกือบทั้งหมู่บ้านเพราะเสริมรายได้ดีมาก
นายปิ่น หอดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านคำแก้ว ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคมและดือนมีนาคม – เมษายน ของทุกปี ผลสุกลูกกระบกจะหล่นตกลงพื้นดิน จึงมีชาวบ้านไปเก็บผลกระบก แกะเมล็ดออกนำเนื้อในบรรจุถุงขายให้กับพ่อค้า ในทุก 7 วันจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่นี่ก็เป็นรายได้เสริม เป็นทุนทำนาปลูกข้าว ทำมากได้มาก ในการขายแต่ละครั้ง ได้เงินคนละหลายพันบาท บางคนได้เงินหลักหมื่นบาทก็มี ทำให้เศรษฐกิจในชุมชนดีมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี