เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ลุงวัย 56 ปีออกไปที่นาปรับพื้นที่เตรียมปลูกข้าว กลับหายไปข้ามวัน เมียตกใจแจ้งตร.พร้อมกู้ภัยและชาวบ้านออกตามหาข้ามคืนยังไม่เจอตัว สุดท้ายต้องพึ่งหลวงพ่อบอกผีบังตา เดี๋ยวจะกลับมาเอง เมียและญาติตกใจแทบช็อคเช้าวันนี้โผล่ถึงบ้าน เจ้าตัวเปิดใจไม่รู้อะไรพาไปนอนเถียงนาชาวบ้าน เห็นคนแต่เรียกไม่ไหวเพราะไม่มีแรงเชื่อเจ้าที่เจ้าทางเล่นงานปรับที่นาไม่บอกกล่าว

วันนี้ (29 เม.ย.64) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีรายงาน ค่ำวานนี้ (28 เม.ย.64) นางรัชนี ผงศรีนวล อายุ 56 ปีชาวบ้านบ้านโนนทัน หมู่ 1 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีเดินทางขึ้นสภ.บ้านดุง  แจ้งความว่า สามีของตนเองคือนายพนม ผงศรีนวล อายุ 56 ปีได้หายไปจากที่นาท้ายหมู่บ้านบ้านโนนทันตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่ 27 เม.ย.64 จนถึงมืดค่ำยังไม่กลับบ้าน ตนเองออกไปตามที่นาพบเพียงรถยนต์และโทรศัพท์มือถือ รองเท้าอยู่บริเวณเถียงนา ส่วนตัวคนไม่เห็น ร้องเรียกเท่าไรก็ไม่เจอ หวั่นจะเป็นอันตรายจึงมาแจ้งความ ขณะที่ตร.แจ้งว่าคนหายไม่ถึง 24 ชม.ลองให้ไปตามหาดูก่อน

ในเวลาต่อมาหน่วยกู้กัยวีอาร์บ้านดุง กู้ภัย ตร.ทางหลวง และชาวบ้านบ้านโนนทันได้ออกตามหานายพนมที่บริเวณทุ่งนาท้ายหมู่บ้านบ้านโนนทันตลอดทั้งคืนแต่ไม่เจอตัว จนต้องยุติการค้นหา ต่อมาเมื่อเช้าวันนี้ (29 เม.ย.64) ปรากฏว่านายพนมได้ซ้อนท้ายจยย.น้องชายกลับมาถึงบ้าน ทั้งเมีย ญาติและชาวบ้านต่างพากันตกใจแทบช็อคและดีใจเพราะจู่ๆ นายพนมก็ซ้อนท้ายรถกลับมาถึงบ้าน อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทางหรือผีบังตาเอาไว้ทำให้ชาวบ้านที่ออกตามหาไม่เจอนายพนมตลอดทั้งคืน

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 162 หมู่ 1 บ้านโนนทัน ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีซึ่งเป็นบ้านของนายพนม ผงศรีนวล อายุ 56 ปีชาวบ้านที่หายไปข้ามวัน พบกับนายพนม และนางรัชนี ผงศรีนวล ภรรยา มีชาวบ้านเดินทางมาเรื่องราวที่เกิดขึ้นและมาผูกข้อต่อแขนให้หลังทราบข่าวนายพนมกลับมาแล้ว

โดยนางรัชนี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บ่ายโมงของวันที่ 27 เม.ย.64 ที่ผ่านมาสามีที่ออกไปนาไม่กลับเข้าบ้าน ตนเอะใจช่วงเย็นวันเดียวกันจึงออกไปตามหาก็ไม่เจอไปถามน้องชายก็บอกว่า ไม่เห็นมาหาทั้งวัน พอมาถึงเย็นเมื่อวานก็ยังไม่เจอเริ่มเอะใจก็เลยไปแจ้งความ ตร.สภ.บ้านดุง แต่ตร.บอกว่ายังไม่ถึง 24 ชม.ลองให้ไปหาดูก่อน จากนั้นตนเองและชาวบ้านหน่วยกู้ภัยพากันออกไปหาทั้งคืนก็ไม่เจอประกอบกับฝนตกจึงยกเลิกการค้นหา และเมื่อเช้าวันนี้ตนเองและญาติพากันไปหาหลวงพ่อที่วัดป่าโนนสมบูรณ์

"หลวงพ่อท่านก็บอกว่า คนดีไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็กลับมาไม่เกินเที่ยงวันนี้ ผีบังตาเพราะไปทำอะไรผิดกับเจ้าที่เจ้าทาง  เดี๋ยวหลวงพ่อจะสวดช่วย  ส่วนอีก 2 หมอดูก็บอกว่าผีแม่ม่ายนำไปซ่อน พอตนเองกลับมาถึงบ้านหลังจากไปดูหมอ ถึงกลับตกใจแทบช็อคเพราะสามีมาถึงบ้านแล้ว หลังจากได้สามีกลับมาแล้วคงต้องนำขันห้าไปขอขมาเจ้าที่เจ้าทางอีกครั้ง"นางรัชนี กล่าว

ขณะที่นายพนม กล่าวว่า บ่ายวันที่ 27 เม.ย.ตนเองขับรถยนต์ออกไปที่นา ไปดูรถไถปรับที่นาเพิ่มเติม หลังจากรถไถปรับแล้วตนเองก็เอาจอบไปปรับคันนา จากนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้นเหมือนสิ่งมองไม่เห็นดึงไป โดยตนไปเถียงนาของชาวบ้านที่อยู่ห่างไปเกือบ 1 กม.ตอนที่ชาวบ้านออกตามหา ไม่ได้ยินเสียง มองเห็นหลานอยู่จะเรียกก็ไม่มีแรง ถามว่าทำไมเดินไปเถียงนาตรงนั้น ตอบไม่ได้และไม่รู้เหมือนกันไม่รู้สึกตัวด้วย ทั้งคืนนอนที่เถียงนาชาวบ้านทั้งคืนข้าวก็ไม่ได้กิน

"เชื่อว่าเกิดจากความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงที่นา ไม่อยากลบหลู่เพราะไปปรับที่นาแล้วไม่บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางจนทำให้เกิดขึ้นแบบนี้ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและเพลีย ทั้งคืนนอนเถียงนาชาวบ้าน พอเช้าวันนี้ก็เดินออกจากเถียงนามาเห็นรถจยย.น้องชายขับผ่านมาพอดี น้องชายก็ตกใจบอกว่ามาๆ รีบกลับไปบ้านทุกคนรออยู่ ตนเองดีใจและโชคดีที่กลับมาเห็นหน้าเมียและญาติพี่น้องอีกครั้ง"นายพน กล่าว

ขณะที่ชาวบ้านพากันเชื่อเหตุการณ์ครั้งนี้เพราะผีบังตาทำให้มองไม่เห็นนายพนม เพราะตลอดทั้งคืนชาวบ้านก็ตามหา โดยนายพิพัฒน์ ดุงศรีแก้ว  ชาวบ้านบ้านโนนทัน บอกว่า เชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทางผีบังตาทำให้ชาวบ้านมองไม่เห็น แถวนั้นเขาเรียกหนองแหล และมีดอนปู่ตา ศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อคืนตนเองก็ออกตามหาช่วยชาวบ้านก็ไม่เจอแต่มารู้ตอนเช้าว่า นายพนมไปนอนเถียงนาตนเองที่ห่างไปเกือบ 1 กม.เดินไปได้อย่างไรเพราะปกตินายพนมจะไม่ค่อยเดินไปที่เถียงนาตรงนั้น แต่ก็ดีใจที่นายพนมกลับมาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด