22 กุมภาพันธ์ 2564 หลังจากที่เกิดกระแสข่าวเรื่องรักสามเศร้าเมียหลวง เมียน้อยอาละวาดกลางงานแต่ง ที่จังหวัดชัยนาท สร้างความแตกตื่นและมีการวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งประเทศมาตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้ผู้สื่อข่าวที่จังหวัดราชบุรี ได้ออกมาเปิดเผยชีวิตที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ในเดือนแห่งความรัก มีครอบครัวของชายวัย 44 ปี หน้าตาดี ชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ที่อยู่กินกัน ครองเรือนกันแบบสามคนผัวเมียแบบไม่มีปัญหา ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งหรืออิจฉาแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างสามีภรรยา ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาเผยเคล็ดลับของการอยู่กินกันสามคนผัวเมียว่า ตลอด7ปีที่ผ่านมา “แค่ขอให้รักเราเท่าๆกันก็พอ ทุกอย่างก็โอเค”
นายวัชระทร สร้อยน้ำ หรือ คุณตั้ม อายุ 44 ปี ชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวราชาน้ำตก 10 บาท พ่อบ้านใจกล้า เปิดใจกับผู้สื่อข่าว สำหรับการครองชีวิตรักของตนเองที่มีภรรยาด้วยกัน 2 คน และปัจจุบันมีบุตรชายและบุตรสาว ด้วยกันภรรยาละ 2 คน ว่าปัจจุบันตนเองได้อยู่ใช้ชีวิตการครองเรือนทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นเวลา 7 ปีแล้ว ซึ่งภรรยาทั้ง 2 คน รักกันมาก เป็นทั้งภรรยาที่ดีของสามีและเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่สำคัญไม่เคยทะเลาะกันเลย ทั้งจะเป็นการแก่งแย่งชิงดี ว่าใครจะสำคัญมากกว่ากัน ไปไหนหากไม่มีใครรู้ยังคิดกันเลยว่าเขาทั้ง 2 คนเป็นเหมือนแม่ลูกกัน ช่วยกันทำงาน ดูแลกัน ตนเองจะเรียกภรรยาคนแรกว่า “ภรรยาคนโต” ภรรยาที่สองจะเรียกว่า “ภรรยาคนเล็ก” จะไม่เรียก “เมียหลวง...เมียน้อย” ที่สำคัญทุกวันนี้ยังมีลูกที่เกิดกับภรรยาทั้ง 2 คน เป็นลูกของภรรยาคนโต ลูกสาวอายุ 15 ปี และลูกชาย อายุ 14 ปี ส่วนลูกของภรรยาคนเล็ก
เมื่อสอบถามทางคุณปลา หรือ นางสาววรพัฒน์ สร้อยน้ำ (ภรรยาคนโต) ชาวตำบลบ้านสิงห์ อำเภอ โพธาราม และนางสาวกชกร ทัพชม หรือ คุณหวาน (ภรรยาคนเล็ก) ทั้งคู่เป็นภรรยาของนายตั้ม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวราชาน้ำตก 10 บาท ที่ จ.ราชบุรี ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงเคล็ดลัดที่อยู่กินด้วยกัน 3 คนแบบนี้ มาตลอดระยะเวลา 7 ปีเศษ โดยไม่มีปัญหาอะไร รักกันดี ไม่มีการแย่งชิงดีกัน และไม่มีใครเป็นเมียหลวง เมียน้อย มีแต่ตำแหน่งภรรยาคนโต และภรรยาคนเล็ก
คุณปลาภรรยาคนโต เล่าว่า ตนรักและอยู่กับนายตั้มมาจนถึงปัจจุบันเข้า 18 ปีแล้ว ซึ่งตนเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว ตอนนั้นยังอายุได้ประมาณ 20 ปี มีอาชีพทำงานเย็บตุ๊กตาอยู่กับบ้าน และได้มารู้จักกับนายตั้ม เพราะนายตั้มโทรศัพท์เข้ามาพูดคุย ซึ่งตนเองคิดว่าตอนนั้นน่าจะมีใครนำเบอร์โทรของตนเองไปให้นายตั้ม ซึ่งวันแรกที่เขาโทรมาก็เป็นการแนะนำตนเอง และยังบอกด้วยว่า เป็นพ่อหม้ายภรรยาเพิ่งจะเสียชีวิตไป ตอนนั้นตนเองก็รู้ว่านายตั้มต้องจีบกับตนเองเป็นแน่ แต่ก็ยังไม่คิดอะไร เพราะยังไม่รู้จักกัน อีกทั้งตนเองก็ไม่ใช่เด็กเกเรหรือไปเที่ยวเตร่ที่ไหนทำแต่งานช่วยครอบครัว จนนายตั้มโทรมาพูดคุยกันทุกวันจนมีความสนิทกัน และพัฒนาไปสู่การเป็นคนรัก และตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ที่สำคัญคุณปลาบอกว่า “คุณตั้มเป็นคนที่พูดจาคารมดี” จนตนเองใจอ่อนตัดสินใจเป็นแฟนกัน
คุณปลาภรรยาคนโต เล่าอีกว่า หลังจากที่เป็นแฟนกัน คุณตั้มก็มีความเสมอต้นเสมอปลาย จากนั้นได้เลิกอาชีพเย็บตุ๊กตา หันมาขายหมูตามที่คนที่รู้จักเขาแนะนำ จนมาวันหนึ่ง นายตั้มผู้เป็นสามีได้เดินมาบอกกับตนเองว่า พี่ขอมีเมียเพิ่มอีกคน ซึ่งสาเหตุที่ครั้งแรกก็อึ้งนะ แต่ก็ลังเลว่าจะเอาอย่างไรดี แต่คุณตั้มบอกว่า ให้มาช่วยกันทำมาหากินก็เลยลองดู แต่ตนก็ได้แต่บอกนายตั้มไปว่า “ถ้ามีแล้วต้องรักเท่ากัน” ตั้งแต่วันแรกไปก็ปรับตัวเข้ากันได้ และแบ่งงานแบ่งหน้าที่กันทำ มาช่วยกันทำมาค้าขาย ทุกวันนี้ตนเองก็มีลูกกับคุณตั้ม 2 คน คนโตเป็นลูกสาววัย 15 ปี ส่วนลูกคนที่ 2 เป็นลูกชายวัย 14 ปี
ส่วนคุณหวาน (ภรรยาคนเล็ก) นางสาวกชกร ทับชม 25 ปี เป็นชาวบ้านในตำดอนคา อำเภอบางแพ เล่าว่า ตนเองได้เข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณตั้ม และเป็นภรรยาคนที่ 2 ตอนนี้มีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นหญิงวัย 6 ปี และลูกคนที่ 2 เป็นชายอายุ 2 ขวบ โดยเส้นทางความรักของตนเองกับคุณตั้มผู้เป็นสามี เกิดขึ้นด้วยการที่มีคนแนะนำตนให้นายตั้มเข้ามาจีบตนเอง ซึ่งในตอนนั้นคุณตั้ม ได้โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับตนเอง และแนะนำตัวให้ตนรู้จัก และบอกว่าตนเองมีภรรยาอยู่แล้ว และจะขอคบกับตนเองด้วย โดยบอกว่าจะให้มาช่วยทำงานด้านบัญชีที่เต้นท์รถของตนเอง และจะให้ไปช่วยภรรยาของตนเองขายหมูด้วย ตอนแรกก็รู้สึกกลัว แต่พออยู่ไปก็มีความสุข คุณปลาใจดี ตนได้เข้าไปช่วยงานคุณปลาทุกอย่าง และก็ทำงานด้านบัญชีที่เต้นท์รถด้วย ทุกวันนี้ตนก็อยู่กันอย่างมีความสุข เพราะคุณตั้มให้ความรักเท่าๆ กัน
โดยที่ทั้งคู่ คุณปลาและคุณหวาน ยังบอกว่า ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันต้องช่วยกันขายของทำมาหากิน ทุกวันนี้เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู และไอศกรีม ส้มตำ อาหารจารด่วน ซื่อร้าน “คุณตั้มราชาก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก) อยู่ติดริมถนนเพชรเกษม ถ.เพชรเกษม ตำบล หนองอ้อ อำเภอบ้านโป่ง ราชบุรี โดยที่รายได้ทั้งหมดจะเข้าระบบกงสี ซึ่งให้สิทธิ์คุณตั้มเป็นผู้บริหารเงิน โดยเงินที่ได้ใช้จ่ายก็มาจากที่ทางคุณตั้มแบ่งให้ใช้จ่ายตามชีวิตประจำวันตามประสาผู้หญิง และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นด้วย ประมาณเดือนละ 10,000 บาทต่อคน และไม่รวมเงินพิเศษที่คุณตั้มได้มาอีก ส่วนคำถามยอดฮิตคือ “เวลาอยู่ด้วยกันแบบส่วนตัวก็จะให้เวลานอนจะสลับวันกัน”
อย่างไรก็ดีทุกวันนี้ตัวคุณตั้ม กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเอง นอกจากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังทำธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งเป็นการขายที่ดินร้อยกว่าไร่ ใน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเวลามีผลกำไรได้ค่านายหน้ามาในแต่ละครั้ง หากได้มา 1 แสนบาท ตนก็จะเรียกภรรยาทั้ง 2 คนมา ทั้งต่อหน้ากัน และตนเองก็เก็บไว้ 2 หมื่นบาท ที่เหลือให้ภรรยาไว้คนละ 4 หมื่นบาท ซึ่งตนเก็บไว้แค่ 2 หมื่นบาทก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ที่เหลือก็ให้ภรรยาไว้เพราะต้องเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งต้องมีลูกทั้ง 4 คนที่ต้องเลี้ยงดูรวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งส่วนตัวและครอบครัวด้วย
จากกระแสดาม่าที่ออกมาหลังจากที่เป็นข่าวไปว่า ทั้งคู่นั้นอยู่ด้วยกันได้เพราะเรื่องเงินที่ได้มาเดือนละ 10,000 บาท จากนายตั้มผู้เป็นสามีนั้น เรื่องนี้ทั้งคู่ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เป็นความจริง สิ่งที่ทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกัน 3 คนผัวเมียเพราะคำว่าครอบครัว เราอยู่กันมานานแล้ว 7-8 ปีแล้ว เงินมันก็ต้องใช้ เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ นายตั้มผู้เป็นสามีเคยเป็นเจ้าของเต้นท์รถและล้มละลายหมดเนื้อหมดตัวไปกว่า 16 ล้านบาท ทั้งคู่ก็ไม่เคยทิ้งสามีไปมีครอบครัวใหม่ ก็ช่วยกันเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ขายอาหาร และส้มตำมากันจนถึงทุกวันนี้
หากใครที่สนใจอยากจะไปชิมก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก สามารถเดินทางไปได้ที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวราชาน้ำตก 10 บาท อยู่ติดริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม. ตำบลหนองอ้อ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โทรศัพท์ สอบถามรายละเอียดที่ 086 166 6402
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี